"ริท ริท ริท… วริทธิ์!" เธอเรียกเขาเสียงดัง พลางเอื้อมมือเเตะเเขนเขาเบาๆเพื่อเรียกสติชายหนุ่มที่กําลังนั่งเหม่อ สายตากลมโตมองตึกสูงตรงหน้าเส้นขอบฟ้าเหมือนดึงความคิดเขาออกไปไกลเเสนไกล
ชายหนุ่มกระพริบตาถี่ๆ ราวกับเพิ่งถูกดึงกลับมาจากโลกอีกใบ เขาหันมามองหญิงสาวตรงหน้า แววตากลมโตฉายแววอ่อนโยนที่เธอคุ้นเคย แต่ก็แฝงความกังวลที่บอกไม่ถูก
“อะ… โทษที มะลิเราคิดอะไรเพลินไปหน่อย” ริทยิ้มจางๆ พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่าง
มะลิขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอรู้จักเขามานานเกินกว่าจะเชื่อรอยยิ้มแบบนั้นได้ “คิดเรื่องอะไรอยู่เนี่ยอย่างกับอกหักจากใครมา”
ริทเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “บ้า..ไม่มีหรอกใครจะมาหักอกเราได้” เขาหัวเราะเจื่อนๆทั่งที่ในใจของชายหนุ่มเจ็บเเทบไม่ไหวเมื่อรู้ว่ามะลิสาวที่เขาเเอบชอบตั้งเเต่อนุบาลมีเเฟนเเล้ว
"หราางั้นก็ทําโปรเจ็คส่งอาจาร์ยต่อเถอะเดี๋ยวจะไม่จบเอาน๊าา" เธอพูดพลางก้มหน้าก้มตาทําโปรเจ็คต่อในห้องที่ทํางานที่มหาลัยเต็มไปด้วยเสียงพิมพ์แป้นคีย์บอร์ดและกระดาษที่ถูกพลิกไปมา
ริทนั่งก้มหน้าก้มตาทําโปรเจ็ค ทั้งที่ในใจพยายามข่มความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ เวลาได้มองมะลินั่งทำงานอยู่ข้างๆ แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร เสียงรถยนต์ก็ดังขึ้นหน้าตึกเรียน
“ริท… ฉันกลับก่อนนะ แฟนมารับไปกินข้าวแล้วดึกมากเเล้วด้วยอย่าหักโหมมากล่ะ” มะลิหันมายิ้มให้ก่อนเก็บของใส่กระเป๋าอย่างเร่งรีบ
เธอเดินออกไปพร้อมรอยยิ้มที่สดใส… รอยยิ้มที่ไม่ได้มีไว้สำหรับเขา
ริทได้แต่นั่งนิ่ง ใจเหมือนถูกบีบจนเจ็บแน่น. แฟน… แฟนงั้นเหรอทําไมคนนั้นไม่ใช่เรากันนะ
เขาฝืนเก็บของอย่างเงียบๆ ก่อนเดินออกจากตึกไม่มีกระจิตกระใจจะมานั่งทํางานต่อ
ก้าวแรกที่เหยียบพื้นนอกตึก
“แจะะะ!!”
ริทก้มลงมองรองเท้าผ้าใบคู่โปรดที่บัดนี้มี ขี้หมา ติดหนึบเต็มฝ่าเท้า
“โธ่เว้ย… วันอะไรกันวะเนี่ย” เขาสบถเบาๆ อย่างหงุดหงิด
ไม่อยากกลับบ้านทั้งที่ใจยังหนักอึ้ง เขาเลยแวะร้านสะดวกซื้อ หยิบเหล้ากระป๋องขึ้นมาหลายกระป๋อง กะจะดื่มให้ลืมทุกอย่างพอเดินออกจากร้าน กำลังจะเปิดฝากระป๋องแรก
ป๊อก! … แจะะะะ!!
เสียงบางอย่างตกใส่หัวเต็มๆ ร้อนชื้นและเหม็นคาวแปลกๆ
ริทเงยหน้าขึ้นมอง เห็นนกพิราบเกาะอยู่บนสายไฟ ส่งสายตาเหมือนเย้ยหยัน
“โอ้ยยยย!! นกเอ๊ย… มึงมารุมซ้ำกูทำไมเนี่ยยย!!”
เขายืนอยู่หน้าร้านเหล้า ในสภาพรองเท้าเลอะขี้หมา หัวเปื้อนขี้นก มือหนึ่งถือเหล้า อีกมือหนึ่งปาดคราบออกจากผม
ชีวิตในวินาทีนั้น ช่างน่าสมเพชและขำขันในเวลาเดียวกัน…
เหล้ากระป๋องแรก… ตามมาด้วยกระป๋องที่สอง และสาม
ริทนั่งพิงกำแพงหน้าร้านสะดวกซื้อ ปล่อยให้รสขมเฝื่อนวิ่งลงคอเหมือนจะชะล้างความเจ็บปวดในใจ แต่ยิ่งดื่มก็ยิ่งเหมือนรอยแผลลึกถูกกดซ้ำ
“แฟนเหรอ… ฮ่าๆๆ โธ่เอ๊ย ” เขาหัวเราะเสียงแหบพร่า น้ำตาเอ่อคลอโดยไม่รู้ตัว
เมื่อความเมาเริ่มครอบงำ ริทก็ลุกขึ้นยืนโซซัดโซเซ รองเท้าที่เปื้อนขี้หมายังไม่ได้ล้าง หัวก็ยังมีกลิ่นขี้นกติดอยู่ แต่เขาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว
โลกทั้งใบเหมือนหมุนวน เขาเดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงถนนใหญ่ไฟสัญญาณเปลี่ยนเป็นเขียวสำหรับรถ แต่ริทกลับก้าวช้าๆ ลงไปกลางทาง มองแสงไฟหน้ารถที่วิ่งเข้ามาราวกับละอองดาว
เสียงบีบแตรดังลั่น “ปี๊นนนนนนนนน!!!”
“อ่า… แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ” เขาพึมพำเบาๆ รอยยิ้มจางๆ ปรากฏบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
ทันใดนั้น
โครมมมม!!!
แรงกระแทกรุนแรงปะทะร่าง ร่างของริทกระเด็นลอย ก่อนตกกระแทกพื้นถนนอย่างจัง
เสียงผู้คนกรีดร้องรอบข้างดังระงม แต่ในหูเขากลับได้ยินเพียงเสียงหัวใจตัวเองที่เต้นแผ่วลง… แผ่วลง…
ดวงตากลมโตค่อยๆ ปิดลง พร้อมกับความมืดที่กลืนกินทุกสิ่ง…
เเฮร่สวัสดีค่ะนักอ่านทุกท่านเรื่องนี้เป็นเรื่องเเรกของมัฟฟิ่นถ้าผิดพลาดประการใดกราบขออภัยทุกท่านมากๆเลยนะคะมีคําเเนะนําคําติชมเพื่อปรับปรุงเเก้ไขให้นักเขียนมือใหม่คนนี้พร้อมปรับปรุงให้ดีขึ้นเเน่นอนค่ะฝากเอ็นดูน้องริชในอ้อมกอดมัมมี๊ทุกคนด้วยนะค่า