ดร.เตชภณ ภูวนนท์โภคิน
สวัสดีครับ ผมชื่อ เต อายุ 31 ปี เจ้าของโรงแรมหลายแห่งในประเทศ และบางครั้งรับงานเป็นวิทยากรหรืออาจารย์พิเศษตามมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะงานไหน ผมก็จริงจังและเต็มที่เสมอ ลูกน้องกับลูกศิษย์มักจะมองว่าผมดุและสายเนี้ยบ… ซึ่งผมก็ไม่ปฏิเสธเพราะทุกอย่างจะดี ต้องเริ่มต้นจาก “วินัย” คุณเห็นด้วยกับผมไหมครับ?
ปานอัปสร ยุพาสรวง (แป้งนุ่ม)
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อแป้งนุ่ม อายุ 25 ปี เจ้าของร้านคาเฟ่เล็กๆ ชื่อ The Angel’s Nook Café ฉันลาออกจากงานประจำมาเปิดร้านของตัวเองได้ประมาณปีเศษ เพราะอยากมีอิสระ ไม่อยากถูกขังอยู่ในกรอบเดิมๆ แต่การทำร้านให้เติบโตอย่างยั่งยืนนั้น ไม่ง่ายเลย ฉันอาจต้องเรียนรู้เพิ่มเติม หรือสมัครคอร์สบริหารธุรกิจ เพื่อให้ร้านของฉันอยู่รอดในระยะยาว แต่เอาจริงๆ แค่คิดก็เหนื่อยแล้วค่ะ! แค่อยากใช้ชีวิตตาม 'ความปรารถนา' มันไม่ง่ายเลย
-------------------------------------------------------------------------------------------
ยามเย็นใกล้ค่ำ ในห้องสวีทสุดหรู กลิ่นหอมละมุนของเทียนหอมเกรดพรีเมี่ยมลอยอบอวลอยู่ทั่วอากาศ แสงไฟสลัวตัดกับประกายแสงจากเทียนนับสิบเล่มที่ส่องวูบไหวไปตามจังหวะลมหายใจของค่ำคืน สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ลึกลับ และชวนให้หัวใจเต้นแรง
“ซู๊ด... เห้อ…”
เสียงหายใจเข้าออกที่สั่นเครือของร่างเล็กซึ่งกำลังคุกเข่าอยู่บนพรม โดยมีเพียงชุดนอนเนื้อผ้าซาตินสีขาวบางคลุมกาย มือน้อยๆ สองข้างกุมและบีบกันไปมาอย่างประหม่า
เอี๊ยด...
เสียงประตูห้องน้ำค่อยๆ เปิดออก เผยเงาร่างสูงที่ยืนอยู่ในความมืด
ชายหนุ่มก้าวออกมาช้าๆ — ท่อนบนเปลือยเปล่า เผยให้เห็นมัดกล้ามแน่นเรียงตัวราวถูกสลักขึ้นมาอย่างประณีต เขาเดินมาหยุดยืนเบื้องหน้าร่างเล็ก ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก
“พร้อมไหมคะ”
เขาไม่เพียงแค่ถาม มือหนาเอื้อมขึ้นเชยคางเธอเบาๆ บังคับให้ดวงตาคู่นั้นต้องสบกับเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“พะ... พร้อมค่ะ”
ร่างเล็กสบตาเขากลับด้วยแววตาที่หวาดเกรงแต่ไม่หวาดกลัว เขาคือพื้นที่ปลอดภัยของเธอ — และทุกสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ล้วนเกิดขึ้นด้วย ‘ความยินยอม (Consent)’ ของทั้งสองฝ่าย
“ค่ะ? ค่ะอะไรนะคะ”
ชายหนุ่มเอ่ยถาม พลางหรี่ตาลงเล็กน้อย จ้องลึกเข้าไปในแววตาของเธอ น้ำเสียงของเขาสุขุม เยือกเย็น จนหญิงสาวแทบสะกดความตื่นตระหนกในใจไม่อยู่
‘เขาต้องโกรธฉันมากแน่ๆ... ไม่สิ แป้งนุ่ม อย่าเผลอเรียกเขาแบบนั้น!’
“ขอโทษค่ะ... หนูพร้อมแล้วค่ะ นายท่าน”
“ฮึ! ลืมอีกแล้ว แต่ไว้ค่อยสะสางทีหลัง…เรามาจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ก่อน”
เขาปล่อยมือจากใบหน้าจิ้มลิ้ม ก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูง แต่แววตาเยือกเย็นคู่นั้น... ยังไม่ละไปจากดวงตากลมใสของสาวน้อยแม้แต่น้อย
“ไหน สารภาพมาสิคะ ว่าวันนี้หนูทำอะไรผิดมา”
“หะ... หนูออกไปข้างนอกคนเดียว โดยที่ไม่ได้บอกนายท่านก่อนค่ะ จากนั้นหนูก็หลง ฮึก! เกือบตกอยู่ในอันตราย ทำให้นายท่านต้องเป็นห่วง...”
เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น ดวงตาแดงก่ำเผยความรู้สึกผิดอย่างชัดเจน น้ำตาที่กลั้นไว้นานค่อยๆ เอ่อคลอ ก่อนจะไหลลงมาเงียบๆ
“หนูผิดไปแล้วค่ะ... นายท่าน ฮึก...!”
ร่างสูงยืนฟังคำสารภาพของสาวน้อยอย่างตั้งใจ แววตาแน่วแน่ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉย เขาไม่เอ่ยคำใด ทว่าความเงียบของเขากลับเปี่ยมไปด้วยแรงกดดันที่ยากจะทานทน
“นายท่าน... หนูผิดไปแล้วค่ะ — ฮืออ หนูจะไม่ทำอีกแล้วจริงๆ ค่ะ...”
เมื่อเห็นว่าเขายังคงนิ่งเฉย ไม่เอ่ยแม้แต่คำเดียวความรู้สึกผิดในอกเธอก็เอ่อล้นจนแทบกลั้นไม่อยู่
‘ได้โปรด... อย่าเมินเฉยหนูแบบนี้เลย หนูสัญญาว่าจะไม่ดื้ออีกแล้ว...’
“ฉู่วว... เงียบครับ”
เขาออกคำสั่งด้วยเสียงที่นิ่งเรียบ
“ฮึบ!”
พอได้ยินเช่นนั้น ร่างเล็กก็พยายามฮึบกลั้นเสียงสะอื้นทันที แต่มิอาจกลั้นน้ำตาให้หยุดไหลลงได้แม้แต่น้อย
“เด็กดื้อ...” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยช้าๆ อย่างนิ่งเฉียบ ก่อนเว้นจังหวะสั้นๆ แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น
“ไปหยิบไม้เรียวมาครับ”