หยางจื่อเว่ยรู้สึกตัวขึ้นมาด้วยความปวดร้าวไปทั้งร่างกายและจิตใจ
นางเหลือบมองบุรุษรูปงามที่แนบอยู่ข้างกายของนางด้วยความเจ็บปวด อ่อนล้า
พิษยากำหนัดคลายแล้ว แต่ร่างกายของนางกลับปวดร้าวระบมไปทั้งร่าง
ถึงร่างกายจะบอบช้ำและอ่อนล้าเพียงใด
นางก็ไม่อาจยอมหลับตานอนพักต่อไปได้เช่นบุรุษข้างกาย
เพราะนางจะไม่ยอมให้ผู้ใดมาพบเห็นรองแม่ทัพหยางจื่อเว่ยในสภาพแบบนี้เด็ดขาด
หยางจือเว่ยรวบรวมพลังปราน ฝืนขยับร่างกายเพื่อออกจากอ้อมอกของเขา
นางใช้ความเคลื่อนไหวอันแผ่วเบา
ค่อย ๆ ยกแขนแกร่งกำยำของเขา ออกจากร่างกายที่บอบช้ำของนาง
และฝืนถอยห่างออกมาจากร่างกายที่ชวนลุ่มหลงนั้น
ไม่ให้เขาได้ทันรู้สึกตัว
นางรีบลุกมาหาอาภรณ์ที่พอจะสวมใส่ได้แทนที่อาภรณ์ทหาร
ซึ่งบุรุษที่ยังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนตั่งฉีกทึ้งทิ้งไว้เกลื่อนกระโจมที่พักเมื่อคืนนี้
นางเหลือบมองเขาด้วยอารมณ์โกรธคุกรุ่น
เมื่อต้องเก็บเศษซากชุดชั้นในตัวโปรดที่โดนเขาฉีกทึ้งจนไม่เหลือชิ้นดี
นางต้องทำลายหลักฐานทุกอย่างที่แสดงความมีตัวตนของนางในกระโจมแห่งนี้
เจ็บปวดเหลือเกิน เจ็บปวดไปหมดทั้งกายและใจ
นางเหลือบมองบุรุษที่ยังคงหลับใหลตรงหน้าด้วยสายตาคลุมเครือ
ไม่อาจบอกได้ว่านางรู้สึกเช่นไรกับบุรุษตรงหน้า
อืม โชคดีเท่าไหร่แล้วที่เป็นเขา
ถึงอย่างไรก็ยังดีกว่า
เพียงแค่แก้พิษยากำหนัดที่โง่เง่านี้
ทำให้นางต้องสูญเสียพรหมจรรย์ให้กับคนที่ไม่ได้รัก และเกลียดชัง
แต่นางจะให้เขาได้เห็นนางในสภาพนี้ไม่ได้
นางจะให้เขาหัวเราะเยาะนางไม่ได้หรอก
เช่นนั้น นางจะต้องรีบหนีออกจากกระโจมนี้ไป
ก่อนที่เขาจะตื่นขึ้นมาด้วยสติที่สมบูรณ์และเห็นเต็มตาว่าเป็นนาง
สตรีที่เขาเคยโกรธและรังเกียจจนไม่แม้แต่จะชายหางตาเหลือบมอง
เช่นนั้นแล้ว
จะให้ผู้ใดรับรู้เรื่องในคืนที่ผ่านมาไม่ได้
อย่างไรนางก็จะไม่มีวันยอมรับ