รอยยิ้มแห่งความดีใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวย ขีดสีแดงสองเส้นนี้อาจจะช่วยทำให้ความสัมพันธ์อันเปราะบางของปัณทิตากับคีตะให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม หญิงสาวลูบหน้าท้องตัวเองราวกับเป็นของล้ำค่า ดังคำที่ว่าโซ่ทองคล้องใจ
“แป้งมีเรื่องอยากจะคุยด้วยค่ะ” หัวใจพลันเต้นแรง มือกำแน่นระงับความตื่นเต้น ขณะสายตามองใบหน้าสามีผู้เป็นที่รักด้วยแววตาหวาดหวั่น เธอยอมรับว่าลึก ๆ ตัวเองกลัวคำตอบของเขาหลังจากรู้ว่าเรากำลังจะมีลูกด้วยกันเพราะที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของเราไม่สู้ดีนัก เราแทบจะไม่ได้พูดคุยกันด้วยซ้ำ สามีของเธอทำงานเป็นนักบิน สายการบินระหว่างประเทศ เขารับงานบินทั้งเดือนราวกับอยากเลี่ยงเพื่อจะเจอหน้ากัน
เธอพยายามไม่คิดแบบนั้น แต่มันก็อดน้อยใจไม่ได้จริง ๆ
“ที่จริงผมก็มีเรื่องอยากคุยกับคุณเหมือนกัน” เสียงทุ้มเอ่ยจริงจัง แววตาของเขาไร้ประกายเฉกเช่นทุกครั้งที่มองหน้าเธอ ความรัก ความเอ็นดู ความอ่อนโยนมันหายไปอย่างไร้ร่องรอย ครั้นเธอจะออกตามหามันกลับมา เขากลับโยนมันทิ้งอีกราวกับว่าเธอไม่สมควรที่จะได้รับมันอีกแล้ว
ผู้ชายที่หลั่งน้ำตาเพราะซาบซึ้งใจในวันที่เธอตอบตกลงแต่งงานกับเขา ปัณทิตาเอาแต่ถามตัวเองซ้ำๆ ว่าผู้ชายคนนั้นหายไปไหนแล้ว แต่เธอไม่เคยกล้าถามมันออกไป
“เรื่องอะไรเหรอคะ”
“เรื่องของเรา คุณจะให้ผมพูดก่อนหรือคุณอยากจะพูดก่อน”
“คุณคีย์พูดก่อนก็ได้ค่ะ”
“ผมอยากหย่ากับคุณ” น้ำเสียงแน่วแน่บ่งบอกว่าเขาคงคิดทบทวนมาอย่างดีแล้ว ปัณฑิตตามือสั่นจนต้องใช้อีกมือกุมมันไว้แน่น เธอเคยคิดว่าเขาอาจจะพูดประโยคนี้สักวันหนึ่ง หวังลึก ๆ ว่ามันไม่เกิดขึ้นเพราะเธอไม่คาดคิดว่าเรื่องของเรามันจะเดินทางมาถึงทางตันแล้วจริง ๆ
เราสองคนเพิ่งแต่งงานใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสองปี
“คุณคีย์อยากจะหย่ากับแป้งเหรอคะ” เธอเอ่ยถามเสียงสั่น เก็บซ่อนเรื่องราวดี ๆ เอาไว้ด้านหลัง
คาดว่าข่าวดีของเธอคงเป็นข่าวร้ายสำหรับเขา
“ผมไม่คิดว่าคุณจะไม่รู้คำตอบ” เขากับเธอควรแยกย้ายกันได้แล้ว ขืนดันทุรังอยู่กันไปมีแต่จะทำให้ชีวิตไม่มีความสุข ยิ่งนานวันเข้ายิ่งทำให้รู้สึกอึดอัด
“แป้งไม่รู้เลยค่ะ” เธอไม่เคยรู้เลยว่าเขาต้องการจะปล่อยมือเธอ ไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองทำผิดพลาดตอนไหน ไม่รู้เลยว่าเขาหมดรักเธอแล้ว ทั้ง ๆ ที่เธอยังรักเขาสุดหัวใจ “ถ้าแป้งทำอะไรให้คุณไม่พอใจ แป้งพร้อมปรับตัวให้นะคะ เราลองพยายามกันอีกสักหน่อยได้ไหมคะ ถือว่าแป้งขอร้อง แป้งไม่พร้อมจะหย่ากับคุณจริง ๆ”
“เราจบกันด้วยดีเถอะ อย่าให้ผมต้องพูดทำร้ายจิตใจคุณไปมากกว่านี้ ต่อให้คุณจะร้องไห้อ้อนวอนยังไงผมก็ไม่เปลี่ยนใจ”
“สองปีที่ผ่านมา คุณไม่เคยรักแป้งเลยเหรอ” น้ำตาไหลนองหน้าทว่าอีกฝ่ายไม่แม้แต่จะยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้กัน เขาก็คงทำอย่างที่พูดจริง ๆ ต่อให้เธออ้อนวอนเขาจนขาดใจ เขาก็คงไม่เห็นใจ คนอย่างคีตะตัดสินใจอะไรไปแล้วไม่มีวันย้อนกลับ เขาเป็นคนเด็ดขาดมากกว่าใคร พูดคำไหนคำนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถเป็นกัปตันรับผิดชอบชีวิตคนจำนวนหลายร้อยคนบนเครื่องบินได้
“ผมคิดว่าเราสองคนตัดสินใจผิดพลาดกันทั้งคู่ที่แต่งงานกันเร็ว คุณกับผมไม่มีอะไรเข้ากันได้สักอย่าง เอาเป็นว่าผมผิดเอง”
"แป้งทำผิดตรงไหนคะ คุณคีย์บอกแป้งสิ แป้งจะได้ปรับตัว เราเป็นสามีภรรยากันแล้วก็ควรหันหน้าเข้าหากัน ปรึกษากันสิว่าเราจะประคับประคองชีวิตคู่กันต่อไปยังไง” วันที่เขาขอเธอแต่งงาน เขาบอกว่าชีวิตของเขาไม่เคยตัดสินใจอะไรได้ดีเท่าวันที่เขาตัดสินใจอยากใช้ชีวิตร่วมกับเธอ แต่วันนี้เขากลับบอกเธอว่าเขาตัดสินใจผิดอย่างนั้นเหรอ
“แป้ง เรื่องความรู้สึกมันใช้ขั้นตอนเหมือนวิชาที่คุณเรียนมาไม่ได้ ครึ่งปีที่ผ่านมาผมพยายามแล้วที่จะอยู่กับคุณ”
“อย่าทำแบบนี้ได้ไหมคะ แป้งกับ...” คำว่าลูกถูกกลืนลงคอเมื่อเขาไม่แม้แต่จะเปิดโอกาสให้เธอได้พูดมันออกมา
“ผมเบื่อ”
“ผมเบื่อที่จะมีคุณอยู่ในชีวิตแล้ว เราหย่ากันเถอะ”
ปัณฑิตาก้มหน้า หลับตาลงไล่หยดน้ำตาเอ่อนองเต็มขอบตา ยกมือวางทาบอกปลอบประโลมหัวใจตัวเอง เธอถอนหายใจออกมาอย่างยากลำบาก นึกย้อนกลับไปวันที่เธอตัดสินใจแต่งงานกับเขา เธอคาดหวังว่าจะใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกับผู้ชายคนนี้จนวันสุดท้าย ไม่เคยเผื่อใจว่าเราจะต้องแยกทางกันเลยสักวินาทีเดียว
หากรู้ว่ามันจะเป็นอย่างนี้ วันนั้นเธอคงลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง วันนั้นเธอคงเก็บรอยยิ้มเอาไว้ วันนั้นเธอคงเลี่ยงสบสายตากับเขา เธอกับเขาไม่น่าจะเจอกันเลย หากไม่เจอกันเธอคงไม่เสียใจมากขนาดนี้