จบ รักอันตรายของประธานขี้หวง
40
ตอน
5.87K
เข้าชม
40
ถูกใจ
3
ความคิดเห็น
65
เพิ่มลงคลัง
คำเตือนเนื้อหา
คำเตือนเกี่ยวกับเนื้อหาในเรื่องอาจมีการสปอยล์ถึงเนื้อเรื่องหลัก
ความรักไม่ได้อยู่ที่วัย แต่มันอยู่ที่ความเข้าใจของคนสองคน

    ใครจะคิดจากสาวน้อยที่ผู้คนต่างพากันอิจฉา ทั้งหน้าตาและฐานะ จะกลับกลายเป็นเด็กสาวที่มีสถานะไม่ต่างจากคนใช้......... 

        5 ปีก่อนครอบครัวของเอลลิสเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบในทุกๆด้าน ทุกคนต่างพากันอิจฉาเธอ ครอบครัวร่ำรวย ทั้งฝ่ายพ่อและแม่ ต่างมีธุรกิจหลายพันล้าน แต่เนื่องจากธุรกิจฝ่ายแม่ (ลลิตา)มีปัญหาและได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ถูกประณามว่าฉ้อโกง ทำให้ครอบครัวของลลิตาถูกฟ้องล้มละลาย  

 “ว่าอะไรนะ!คุ....คุณพ่อถูกฟ้องล้มละลาย” ลลิตาตกใจ ใบหน้าตื่นตระหนก ร่างบางทรุดลงกับพื้น  “ใช่ค่ะคุณลลิตา คุณท่านถูกกล่าหาว่าคุณท่านฉ้อโกงอีกทั้งยังมีพยานอีกด้วยค่ะ” 

หญิงสาวส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อ 

“ไม่จริง ฉันรู้ว่าคุณพ่อไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่ ๆ คุณพ่อไม่ใช่คนที่ทำอะไรไม่คิดเช่นนั้น” ในหัวคิดวนเวียนในคำพูดของจิตสี  

“ฉันจะไปหาคุณพ่อ” เธอพยายามลุกขึ้นพร้อมจะก้าวเท้าเดินออกไป  

“อย่านะคะ คุณลลิตา คุณท่านสั่งไว้ว่าอย่าให้คุณเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้” จิตสีรีบห้ามลลิตาไว้  

“แล้วคุณท่านยังบอกอีกว่าคุณไม่ใช่คนตระกูลสิรินันท์บริรักษ์แล้ว”  

เธอได้ฟังที่จิตสีพูด เธอกำมือแน่นสั่นไปหมด น้ำอุ่นๆก็ไหลลงมาเป็นสาย เธอไม่คิดว่าครอบครัวของเธอจะมาเจอเรื่องเช่นนี้ 

  

      อนันต์และแม่รู้ข่าวจากคนสนิทของลลิตา ทั้งคู่รู้ข่าวใหญ่ต่างก็ตกใจในสิ่งที่เกิดขึ้น  

“อนันต์เกิดเรื่องขึ้นได้ยังไง?”นิตยาได้หันมาถามลูกชายของตัวเอง ชายหนุ่มนั่งเงียบพร้อมกับส่ายหน้าแบบงงๆ  

“ผม...ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับแม่ ผมก็รู้เรื่องพร้อมๆกับคุณแม่เหมือนกัน”เขาตอบด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก 

“ แล้วแม่ลลิตาล่ะ ไปไหนแม่ยังไม่เห็นเลยวันนี้” นิตยาหญิงสูงวัยปรายตามองหาลูกสะใภ้ของตน 

“คุณลลิตาออกไปตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ คุณท่าน” แอ๋วสาวใช้คนสนิทนิตยารีบรายงานเจ้านายของตน  

“แล้วได้เขาบอกไหมว่าจะไปไหน” เธอหันมาถามถามสาวใช้อีกครั้ง สาวใช้ได้แต่ส่ายหน้า “คุณลลิตาไม่ได้บอกค่ะ”  

นิตยาใช้ความคิดอย่างหนักเพราะกลัวว่าครอบครัวของตนจะติดร่างแหไปด้วย จึงกระวนกระวายใจ พยายามคิดหาวิธีต่างๆนานา เพราะลูกชายของตนได้เกี่ยวดองกัน 

 ถ้าสิรินันท์บริรักษ์ล้ม ตระกูลตนก็จะไม่มีที่พึ่งและอาจถูกโยงเขาไปมีเอี่ยวด้วย 

 นิตยานึกถึง(ปราญ)เพื่อนสนิทของตนที่เป็นประธานบริษัทใหญ่ บริษัท สุขกายจำกัด เป็นบริษัทที่ใหญ่โตไม่แพ้กับบริษัท เอสเอ็นบีกรุ๊ปเลย เธอจึงโทรหาปราญเพื่อที่จะได้ช่วยเธอคิดหาวิธีได้และยังมีที่พึ่งพิงแห่งใหม่ให้ครอบครัวตนอีกด้วย ทั้งคู่ต่างให้ความเห็นตรงกันว่าควรให้ลูกของทั้งสองเชื่อความสัมพันธ์กันเป็นเรื่องที่ดี และได้บรรลุความต้องการของทั้งสองตระกูลที่เคยหมั้นหมายกันตั้งแต่เด็กอีกด้วย 

  

      อนันต์ติดต่อภรรยาของตน จึงได้รู้ว่าเธออยู่ที่บริษัท เอสเอ็นบีกรุ๊ป จึงรีบขับรถไปหาลลิตาด้วยความเป็นห่วง เมื่อเขาถึงเอสเอ็นบีกรุ๊ป เปิดประตูเข้าไปในห้องผู้บริหารด้วยหน้าตาตื่น เขาเห็นภรรยาของตนยืนร้องไห้ สะอึกสะอื้น  

“ที่รักคุณเป็นอย่างไรบ้าง ผมเป็นห่วงคุณแทบแย่ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”เขาเดินเข้าไปหาภรรยาอย่างเร็ว 

ลลิตาหันไปมองสามีพร้อมโผล่เข้ากอดเขาแน่น เธอร้องไห้โฮ 

 “ฮื่อๆ ฮื่อๆ ฉันก็ไม่รู้ เรื่องมันเกิดขึ้นเร็วมาก ฉันไม่รู้ทำมึงเป็นเช่นนี้ได้” เธอฟูมฟายพร้อมส่ายหน้าไปมา อนันต์กอดภรรยาไว้พร้อมกับปลอบเธอเบาๆ  

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรที่รัก เดี๋ยวเราต้องหาทางออกได้  ใจเย็นๆนะ”  

      ก๊อก! ก๊อก!ก๊อก!” ขอโทษครับ ขอพบคุณลลิตาหน่อยครับ “เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้ามาพร้อมยื่นหมายศาลมาให้เธอ 

 “ค่ะ มีอะไรค่ะ” หญิงสาวรับเอกสารมาดูใช้มือปาดน้ำตา  

“ ผมขอตรวจค้นห้องทำงานของคุณมนัสหน่อยครับ ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วยนะครับ” จ้าหน้าตอบพร้อมกับเดินเข้ามาในห้อง ลลิตาพยักหน้าอนุญาติให้เจ้าหน้าเข้าทำการตรวจค้น 

“ที่รักผมว่าเรากลับไปฟังข่าวที่บ้านดีกว่ามั้ย? คุณได้พักผ่อนด้วย ” ลลิตายืนดูเจ้าหน้าเข้าค้นห้องของพ่อตนแล้วน้ำตานองหน้าความรู้สึกหลากหลายประเดประดังเข้ามา เธอจึงรีบก้าวเท้าออกจากห้องไป อนันต์จึงรีบสาวเท้าตามภรรยาของตนออกไป แล้วพาเธอกลับบ้าน  

      ด้านนิตยาหารือกับเพื่อนสนิทของตนเรียบร้อยแล้วก็นั่งรอ อนันต์กับลลิตาในห้องนั่งเล่น เพื่อจะได้บอกความต้องการของตน ให้ทั้งคู่รับรู้......เสียงรถวิ่งเข้าจอดในโรงรถหญิงสูงวัยรีบให้สาวใช้ไปบอกอนันต์และลลิตาให้เข้ามาพบตนในห้องนั่งเล่น 

      เมื่ออนันต์และลลิตาเดินเข้ามาภายในห้อง ลลิตารับรู้ถึงบรรยากาศภายในห้องมันผิดปรกติ สายตาแม่สามีที่เคยเอ็นดูตน เปลี่ยนเป็นสายตาเย็นชา มีเลศนัย!  

“มีอะไรครับคุณแม่” อนันต์ถามผู้เป็นแม่ “แม่มีเรื่องจะพูดกับทั้งสองคน ถึงสถานการณ์ตอนนี้ “นิตยามองหน้าทั้งสองคนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม 

“คุณแม่มีเรื่องอะไรคะ”หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงกังวน 

 “คือตอนนี้ครอบครัวเธอกำลังมีปัญหา แล้วปัญหาที่เกิดมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ มันอาจจะนำพาความเดือดร้อนมาให้ครอบครัวของเราได้ ครอบครัวเราไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียมาก่อน ตระกูลเราก็เป็นตระกูลเก่าแก่ ถ้าถูกเกี่ยวโยงไปด้วยมันคงไม่ดีหนัก” หญิงสาวสะอึก เมื่อได้ฟังสิ่งที่แม่สามีของตนพูด 

 ”หมายความว่ายังไงคะ?” เธอถามเสียงขุ่น  

“ฉันก็หมายความว่าฉันจะให้ลูกชายฉันหย่ากับเธอไง!!” ลลิตารู้สึกจุกหายใจไม่ออก เหตุใดแม่สามีถึงเปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้ ทั้ง ๆที่เคยรักและเอ็นดูตนมาตลอด แต่ตอนนี้กลับพูดอย่างไม่มีเยื้อใย 

“แม่คะ ทำไมแม่พูดแบบนี้คะ ตอนนี้ครอบครัวหนูกำลังมีปัญหาก็จริงแต่มันต้องเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันก็ได้ แม่ไม่ควรจะให้เราหย่ากันแบบไม่มีเหตุผลแบบนี้นะคะ” ลลิตาพูดเสียงสะอื้นในคอน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย  

“ไม่มีเหตุผลเหรอะฉันว่าฉันมีเหตุผลมากพอที่จะทำแบบนี้ ฉันไม่มีทางเอาครอบครัวของฉันไปแปดเปื้อนกับเรื่องแบบนี้หรอกย่ะ ฉันว่านะ อนันต์แกกับเมียควรจะหย่ากัน มันคือทางออกที่ดีที่สุด”  

อนันต์ฟังสิ่งที่แม่ตนพูดแล้วกำหมัดแน่นสายตาแดงก่ำไปด้วยความโกรธในสิ่งที่แม่ของตนกล่าวออกมา  

“แม่ แม่พูดอะไรออกมา ผมกับลลิตาจะไม่มีทางหย่ากัน ยังไงผมไม่หย่า”ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว 

“แกต้องหย่า เพราะถ้าเกิดครอบครัวเราต้องติดร่างแหไปด้วย ฉันไม่เอาหรอกนะไปเป็นพวกขี้โกงน่ะ” 

 “แม่ พ่อหนูไม่ได้โกง อย่าพูดใส่ร้ายพ่อหนูนะ” ลลิตากำหมัดแน่น พร้อมตะโกนออกไปเสียงดัง  

“นี่!เธอกล้าขึ้นเสียงใส่ฉันเหรอ ยัยลลิตา ฉันเป็นแม่สามีแกนะ “ นิตยาชี้หน้าสะใภ้ด้วยมือสั่นเทา หายใจเร็วเพราะความโมโห อนันต์รับไม่ได้ในสิ่งที่แม่ตนพูดออกมาแล้วเหตุได้ถึงเป็นเช่นนี้ 

 “แม่ ยังไงผมไม่หย่า เธอเป็นภรรยาผม เป็นแม่ของเอลลิส ถ้าหย่าแล้วเอลลิสจะทำยังไง” “แกก็หาแม่ใหม่ให้มันสิ หนูเมญ่าเขาพร้อมที่จะดูแลแกและลูกของแก ยังไงหนูเมญ่าก็เคยเป็นคู่หมั้นของแก่มาก่อน แล้วเขาก็ยังรักแกอยู่นะ 

” ผู้เป็นภรรยาได้ฟังคำพูดที่ออกมาจากปากแม่สามีแล้วรู้สึกโกรธแค้น ความรู้สึกมันจุกในอกจนหายใจไม่ออก รับไม่ได้ ในสิ่งที่แม่สามีตนเอ่ยออกมา 

“นี่สินะคือเหตุผลของแม่?แม่อยากให้เราหย่ากันเพราะแม่ยังหวังจะให้ผู้หญิงคนนั้นมาเป็นสะใภ้สินะคะ?แม่ก็ยังไม่เคยยอมรับหนูจากใจจริง”  

ที่แท้เขาทำดีกับฉันทุกอย่างเพียงเพราะทรัพย์สมบัติของฉันไม่ใช่ตัวฉัน “หึ ในที่สุดแม่ก็ได้เผยตัวตนออกมาสักที”แสดงละครให้เธอตายใจมาตั้งหลายปีในที่สุดเธอได้รู้ความจริง  

“หย่าหรือ หึ จะให้หย่าใช่มั้ย แม่รอหนูนะ รอหนูตายก่อนและหนูจะไปหย่าให้สมใจแม่”ลลิตาวิ่งขึ้นไปบนห้องพร้อมปิดประตูเสียงดัง ปัง! 

      เอลลิสสาวน้อยสิบสี่ สะดุ้ง! หันมามองที่ประตูเห็นแม่ยืนสะอื้น น้ำตานองหน้าแล้วตกใจ 

 “แม่คะ แม่เป็นอะไรคะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ”เด็กสาวที่มีใบหน้างดงามเหมือนแม่ของเธอดวงตากลมโตแววตาน่าค้นหา ผิวขาวเนียน สาวน้อยรีบวิ่งเข้าไปกอดคนเป็นแม่           

 “ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ แม่แค่เหนื่อย” ลลิตากอดลูกสาวแน่น น้ำตารินไหล 

“แม่ทะเลาะกับคุณย่าเหรอคะ หนูได้ยินเสียงทะเลาะกัน” 

 “เปล่าจ๊ะ เราแค่มีปัญหากันนิดหน่อยจ๊ะ หนูไม่ต้องกังวนนะ ”  

สาวน้อยยิ้มเล็กๆ แล้วมองหน้าผู้เป็นแม่  

“แม่คะ แต่หนูได้ยินหมดแล้ว ย่าอยากให้แม่กับพ่อหย่ากันแล้วย่ายังหาเมียใหม่ให้พ่ออีก แม่คะ!แม่จะยอมเหรอ?แม่จะหย่ามั้ยคะ?”  

“ไม่หรอกจ๊ะ” 

ลลิตานิ่งแล้วน้ำตาเริ่มเอ๋อขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับกอดลูกสาวไว้แน่น  

“มานี่มา ลูกรัก หนูไม่ต้องกังไปนะจ๊ะ เดี๋ยวทุกอย่างมันก็จะดีขึ้นเอง”  

“จริงเหรอคะ” 

เอลลิสมองหน้าแม่อยู่ครู่ใหญ่ รอยยิ้มจึงค่อยๆผุดออกมา พร้อมสวมกอดแม่  

“หนูรู้ว่ามันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ แต่หนูขอแค่มีเรื่องอะไรอย่าปิดบังหนู หนูโตแล้ว แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” ลลิตามองลูกสาวที่พูดปลอบโยนเธอ  

“ลูกรักถ้าวันหนึ่งไม่มีแม่ หนูต้องดูแลตัวเองนะลูก หนูต้องเข้มแข็ง แม่รู้ว่าลูกแม่โตเป็นสาวแล้ว แต่แม่ก็อดห่วงลูกไม่ได้” เอลลิสฟังสิ่งที่แม่พูด รู้สึกถึงความเศร้าและความเจ็บปวดของคนเป็นแม่ 

 “แม่จะไปไหน? แม่จะหย่าเหรอคะ? แม่จะทิ้งหนูไปเหรอ? ไม่เอานะคะยังไงหนูก็จะไปกับแม่ด้วย“เอลลิสน้ำตาเริ่มเอ๋อล้นพร้อมกอดแม่แน่น 

“เปล่าหรอกลูก แม่ไม่ได้ทิ้งลูกไปไหน แม่แค่อยากให้หนูดูแลตัวเองให้ดี แม่ไม่ได้จะทิ้งหนู” สาวน้อยจ้องมองใบหน้าแม่  

“จริงๆนะคะแม่” ลลิตาก้มจูบลงบนหน้าผากลูกสาว 

 “จ๊ะ แม่รับปาก แม่ว่าเราควรจะนอนได้แล้วนะ คืนนี้แม่จะร้องเพลงกล่อมลูกดีมั้ย?”ลลิตานอนกอดลูกสาวบนเตียงนุ่ม เอลลิสหัวเราะ คิก คิก  

“แม่หนูไม่ใช่เด็กน้อยแล้วนะคะ”เธอพยายามหัวเราะกลบเกลื่อนเพื่อให้แม่ของเธอสบายใจขึ้น  

“คนเป็นพ่อแม่ ต่อให้ลูกโตยังไงก็ยังเป็นเด็กน้อยเสมอ รู้ไหมจ๊ะ” ลลิตา ใช้นิ้วเคาะจมูกลูกเบาๆ สองแม่ลูกนอนหยอกล้อกันบนเตียง 

      ด้านอนันต์ยังคงนั่งคุยกับนิตยา 

 “แม่ ยังไงผมไม่มีทางทิ้งลลิตาในตอนที่ครอบครัวเขามีปัญหาอยู่ เขาเป็นภรรยาผม ยังไงผมก็ต้องหาทางช่วยเธอ แล้วยังไงผมก็ไม่ยอมหย่า” อนันต์ประกาศเสียงแข็ง  

“ทำไมจะหย่าไม่ได้ แต่งได้ก็หย่าได้” 

“พอเลยแม่ หยุดพูดเรื่องนี้ได้แล้ว” 

“ดีนี่ แม่พูดอะไรแกไม่ฟังแล้วใช่มั้ย? ฉันหาคนที่ดีให้เพื่อกอบกู้หน้าตา กอบก็ตระกูลปู่แก แม่ที่เลี้ยงแก่มาจนโตป้อนข้าวป้อนน้ำให้แก แกก็ไม่สน ดี...งั้นฉันจะไปตายซะ ให้รู้แล้วรู้รอดไป ดูสิแกจะสนไหม”นิตยาวิ่งออกจากบ้าน อนันต์ตะโกนห้ามนิตยา 

 “แม่ทำไม แม่ทำแบบนี้ แม่ไม่คิดถึงความรู้สึกผมบ้างเลย อยู่ ๆแม่ให้ผมหย่ากับคนที่รัก แล้วแม่ยังจะให้ผมแต่งงานใหม่อีก แม่คิดได้ยังไง?” อนันต์ตะโกนเสียงดัง 

 “แกเลือกมาระหว่างแม่ที่เลี้ยงดูแก กับเมียแก แกจะเลือกใคร แล้วฉันจะตายให้แกดู ใช่สิ!แกโตแล้วแกเลยไม่ฟังแม่แก่ๆแบบฉัน”  

“ไม่ใช่ผมไม่ฟัง แต่ผมทำให้ไม่ได้” 

อนันต์รู้สึกสิ้นหวังกับคำพูดของผู้เป็นแม่ ทำไมแม่ต้องให้เขาเลือก เขารักทั้งแม่และครอบครัวของเขา เขาจะเลือกได้ยังไง นิตยามองหน้าลูกแล้วยิ้มที่มุมปาก คิดจะวิ่งออกไปที่ถนนหวังให้รถชน เพื่อประชดลูกชาย แต่อนันต์วิ่งไปดึงมือนิตยาเข้ามา  

“โอเค โอเค แม่ผมยอมแล้ว ผมยอมแล้ว ให้ทำอะไรผมก็ยอม”  

ลลิตาได้ยืนดูเหตูการณ์ทั้งหมดได้ยินทุกคำพูดที่นิตยาและอนันต์พูด ลลิตาน้ำตานองหน้าไหลดั่งสายน้ำ มันเจ็บปวดจนถึงที่สุด ไม่คิดว่าสามีที่ตนรัก จะยอมเลิกกับตนอย่างง่ายดาย ยิ่งในช่วงที่ครอบครัวของเธอมีปัญหา หญิงสาวเดินอย่างไร้เรี่ยวแรงเข้าไปหาเอลลิสที่นอนหลับสนิท มือบางลูบผมอย่างเบามือแล้วก้มจูบหน้าผากลูกทั้งน้ำตา .... ลลิตาเขียนจดหมายถึงอนันต์หนึ่งฉบับ และให้เอลลิส อีกหนึ่งฉบับ พร้อมจัดแจ้งทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่ลูกสาวก่อนจะลาจากโลกนี้ไป...... 

  

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว