ฉันกดโทรศัพท์มือถือ พิมพ์คุยผ่านข้อความกับเพื่อนซึ่งรู้จักกันทางอินเตอร์เน็ตมาได้นานนับปีบนเตียงในห้องนอน ซึ่งตกแต่งอย่างหรูหราตามสไตล์ลูกคุณหนู
เขาคนนี้บอกให้ฉันลองหาประสบการณ์ชีวิตที่ตื่นเต้น ท้าทาย และไม่ได้น่ากลัว เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ
'นั่งรถเมล์ไปห้างเอง' ข้อนี้ดูน่าจะปลอดภัยสุดหลังจากที่ฉันได้พิจารณาดูจากหลาย ๆ ข้อแล้ว
พรุ่งนี้ฉันจะต้องทำมันให้ได้ ที่ผ่านมาเวลาอยากไปไหน แค่บอกคนขับรถประจำครอบครัว เขาก็จะพาฉันไปทุกที่
ทุกครั้งที่ฉันนั่งอยู่ในรถเบนซ์ เปิดแอร์เย็นฉ่ำและมองผู้คนยืนเบียดกันเป็นปลากระป๋องในรถประจำทาง ฉันอยากรู้ว่าพวกเขารู้สึกยังไง
ครึ่งนึงฉันมีโอกาสถามคนขับว่าเคยใช้ชีวิตแบบนี้ไหม เขาหัวเราะและบอกฉันว่ามันเป็นชีวิตของคนทั่วไป เขาเองก็เคยทำ มันไม่ได้สนุกนักหรอก หากต้องยืนโหนรถเมล์เป็นประจำต่อเนื่องเกือบทุกวัน เพื่อไปทำงาน
แม้เขาพูดแบบนั้น แต่ฉันก็ยังรู้สึกว่าตัวเองเข้าใจเพียงผิวเผิน
ก็แหงสิ ฉันไม่ได้เป็นคนที่ยืนเบียดอยู่ในรถนี่นา จะบอกว่าตัวเองเข้าใจอย่างถ่องแท้ก็คงไม่ได้
หลังคุยเสร็จ ฉันก็บอกเพื่อนในโลกออนไลน์ว่าฉันจะนอนแล้ว พรุ่งนี้จะลองทำตามคำแนะนำของเขาดู
รุ่งเช้า ฉันตื่น เพราะได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ในโทรศัพท์มือถือ หลังบิดขี้เกียจอยู่ราวสองนาที จึงเดินไปเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วลงไปรับประทานอาหารเช้า
วันนี้มีไข่ดาว ไส้กรอก เบคอน และน้ำส้ม
"วันนี้แม่มีนัดกับเพื่อน แม่จะกลับมาตอนเย็น ๆ นะลูก" คุณแม่คนสวยพูดกับฉัน
"ค่ะแม่" ฉันยิ้ม แล้วไม่กี่วินาทีต่อมาแม่ก็รวบช้อน ลุกออกจากเก้าอี้ไปพร้อมกระเป๋า
"ถ้าลูกเบื่อ ให้คนขับรถพาออกไปเที่ยวเล่น เดินห้างก็ได้ ใช้บัตรที่พ่อให้ไว้ อยากซื้ออะไรก็ซื้อ" คุณพ่อนักธุรกิจใหญ่ของฉันลูบหัวหนึ่งที แล้วคว้ากระเป๋าซึ่งใส่แล็ปท็อปของเขาออกไปด้วย
ตอนนี้ทั้งพ่อทั้งแม่แยกย้ายกันไปหมดแล้ว เหลือฉันอยู่บ้านกับแม่บ้าน คนสวน และคนขับรถ มันก็ไม่ได้เศร้าหรอก แต่ฉันแค่เบื่อ
ลึก ๆ อยากให้พวกเขามีเวลาอยู่กับฉันบ้างก็เท่านั้น
ช่างเถอะ ฉันไม่พูดถึงเรื่องพวกนี้แล้ว ตอนนี้ฉันควรไปเลือกเสื้อผ้า เพื่อออกไปผจญภัยนอกบ้าน
หลังเลือกอยู่นาน ฉันก็ตัดสินใจว่าวันนี้จะใส่เดรสสีฟ้าอ่อน สั้นเหนือเข่าเล็กน้อย กระเป๋าเป้สีขาวเข้าคู่กับรองเท้าผ้าใบสีเดียวกัน แบบนี้น่าจะขึ้นรถเมล์ได้สะดวกหน่อย
ปัญหาก็คือฉันจะออกจากบ้านยังไงไม่ให้พวกคนงานในบ้านสงสัยและโทรไปรายงานพ่อกับแม่
คิดอยู่นาน ก็พอจะมีแผนการอยู่บ้าง
"ลุงชมคะ ช่วยไปส่งหนูที่ป้ายรถเมล์หน้าปากซอยหน่อยค่ะ เดี๋ยวเพื่อนหนูจะมารับตรงนั้น"
"แล้วคุณหนูจะไปไหนกันเหรอครับ ทำไมไม่ให้ลุงไปส่งถึงที่เลย จะได้ไม่ต้องยืนรอริมถนน"
นี่ไง ลุงแกยังอุตส่าห์ตั้งคำถามอีก ฉันคิดไว้แล้วเชียวว่าวันนี้คงไม่ได้ออกไปง่าย ๆ หากไม่มีคำตอบดี ๆ เตรียมไว้
"เพื่อนขับผ่านน่ะค่ะ อีกอย่างคือเขาจะซื้อขนมแถว ๆ นั้นด้วย" คนฟังพยักหน้า ในใจคงคิดว่าไม่แปลกอะไรที่หญิงสาวอายุยี่สิบต้น ๆ จะขับรถไปโน่น มานี่ แวะซื้อของกินข้างทาง เพราะอายุเท่านี้ก็ไม่ใช่เด็กแล้ว สามารถตัดสินใจเองได้ในหลาย ๆ เรื่อง
"ก็ได้ครับ งั้นเดี๋ยวลุงขับรถไปส่ง" ในที่สุดฉันก็ไขข้อข้องใจทั้งหมดได้สำเร็จ
ถึงป้ายรถเมล์แล้ว ฉันนั่งรอบนเก้าอี้เหมือนกับชาวบ้านคนอื่น ๆ เพื่อรอรถที่จะวิ่งผ่านห้างสรรพสินค้าที่ฉันต้องการไป รออยู่ราวห้านาที มันก็มา ผู้คนต่างรีบวิ่งไปที่รถเมล์คันนั้น ฉันเองก็วิ่งตามพวกเขาไปด้วย
โชคดีที่ไม่ได้เลือกใส่ส้นสูงมา ไม่งั้นลำบากแย่
ที่นั่งด้านหลังว่างอยู่ ฉันรีบวิ่งไปนั่ง ถึงป้ายหน้า ก็มีคนขึ้นมาเพิ่มอีก ตอนนี้ฉันจึงต้องขยับเข้าไปนั่งด้านในสุด
ผู้โดยสารซึ่งนั่งติดกับฉันเป็นหนุ่มหล่อหน้าตาดี เขาหันมายิ้มให้ฉันหนึ่งที ฉันจึงยิ้มกลับตามมารยาท
ผู้ชายคนนี้นั่งเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือไปเรื่อย ๆ
จู่ ๆ คนขับรถเมล์ก็เบรกกะทันหัน ทำให้เขาเผลอทำโทรศัพท์มือถือหล่นลงพื้น
เขาพยายามก้มเก็บ แต่โทรศัพท์มือถือมันไหลเลื่อนมาทางฉัน ลึกเข้าไปใต้เบาะที่นั่ง ครั้นเขาตามหยิบ ในขณะที่รถวิ่ง ก็เสียหลักเอาง่าย ๆ
"ขอโทษครับ" เขาเอ่ย เมื่อเผลอตัวจับขาฉันไว้
"มะ ไม่เป็นไรค่ะ" ทำไมต้องเขินเขาด้วยเนี่ย
ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ว่าฉันรู้สึกอย่างไร เขาโปรยยิ้มทรงเสน่ห์ใส่ฉันอีกครั้ง ก่อนก้มลงไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นจากพื้น
"ใช้โลชั่นอะไรเหรอครับ ผิวนิ่มดี เผื่อผมซื้อให้แม่ใช้บ้าง" เขาถาม ฉันก็ตอบ เราคุยกันไปเรื่อย ๆ ราวกับเป็นคนรู้จักกัน
ถึงห้างสรรพสินค้าแล้ว ฉันลง เขาก็ลงด้วย
มันไม่ได้น่าแปลกใจ เพราะเมื่อครู่คุยกัน เขาบอกว่าจะมาซื้อของที่ห้างนี้ อีกไม่กี่วันจะถึงวันเกิดแม่
เขาขอให้ฉันไปช่วยเลือกซื้อของเป็นเพื่อน ฉันว่าง ๆ เบื่อ ๆ อยู่พอดี จึงตอบตกลงไปด้วยกัน
"ให้ผมเลี้ยงน้ำสักแก้ว ถือเป็นการขอบคุณที่ช่วยเลือกของขวัญ ได้ไหมครับ"
"ค่ะ เอาชานมไข่มุกแก้วหนึ่ง" แค่นี้คงไม่สิ้นเปลืองเพื่อนใหม่มากนัก
"โอเคครับ" เราสองซื้อชานมไข่มุกกันคนละแก้ว แล้วเดินเล่นไปเรื่อย ๆ สักพักฉันก็ปวดปัสสาวะ
"ผมถือให้ดีกว่า เอาของกินเข้าห้องน้ำด้วย มันแปลก ๆ " จริงอย่างที่เขาพูด ฉันส่งแก้วให้ ฝากไว้แป๊บเดียว ไม่เป็นไรหรอก
ในห้องน้ำหญิง มีคนเยอะพอควร ต้องต่อแถว พอออกมาพบว่าหนุ่มหล่อยืนรอ
"นี่ครับ" เขาส่งแก้วคืน แล้วฉันก็ดูดให้มันหมด จะได้ทิ้งแก้วสักที
'ทำไมมึนหัวจังนะ'
'นี่ฉันเป็นอะไรไป'
'เขาจะพาฉันไปไหน แล้วทำไมฉันถึงพูดไม่ได้'
จากห้างสรรพสินค้า ตอนนี้ฉันอยู่ที่ม่านรูดแห่งหนึ่ง เสื้อผ้าถูกถอดออกหมด
เจ้าคนชั่วนอนดูดนมฉันอย่างย่ามใจ
"อ๊ะ" ปลายนิ้วสัมผัสปุ่มกระสัน เล่นเอาเสียวไปทั้งร่องทั้งรู
โดนดูด ๆ เลีย ๆ ซ้ายบ้าง ขวาบ้าง ทำให้ฉันมีอารมณ์ร่วมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเผลอแอ่นอก ป้อนนมใส่ปากคนหื่น
อ่านต่อในตอนจบได้เลยจ้ะ