ร่างอันไร้วิญญาณของจื่อเฉียงท่านตาบุญธรรมของหนูน้อยอันอันบรรจุลงในโลงศพไม้มู่ซ่ง ไม้อย่างดีที่หนูน้อยอันอันพอจะ
ทำให้กับท่านตาจื่อเฉียงเป็นครั้งสุดท้ายได้
ที่หลังหมู่บ้านเหมาหมิงหน้าหลุมฝังศพของท่านตา มีเด็กน้อยที่ผ่านการร้องไห้มาพอแล้วจุดธูปขึ้นหนึ่งดอก จากนั้นนั่งลงก่อนจะร่ายยาวตามความคิดของเด็กน้อยแปดหนาวที่น่ารักสดใสคนหนึ่ง
“ท่านตานี่อันอันเองนะ ท่านตาไม่ต้องเป็นห่วงอันอัน ตอนนี้ท่านผู้นำหมู่บ้านซือเหมิ่งรับอันอันไปอยู่ด้วยชั่วคราวแล้วนะ เรื่องที่ดินและบ้านท่านตาอันอันไม่เสียดาย เพียงแต่เสียใจที่รักษาไว้ให้ท่านตาไม่ได้ แต่อันอันจะไม่ร้องไห้แล้วนะ อันอันเป็นเด็กเข้มแข็งเหมือนท่านพ่อที่ท่านตาเล่าให้อันอันฟัง ท่านตาหลับให้สบายนะไว้อันอันจะมาเยี่ยมท่านตาบ่อย ๆ”
ซือเหมิ่งที่รับปากตาเฒ่าจื่อเฉียงเอาไว้ว่าจะปกป้องดูแล
แม่หนูน้อยให้ดี แต่ทว่าเพียงสิ้นลมหายใจตาเฒ่า คนแซ่จื่อทั้งหมด
ก็รวมตัวกันรุมทึ้งเจ้าหนูน้อยอันอันให้เอาบ้านและที่ดินคืนตระกูล เพราะหนูน้อยอันอันไม่ใช่ลูกหลานตระกูลจื่อ ภายในใจของซือเหมิ่งรู้สึกผิดนัก จึงรับเจ้าหนูน้อยอันอันไปเลี้ยงดูชั่วคราว เพื่อหาทางออกต่อไป
ยิ่งเห็นความไร้เดียงสาของเด็กดีอย่างอันอัน ทำให้เขาเก็บน้ำตาเอาไว้ไม่ได้จริง ๆ
“อันอันเอ้ย...กลับกันเถอะตาเฒ่าคงไม่อยากให้เจ้าอยู่ที่นี่นานนัก เอาไว้จะมาเยี่ยมใหม่ก็แล้วกัน” เสียงซือเหมิ่งกล่าวพร้อมกับพยุงเจ้าหนูน้อยให้ลุกขึ้น
“ท่านผู้นำเดี๋ยวอันอันบอกลาท่านตาก่อน” เด็กน้อยพูดยืดยาวเหมือนคุยกับท่านตาทุกวันอีกหนึ่งยก ก่อนจะปักธูปที่ตอนนี้เพิ่งมาดูว่ามันเหลือไม่เยอะแล้ว พลางส่งยิ้มเอียงอายมาให้ผู้นำหมู่บ้าน
‘ท่านลุงผู้นำไม่เตือนอันอันเลย’
อันอันก็แค่พูดมากไปนิดเพราะมีเรื่องที่ต้องคุยกับท่านตาเท่านั้นเอง
หลังอยู่บ้านผู้นำหมู่บ้านได้สามเดือน อันอันผู้ขยันขันแข็ง
ก็ทำงานช่วยทุกอย่าง จนซือเหมิ่งอยากได้เป็นหลานนัก
“ผู้นำอันอันให้อาหารไก่เองเจ้าค่ะ” เด็กน้อยเพิ่งตักน้ำ
ใส่ตุ่มเสร็จก็รีบมาแย่งถาดอาหารที่มีหยวกกล้วยผสมรำข้าวและข้าวเปลือกเล็กน้อยที่นางผสมเอาไว้ก่อนจะไปตักน้ำ
“อันอันเหนื่อยหรือไม่ พักสักหน่อย”
“ไม่เหนื่อย อันอันไม่เหนื่อย” อันอันเป็นคนที่มีความอดทนสูงมาก เจ้าหนูน้อยขอผู้นำกินข้าวเพียงวันละมื้อแค่ตอนเย็น และช่วยงานทุกอย่าง แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เป็นที่ชื่นชอบของท่านป้าอิงเหว่ยภรรยาของผู้นำ
คืนก่อนหนูน้อยที่นอนบนแคร่ในห้องโถงตื่นขึ้นกลางดึก และหูดันได้ยินเสียงพูดคุยของสองสามีภรรยา
“ตาแก่ เจ้าจะให้อันอันอยู่ถึงเมื่อไหร่ รู้หรือไม่ว่าเปลืองข้าวบ้านเราแค่ไหน”
อันอันกำหมัดแน่นเมื่อคนที่พูดนั้นบอกว่านางเป็นตัวตะกละกินจุสิ้นเปลือง ทั้ง ๆ ที่นางกินข้าวถ้วยเดียวกับช่วยงานเต็มที่ ตอนอยู่กับท่านตาจื่อเฉียงนางกินข้าวตั้งสามถ้วยต่อมื้อ
แม้ร่างกายของนางจะเกินกว่าคำว่าสมบูรณ์ไปมากกว่าเด็กทั่วไป แต่อันอันก็ทำงานเต็มที่นะ ไม่ได้เอาเปรียบใครเสียหน่อย
แม้อันอันจะน้อยใจแต่ก็ไม่ได้เสียใจ เช้าต่อมาอันอันนับตำลึงในห่อพบว่ามีเหลืออยู่สี่ตำลึงเงิน จากเดิมมีห้าตำลึงเพราะซื้อโลงศพกับจัดงานศพให้ท่านตาไปหนึ่งตำลึง อันอันเก็บเข้าถุงตำลึงแล้วไปนั่งใต้ต้นสาลี่บ่นพึมพำกับเสี่ยวอ้าย กระรอกน้อยสหายเพียงหนึ่งเดียวของอันอัน
“เสี่ยวอ้าย มีใครรู้ไหมว่าพ่อแม่ของอันอันอยู่ที่ไหน! ”
กระรอกน้อยที่กำลังแทะเม็ดเกาลัดเงยหน้าขึ้น ก่อนจะส่งเสียงกร็อด ๆ หลายครั้งติดต่อกัน คล้ายเข้าใจเด็กหญิง
“เสี่ยวอ้ายก็คิดเหมือนอันอันหรือ เช่นนั้นพวกเราออกไปตามหาพ่อกับแม่กันเถอะนะ” อันอันพูดพร้อมกับพยักหน้ากับกระรอกเพื่อนรัก จากนั้นมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มีเมฆสีขาวลอยเป็นก้อนไปข้างหน้า อย่างมุ่งมั่น
“ท่านพ่อท่านแม่รออันอันก่อนนะ อันอันกำลังจะไปหาท่านแล้ว!”