"บงกชแก้ว" หญิงสาวผู้มีชาติกำเนิดเป็นปริศนา หลีกหนีความเจ็บปวดในอดีต ทิ้งความทรงจำของตนหมดสิ้นแล้วมาเกิดใหม่ในครรภ์ชาวบ้านริมฝั่งหนองหาน ชะตาชีวิตผกผันให้ย้ายไปเติบใหญ่อยู่เมืองหลวงพระบาง เมื่อถึงวัย 19 ปี เธอจึงหวนกลับมาบ้านเกิดอีกครั้ง
หญิงสาวกลับมาใช้ชีวิตอย่างสุขสงบ ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมทะเลบัวแดง
แต่การกลับมาครั้งนี้...เธอกลับพบกับเรื่องราวลี้ลับ
ความสุขสงบที่เคยมีเริ่มแปรผัน พร้อมกับเรื่องเหนือธรรมชาติที่วนเวียนรอบกาย...และอันตรายที่คืบคลานเข้ามาใกล้
ทั้งตำนานนาคาในเกาะแก้วกลางทะเลบัวแดง ทั้งเรื่องราวลึกลับใต้ผืนน้ำที่มักปรากฏเห็นในความฝัน ทั้งความทรงจำในอดีตชาติ...ที่เริ่มตามหลอกหลอน
รวมถึงเรื่องชายหนุ่มลึกลับคนหนึ่ง...
ที่พร้อมทำทุกวิถีทาง...เพื่อฉุดเธอลงเมืองบาดาลไป
---------------------------------
ชี้แจงก่อนเริ่มอ่าน
# แก้วนาคินทร์
Setting ในนิยายคือหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมทะเลบัวแดง หนองหานกุมภวาปี ช่วง พศ. 2550-2560
เรื่องนี้ไม่ใช่การเขียนนิยายปกติอย่างที่เคยทำ แต่ความตั้งใจแรกเป็นการเขียนเพื่อ "นำไปต่อยอด" ในการผลิตสื่อชนิดอื่นเพื่อใช้ในการศึกษา เป็นการร่วมมือกับกัลยาณมิตรอีกท่านหนึ่งค่ะ
เพราะเหตุนี้จึงมีการผูกเรื่องโดยหยิบเอาความเชื่อที่มีอยู่จริงๆ ในจังหวัดอุดรธานีเข้ามาใส่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับพญานาคตระกูลเอราปถะ(กายสีเขียว) ทั้งตำนานสองสาวนาคียืมฟืม เรื่องเล่าชาวเมืองบังบดคำชะโนด
นอกจากความเชื่อแล้วก็ยังเล่ารวมถึงวิถีชีวิตชุมชน และศิลปะหัตกรรมต่างๆ ที่มีชื่อเสียงในอุดรธานี เช่น ผ้าหมี่ขิดและงานฝีมืออื่นด้วย
และที่สำคัญ...มีการเล่าเรื่องชีวิตบางส่วนของ "ท้าวภังคีนาคราช" ด้วยค่ะ
ท้าวภังคีเป็นพญานาคในตำนานผาแดง-นางไอ่ เรื่องราวก่อนเมืองเอกชะธีตาจะล่มสลายกลายเป็นหนองหาน ถูกแทรกเข้ามาในเรื่องด้วย
อ่านมาถึงตอนนี้บางท่านอาจจะสงสัย เพราะจริงๆ หนองหานมี 2 ที่
คือหนองหานกุมภวาปี และหนองหารสกลนคร
และทั้งสองแห่งก็มีตำนานเล่าขานต่อ ๆ กันมาในลักษณะเดียวกัน ทำให้เกิดความสงสัยกันว่า สรุปแล้วเรื่องผาแดง-นางไอ่เกิดขึ้นที่ไหนกันแน่
ผู้เขียนจึงขอยึดถือตามตำนานตำนานอุรังคธาตุ และตำนานของเมืองกุมภวาปี (ข้อมูลจากศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี) ใช้เป็นข้อมูลหลักในการเขียนนวนิยายเรื่องนี้ค่ะ
ขอเล่าคร่าวๆ เรื่องราวในตำนาน ตอนที่ท้าวภังคีแปลงกายเป็นกระรอกเผือกไปยลโฉมนางไอ่คำ ก่อนจะถูกนายพรานตามล่า แต่เพราะกรรมเก่าในชาติก่อนทำให้หนีไม่พ้น
หลังกระรอกเผือกสิ้นใจแล้ว เนื้อกระรอกเผือกก็ยังเพิ่มขึ้นหลายเท่า(ตามคำอธิษฐาน) จนได้แบ่งเนื้อกินกันทั่วเมือง
ฝ่ายพญาศรีสุทโธนาคราช ผู้เป็นพระบิดาของท้าวภังคีรู้ข่าวขึ้นมา จึงบันดาลโทสะยกพลนาคดำดินมาถล่มเมืองย่อยยับ จนกลายเป็นหนองหานจวบจนทุกวันนี้
ตำนานหนองหานทั้งสองฝั่งเล่าเรื่องราวคล้ายๆ กัน ส่วนผู้เขียนขอเลือกในฉบับของเมืองกุมภวาปีมาเล่า เพราะพอจะมีหลักฐานทางโบราณคดีเก่าๆ หลายอย่างที่หามาได้
รวมถึงมีเรื่องเล่าของชื่อสถานที่ในปัจจุบัน ที่สอดคล้องกับตำนาน ดังนี้ค่ะ
***สถานที่รอบๆหนองหานกุมภวาปี***
- บ้านแชแล(ปัจจุบัน)
ในอดีตเคยเป็นสถานที่ที่กระรอกภังคีวิ่งหนีนายพราน แต่วิ่งมาผิดทาง ซึ่งภาษาอิสาน-แซแล แปลว่า ออกนอกเส้นทาง
- บ้านคอนสาย(ปัจจุบัน)
ในอดีตเป็นสถานที่ที่นายพรานคอนธนู และขึ้นสายธนูเตรียมจะยิงกะรอกเผือก
- บ้านเชียงแหว(ปัจจุบัน)
เป็นสถานที่ที่ชำแหละ เนื้อกระรอกมาแบ่งกันกิน โดยคนชำแหละเป็นคนที่สึกจากการบวชเณร ภาษาอีสานเรียก "เซียง"
- บ้านห้วยสามพาด(ปัจจุบัน)
เป็นสถานที่ที่ม้าบักสามของผาแดง หกล้มลง ตอนที่พานางไอ่คำหนีพญานาค
- บ้านดอนแก้ว(ปัจจุบัน)
ในอดีตคือดอนแม่หมายที่ไม่ได้กินเนื้อกระรอกภังคี จึงรอดพ้นจากกองทัพพญานาค
ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องราวใน #แก้วนาคินทร์ ไม่ใช่การเล่าซ้ำตำนานเรื่องเดิมนะคะ
แต่เป็นเรื่องราวของ "แก้ว" หญิงสาวคนหนึ่งที่เข้าไปพัวพันกับเรื่องลึกลับใต้บาดาล โดยมีตำนานพญานาค และตำนานหนองหานเข้ามาเกี่ยวค่ะ
เรื่องนี่เป็นการร่วมมือกับกัลยาณมิตรอีกท่านหนึ่ง โดยสุดาเป็นผู้เขียน(เขียนเองทุกตัวอักษร) ส่วนอีกท่านคือที่ปรึกษา ที่คอยชี้แนะและให้ความช่วยเหลือตลอดการเขียน ตั้งแต่ต้นจนนวนิยายเสร็จสมบูรณ์
แต่ในรูปเล่มนิยายจะไม่ได้มีข้อมูลวิชาการอะไรหนักมากนะคะ แต่ใช้เวลาเขียนค่อนข้างนานเพราะก่อนเริ่มเขียนจะต้องทำการบ้านเพื่อระวังอย่างถึงที่สุด ไม่ให้“โป๊ะ”เมื่อนิยายเริ่มเผยแพร่ค่ะ
แต่ก่อนเริ่มเขียนและในขณะเขียน จนถึงทุกวันนี้ก็มีการกราบขอขมาปู่ย่านาคาในทุกครั้งนะคะ เราเขียนด้วยพื้นฐานของความเคารพบูชา เพราะเราเองก็สายพญานาค
ขอฝาก “แก้วนาคินทร์” ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกท่านด้วยนะคะ หลังจากนี้จะทยอยให้อ่านวันละตอนค่ะ ฝากเป็นกำลังใจด้วยน้าา
ตอนนี้เปิดพรีออเดอร์ "แก้วนาคินทร์"
ราคาปก 299 บาท
โปรโมชั่นรอบพรีออเดอร์ ลดเหลือ 269 บาทค่ะ