เพราะพ่อกับแม่เลิกกันตั้งแต่ 'เมษารินทร์' ยังเด็ก ทำให้เธอไม่เคยมีโอกาสได้เจอหน้าพ่อ
ครั้งนี้เธอตั้งใจเดินทางจากเชียงใหม่มาหาพ่อที่กรุงเทพฯ แต่ไม่คาดคิดว่าจะถูกโจรกระชากกระเป๋า หนำซ้ำพวกมันยังพยายามจะฉุดเธอจนต้องเธอวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนมาเจอกับหมา ‘อับโชค’ และเจ้าของหมาอย่าง ‘วรภพ’ อันธพาลที่มีอาชีพเป็นช่างซ่อมรองเท้า ผู้ชายที่ช่วยชีวิตเธอไว้ แม้เขาจะไม่เต็มใจก็ตาม
“ฉันไม่อยากรู้อะไรเกี่ยวกับเธอทั้งนั้น อีกไม่เกินสิบนาทีข้าวจะมาส่ง กินให้อิ่มแล้วไปซะ”
“ไหนๆ นายก็ช่วยฉันมาแล้ว จะช่วยต่ออีกหน่อยไม่ได้หรือไง ฉันไม่ได้ขออะไรมากสักหน่อย ขอที่ซุกหัวนอนแค่คืนเดียว ถ้าพรุ่งนี้หาทางติดต่อพ่อได้ฉันก็ไปแล้ว”
“ไม่”
“หรือนายอยากให้ฉันช่วยอะไร ทำอะไรเพื่อแลกกับที่นอนคืนนี้ นายบอกมาเลย ฉันยินดีจะทำทุกอย่าง”
ยอมเป็นตัวแทนของหมาเธอยังยอมทำได้ กับอีแค่ยอมเป็นคนใช้เขาทำไมเธอจะทำไม่ได้ล่ะ
“แน่ใจเหรอว่ายินดีทำทุกอย่าง” เขาถามเสียงเข้มพลางยกมือขึ้นกอดอก สายตาที่กำลังประเมินความสามารถของเธอเริ่มทำให้เธอสูญเสียความมั่นใจ ทบทวนคำพูดของตัวเองอีกรอบแล้วรีบยกมือขึ้นปิดหน้าอก
“อย่าบอกนะว่านายต้องการ...”
เขายืนจ้องเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบนี้ คือกำลังพิจารณารูปร่างของเธออยู่ใช่ไหม
“นี่นาย...”
“เพ้อเจ้อ”
เสียงทุ้มๆ กับเสียงถอนหายใจของเขาทำใบเธอหน้าแตกละเอียด จากที่ร้อนวูบอยู่เมื่อครู่กลายเป็นชาดิกในทันที ในหูได้ยินเสียงดังเพล้ง!
“ถ้าอย่างนั้นนายจะให้ฉันทำอะไร” เธอถามตะกุกตะกักอย่างไม่ไว้ใจ มองดูโดยรอบแล้ว บ้านหลังนี้ไม่น่ามีงานอะไรที่เธอถนัดแน่ๆ และสายตาของเขาในตอนนี้ก็ดูเจ้าเล่ห์เสียจนเธอเริ่มกลัว
เมษารินทร์นึกอยากจะตีปากตัวเองเสียจริง เมื่อครู่นี้พูดพล่ามไปตั้งมากมายจนแม้แต่ตัวเองก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าพูดอะไรออกไปบ้าง
“เอายัง”
“เอาอะไร”
“หึ!”
หึคืออะไร ยิ้มมุมปากแบบนั้นทำไมก่อนนน!!!