ขิงฉันเลยถ้านายมีใจ
10
ตอน
237
เข้าชม
0
ถูกใจ
1
ความคิดเห็น
3
เพิ่มลงคลัง
ซีหลานลูกครึ่งไทนจีนรวยแบบโคตรๆ แต่เหมือนนกในกรงทอง กรงทองก็เอาเขาไม่อยู่เมื่อเขาแหกกรงมาเรียนที่เมืองไทยเมืองแห่งอิสระภาพ

พ่อของผมเป็นนักธุรกิจชาวจีนที่ร่ำรวยมาก แต่ไม่ใช่จีนเทานะ พ่อผมเป็นพกคบเด็กสร้างบ้าน ใช่แล้วถึงตอนนี้เพื่อนๆ คงเดากันถูกว่าพ่อผมทำธุรกิจอะไร ก็อสังหาริมทรัพย์ ชีวิตผมดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบในสายตาคนอื่น แต่ความจริงแล้วมันน่าเบื่อมาก เขาส่งคนมาคอยคุ้มครอง คุ้มกัน ควบคุม ครอบงำผมตลอดเวลา ผมรู้สึกเหมือนนกในกรงทอง ที่มีทุกอย่างแต่ขาดอิสรภาพ 

แน่นอนครับ ผมไม่ได้อยู่เฉยๆ ผมมีเรื่องสนุกๆ ทำเหมือนกัน 

 

ณ สนามบิน 

โทรศัพท์ในมือผมดังขึ้น ผมรู้ทันทีว่าใครโทรมา 

"ซีหลาน" เสียงทุ้มของพ่อดังมาจากปลายสาย 

"พ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมไปไต้หวันแป๊บเดียวผมก็กลับ ผมจะเที่ยวเผื่อนะครับพ่อ" ผมตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว พยายามทำเสียงให้ฟังดูปกติที่สุด 

ผมวางสายประธานซี นั่นก็คือพ่อผมเอง ความรู้สึกผิดแล่นปราดขึ้นมาในใจ แต่ผมก็สลัดมันทิ้งไป 

ในมือผมถือตั๋วเครื่องบิน ไม่ใช่ไปไต้หวัน แต่เป็นกรุงเทพ เมืองที่จะมอบอิสรภาพให้กับผม หัวใจผมเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นปนประหม่า 

ผมเหลือบไปเห็นพี่จาง บอดี้การ์ดประจำตัวผมกำลังเดินมา ผมรีบเอ่ยปากบอกเขา "พี่จางไปรอข้างในก่อนเลยนะ" 

เมื่อพี่จางเดินลับสายตาไป ผมก็รีบฉวยโอกาสนั้นทันที 

"ลาก่อนนะกรงทอง" ผมพึมพำกับตัวเอง รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า "ย้าฮู้!" 

ผมเดินอย่างรวดเร็วไปยังประตูขึ้นเครื่อง หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นและความกลัวปนกัน ไม่รู้ว่าชีวิตใหม่ในกรุงเทพฯ จะเป็นยังไง แต่ผมพร้อมจะเผชิญทุกอย่างแล้ว เพื่อแลกกับอิสรภาพที่ผมโหยหามานาน 

 

ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย 

ผมยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย ความคิดวนเวียนในหัว ทำไมผมถึงเลือกเมืองไทยกันนะ?แต่ยังไม่ทันที่ผมจะหาคำตอบ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น 

"ซีหลานถึงเมืองไทยแล้วหรอ" เสียงอบอุ่นของแม่ดังมาจากปลายสาย 

ผมยิ้มกว้าง "พึ่งถึงครับแม่" 

"พ่อแกว่ายังไงถึงหนีเขามาแบบนี้?แล้วจะแวะมาหาแม่ไหม" น้ำเสียงแม่ฟังดูกังวลปนดีใจ 

ผมกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ "ไม่ครับเดี๋ยวพ่อรู้ ผมไปมหาลัยเลยดีกว่า" 

"แล้วจะไปยังไง" แม่ถามต่อ 

"ไปรถไฟครับ" ผมตอบพลางมองหาป้ายบอกทาง 

"ถึงแล้วก็โทรมาหาแม่นะ" น้ำเสียงแม่อ่อนโยนลง 

"ครับ รักแม่นะ" ผมตอบ รู้สึกอบอุ่นในใจ 

"แม่ก็รักลูก" 

ผมวางสาย มองรอบตัวอีกครั้ง ความรู้สึกตื่นเต้นและประหม่าปะปนกันไปหมด นี่แหละ อิสรภาพที่ผมใฝ่ฝันมาตลอด ไกลจากการควบคุมของพ่อ แต่ใกล้กับความรักของแม่ 

ผมสูดหายใจลึก ก่อนจะเดินออกจากสนามบินด้วยความมุ่งมั่น พร้อมที่จะเผชิญกับทุกสิ่งที่รออยู่ข้างหน้าในเมืองไทย บทใหม่ของชีวิตผมกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว 

 

 

ผมเดินเข้าสู่สถานีรถไฟ ความตื่นเต้นเริ่มก่อตัวขึ้นในอก 

"ขอซื้อตั๋วไปเชียงใหม่ครับ" ผมเอ่ยกับพนักงานขายตั๋ว 

"ตอนนี้เต็มหมดเลยค่ะ อ๋อ มีเหลือแบบห้องอยู่นะคะ เตียงบน รับไหมคะ" เธอตอบ 

"ได้ๆ ครับ" ผมรับทันที 

นี่คือครั้งแรกที่ผมเดินทางแบบอิสระคนเดียว ความรู้สึกนี้ช่างแปลกใหม่และน่าตื่นเต้น 

ผมเดินมานั่งในห้องที่จองไว้ ดูเหมือนเพื่อนร่วมทางของผมจะยังไม่มา จู่ๆ ก็มีเสียงทักทาย 

"สวัสดีครับ" เสียงชายคนหนึ่งสำเนียงแปลกๆ ทักผม "คือผม เลข 1 ครับ" 

ผมงงกับสำเนียงไทยที่ไม่คุ้นเคย จึงถามออกไป "คนไทยหรือเปล่าครับ" 

คนไทยครับแต่คิดสำเนียงเหน่อแบบสุพรรณ 

"ผมลูกครึ่งจีนไทยครับ" ผมตอบยิ้มๆ 

 

ผมจ้องมองเพื่อนร่วมทางคนใหม่อย่างสงสัย "คือว่าสำเนียงคุณแปลกมากๆ ครับ" 

ตรียิ้มกว้าง "อ๋อ สำเนียงสุพรรณครับ ผมคนสุพรรณ" เขาหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะถามต่อ 

"แปลว่าคุณไม่เคยไปสุพรรณ? " 

ผมส่ายหน้า "ผมเกิดที่ไทยพออายุ 10 ขวบผมก็ย้ายกลับเมืองจีน เลยไม่ค่อยรู้จักอะไรเท่าไหร่" 

"ลืมไปเลย ผมชื่อมนตรี เรียกสั้นๆ ว่าตรีก็ได้" เขาแนะนำตัว 

"ผมชื่อซีหลาน ยินดีที่ได้รู้จักครับ" ผมตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้ม 

ตรีเป็นเพื่อนคนแรกของผมที่พูดเก่งมาก ผมเดาว่าเขาหายใจทางเหงือกแน่ๆ เพราะเขาพูดไม่หยุดเลย แต่แปลกดี ทำให้บรรยากาศไม่น่าเบื่อ 

"แล้วซีหลานมาเที่ยวเชียงใหม่หรอครับ? " ตรีถามต่อ ดวงตาเป็นประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็น 

ผมยังไม่แน่ใจว่าควรเล่าความจริงทั้งหมดหรือไม่ จึงตอบไปอย่างคลุมเครือ "ก็... ประมาณนั้นครับ แล้วตรีล่ะครับ ไปทำอะไรที่เชียงใหม่? " 

ผมรู้สึกว่าการเดินทางครั้งนี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพใหม่ก็ได้ แม้จะยังไม่รู้ว่าควรไว้ใจใครมากแค่ไหน แต่การได้คุยกับใครสักคนก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว