“พิมพ์พิกา” (พริ้ง) หญิงสาววัย 30 ปี แต่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องความรักเลยสักครั้ง ชีวิตของเธอมีเพียงแค่รีสอร์ทของคุณนวลแข ผู้เป็นยายเท่านั้นที่เธอทุ่มเทแรงกายแรงใจบริหาร ดูแลมาตลอด แต่แล้ววันหนึ่งสิ่งที่เธอคิดว่ามันน่าจะหมดไปแล้วในสังคมสมัยนี้ ‘การคลุมถุงชน’ เธอไม่เคยคิดว่าการแต่งงานและการเป็นเจ้าสาวครั้งแรกในชีวิตของเธอจะเกิดจากการเห็นดีเห็นงามของผู้ใหญ่แต่กลับไม่ได้เกิดจากความรัก!!
“อินทัช” (อัคร) ชายหนุ่มใบหน้าคร้ามคมอย่างเสือยิ้มยาก เป็นเจ้าของไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ แม้วัยจะล่วงเข้าไป 35 ปีแล้ว แต่หน้าตา รูปร่างยังคงหล่อเหลาและมีเสน่ห์ดึงดูดหญิงแท้ชายเทียมอยู่เสมอ เขามีอดีตที่ยังฝังใจ และถึงแม้จะมีผู้หญิงวนเวียนเข้ามาในชีวิต แต่ชายหนุ่มกลับไม่เคยคิดจริงจังด้วย จะมีก็เพียงแต่หญิงสาวหน้าหวานคนเดียวเท่านั้นที่เขาคบหาได้นานกว่าทุกคนแต่ชีวิตของเขากลับต้องเข้าสู่มุมมืดอีกครั้ง เมื่อถูกบังคับให้แต่งงานกับหญิงสาวที่ผู้เป็นย่าเลือกให้!!
“นลินดา” (นลิน) หญิงสาวที่เพิ่งจบจากรั้วมหาลัย เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่อินทัชคบหาได้นานกว่าทุกคน เธออ่อนหวาน ใจเย็น เข้าใจเขาทุกอย่าง ถึงแม้ว่าในหัวใจจะร่ำร้องขอความรักจากเขาอยู่ตลอดเวลา แต่ปากกลับไม่สามารถเอื้อนเอ่ยออกมาได้ เมื่อเธอรู้ดีว่าเป็นได้แค่ไหน เพราะทั้งหัวใจของอินทัชมีเพียงแค่อดีตคู่หมั้นของเขาเท่านั้นและเธอจะต้องเจ็บช้ำเข้าไปอีกเมื่อรู้ว่าชายที่เธอมอบใจให้กำลังจะแต่งงาน !!
คำโปรย....
“ฉันขอถามคุณเรื่องผู้หญิงที่ชื่อนลินหน่อยได้มั้ย” พิมพ์พิกาจ้องใบหน้าคร้ามคมของสามีอย่างรอคำตอบ
“อะไร”
“ผู้หญิงคนนี้คงเป็นคนที่คุณอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด แต่เสียตรงที่เขาไม่ได้เป็นที่ถูกใจของคุณย่า ไม่อย่างนั้นคุณก็คงแต่งงานกับเธอแล้ว แต่ฉันขออย่างหนึ่งได้มั้ยคะ ไหนๆคุณก็ไม่เลิกกับเขาอยู่แล้ว ฉันไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ทางกายของเราสองคนเกิดขึ้นอีก” พิมพ์พิกาเอ่ยถามอย่างประหม่า เธอคิดเรื่องนี้มาทั้งคืนตั้งแต่ที่ได้ยินเสียงผู้เป็นสามีหมาดๆคุยโทรศัพท์
“ทำไม” อินทัชเอ่ยเสียงเข้มพร้อมเลิกคิ้วอย่างสงสัย
“ฉัน…ฉันไม่ต้องการใช้สามีร่วมกับใคร”
“ไมต้องห่วงหรอกผมป้องกันตลอด แล้วผมก็ไม่ได้มั่วขนาดนั้นด้วย ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมก็คบแค่กับนลินคนเดียว จนคืนที่ผ่านมานี่แหละที่มีคุณเพิ่มมาอีกคน” อินทัชทำเสียงเหนื่อยหน่ายอย่างไม่พอใจกับเหตุผลของพิมพ์พิกา
“งั้นหลังจากนี้ไป คุณก็มีแค่ผู้หญิงที่ชื่อนลินคนเดียวก็พอ สำหรับฉันเราก็แยกห้องกันชัดเจนแล้ว อีกไม่นานเราก็ต้องหย่ากัน เราไม่จำเป็นจะต้องทำเรื่องอย่างว่าเพราะเราไม่ใช่คู่แต่งงานปกติเหมือนคู่อื่น”
“ไม่! นี่คุณพริ้ง คุณแต่งงานกับผมแล้ว ทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยคุณเป็นเมียของผม แล้วเรื่องอย่างนั้นใช่ว่าคุณกับผมจะไม่เคยกัน ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันคุณจะให้ผมทนมองคุณเฉยๆผมทำไม่ได้หรอกนะคุณพริ้ง ค่าสินสอดคุณก็ได้ไปแล้วตั้งหลายล้าน แค่คืนเดียวคุณคิดว่าคุ้มเหรอ” ราวเข็มนับพันทิ่มแทงหัวใจดวงน้อยๆของพิมพ์พิกาให้เจ็บแปลบก่อนมันจะเปลี่ยนเป็นความโกรธเมื่อถูกดูถูกราวคนไร้ศักดิ์ศรี