ซื้อ Ebook ที่ ธัญวลัย 29 บาทเท่านั้น !!!
***หมายเหตุ Ebook คือ การซื้อรายตอนแบบเหมาจ่ายในราคาที่ถูกกว่า***
ไม่ใช่ Ebook ที่เป็นการจัดหน้า เกลาเนื้อหา พิสูจน์อักษร นะคะ
Ebook จริง ๆ ตามไปที่นี่
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“เสร็จอั๊วหล่ะ”
“ใครจะยอมให้จับง่าย ๆ กัน นี่แน๊ะ !”
เย่วอิงหมุนตัวกลับแล้วตวัดขาเตะเข้าที่หว่างขาเต็มเหนี่ยว
ตุบ
“อุก”
ชายชุดดำหน้าเขียว ตัวงอ หนีบขาทั้งสองแน่นด้วยความเจ็บปวดที่ถูกเตะเข้าที่กล่องดวงใจของบุรุษ
เย่วอิงยกยิ้มที่มุมปาก แล้วปัดจมูกตนเองด้วยนิ้วโป้ง ภูมิใจที่ล้มเจ้ายักษ์หน้าโหดได้
“ขอโทษด้วยนะพี่ชาย เงินนั่นพี่ชายก็ถือว่าบริจาคให้เด็กกำพร้าตาดำ ๆ ที่หิวโหยแล้วกันนะ”
เอ่ยจบนางก็หันหลังกลับหมายจะวิ่งหนีไป แต่ใครจะคิดว่าชายชุดดำผู้นั้นกลับชักปืนออกมาแล้วยิงออกไปหนึ่งนัด
ปัง !
กระสุนปืนพุ่งทะลุตัดขั้วหัวใจ เลือดสาดกระจายเต็มพื้น แรงกระสุนทำให้ร่างของเย่วอิงฟุบล้มลงไปด้านหน้า
ตุบ
ชายชุดดำผู้นั้นเลิ่กลั่ก เมื่อครู่เขาพลั้งมือฆ่านางด้วยความโมโห เมื่อตั้งสติได้ก็รีบวิ่งหนีไป ปล่อยให้เด็กสาวผู้นั้นนอนจมกองเลือดอยู่ข้างถนน
เย่วอิงรู้สึกเจ็บแปลบที่ทรวงอก แขนขาสิ้นแรง ลมหายใจรวยริน
“ชะ.. ช่วยด้วย ฉะ ฉันยังไม่อยากตาย ชะ ช่วยด้วย”
สิ้นเสียงคำทุกอย่างก็ดับมืดลง
...........................................................
ปี ค.ศ. 1980 ณ ห้องแถวไม้
....อาอิง..
...อาอิง....
เย่วอิงได้ยินเสียงเรียกแผ่วเบา คล้ายดังมาจากที่ไกลแสนไกลในห้วงเว้งว้างที่เต็มไปด้วยความมืด
“ใคร.. ใครเรียกฉัน ที่นี่ที่ไหน”
เย่วอิงเดินสะเปะอย่างไร้ทิศทาง ไม่ว่ามองไปทางไหนก็มืดไปหมด แล้วเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง
.....อาอิง ลืมตาขึ้นสิ ได้ยินเสียงอาม่าไหม....
คร่าวนี้เย่วอิงรู้สึกถึงมืออบอุ่นลูบไปตามใบหน้าของหล่อนด้วย เย่วอิงจึงพยายามปรือเปลือกตาอันแสนหนักอึ้งขึ้นอย่างช้า ๆ
ภาพแรกที่ปรากฏแก่สายตาคือ หญิงชราอายุราว ๆ ห้าสิบห้าปี ใบหน้ายับย่นด้วยริ้วรอยแห่งวัย ศีรษะขาวโพลน ดวงตาที่มีฟ้าขาวจับมีน้ำใส ๆ เอ่อล้นขึ้นมา
“อาอิง... ฟื้นแล้ว อาอิง... เจ็บตรงไหนบ้าง ได้ยินที่อาม่าพูดไหม”
คุณยายเย่ซินละล่ำละลักถามหลานสาวทั้งน้ำตาด้วยความดีใจท่หล่อนฟื้นขึ้นมาจากความตายได้
“คุณรู้จักชื่อฉันได้อย่างไรคะ”
เย่วอิงขมวดคิ้วถามด้วยเสียงแหบแห้ง ทุกครั้งที่อ้าปากจะรู้สึกเจ็บแปลบที่ลำคอแปลก ๆ
คุณยายเย่ซินได้ยินหลานสาวเอ่ยวาจาห่างเหินราวกับคนไม่รู้จักกันเช่นนั้นก็หยุดสะอื้นไห้
“นี่หลานจำอาม่าไม่ได้รึ อั๊วเป็นอาม่าของลื้อไง เลี้ยงลือมากับมือตั้งแต่คลอดออกมา”
“อาม่าของฉัน”
เยว่อิงชี้นิ้วเข้าหาตนเอง
“ก็ใช่น่ะสิ นี่ลื้อจำอะไรไม่ได้เลยรึ”
เสียงแหลมระคายหูก็ดังขึ้น พร้อมกับสตรีในชุดกี่เพ้า แต่งหน้าเข้มราวกับนางงิ้ว
“ฟื้นแล้วรึ นังลูกไม่รักดี”