สารถีหันมองคนที่นั่งกับหลานสาวทางกระจกหน้า สายตาเธอกำลังมองเขาอยู่พอดี หนุ่มใหญ่ได้ทีจึงว่า
“บริหารเสน่ห์ดีจังเลยนะ แต่บอกไว้ก่อน มาอยู่ที่นี่อย่าทำให้เจ้าบ้านต้องขายหน้าล่ะ”
ตอนนี้เพื่อนเมามายนอนหลับไปแล้ว สุทธิวรรณจึงโต้เรื่องที่ยังไม่ได้เอาคืนเขาตามที่ใจต้องการได้
“ขายหน้าหรือคะ แล้วที่เจ้าบ้านอย่างคุณมาจูบแขกของหลานนั่นเรียกว่าอะไรคะ เรียกว่าไม่สมควร น่าขายหน้าได้หรือเปล่านะ”
“ยังไม่ลืมเรื่องนี้เหรอ หึ ก็แค่จูบ ทำไมฉันต้องขายหน้า”
“ไม่รู้หรือไงว่าขายหน้าเรื่องอะไร” คนที่เมามายหน่อยๆ ถามอย่างหมั่นไส้ เธออยากเอาชนะผู้ชายคนนี้จริงๆ ไม่เคยมีใครดูถูกเธอขนาดนี้มาก่อนเลย
“ว่ามาสิ”
“ก็จูบคุณมันห่วยแตกจนฉันจำไม่ลืมน่ะสิ ชัดมั้ยคะ”
คนที่เย็นชากับทุกสิ่งโดยเฉพาะสาวๆ อึ้งไปนาน มือกำพวงมาลัยแน่น
ยายเด็กคนนี้กำลังท้าทายเขาสินะ แบบนี้ควรจัดให้สมใจดีมั้ย จะได้ไปจากที่นี่เร็วหน่อย ไม่ต้องมาปั่นหัวใครในไร่เขาอีกต่อไป ดูอย่างจาตุรนต์สิ เคยทำแบบนี้ที่ไหน เจอลูกอ้อนเข้าหน่อย ก็นั่งหวานกับหล่อนจนลืมว่าคืนนี้เขาไปด้วย
“ห่วยเหรอ แต่ตอนนั้นฉันว่าเธอเคลิ้มอยู่นะ ฉันยังคิดเลยว่าถ้าลากเข้าห้องทำมากกว่าจูบคนอย่างเธอก็คงยอมแน่ๆ”
“ไอ้ ไอ้…”
ผลุง! “หนวกหูมากเลยน่าแก คุยไรกัน ฉานจะนอน” สสินาถหยิกแขนเธอเหมือนที่ทำเสมอยามเมา สุทธิวรรณจำต้องสะกดกลั้นอารมณ์โกรธเอาไว้ แม้เห็นสายตาสาแก่ใจคนขับรถอยู่ก็ตาม เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้
อีตาลุงปากจัด ฝากไว้ก่อนเถอะ