แม้ไม่ใช่วัชรภิรมณ์โดยสายเลือดแต่ทุกคนในบ้านหลังนั้นรวมถึงพี่กวินก็ต่างให้ความเอ็นดูผม พี่กวินใจดีมาก แต่แปดปีไม่พบกันทำไมเจออีกครั้งจาก ‘พี่กวิน’ ที่แสนดีจึงกลายเป็น ‘คุณกวิน’ ที่ร้ายแสนร้ายกับผมได้มากมายขนาดนี้
“จะไปไหน”
ทั้งที่เร่งหวังออกจากรถแต่เขากลับคว้าต้นแขนของผมเอาไว้พร้อมมองกันด้วยความไม่พอใจ
“ผมจะกลับห้อง”
“กลับห้องหรือจะรีบกลับไปหาไอ้หมอนั่นกันแน่ อ่อ! หรือจะไปผับตั้งแต่หัววันตามที่มันบอกไว้ล่ะ”
“เขาไม่ได้นัดแล้วข้าวก็ไม่รู้ด้วยว่าผับนั่นอยู่ไหน”
“แปลว่าถ้ารู้นายก็จะรีบตามมันไปใช่ไหม-!”
“คุณกวินข้าวเจ็บ”
“ฉันแตะนิดแต่หน่อยบอกเจ็บ ทีตอนมันจับมันแตะบ้างทำไมนายไม่ว่าอะไรสักคำ ไอ้ที่ทำเป็นไม่รู้จักก็เพื่อให้ฉันมองว่านายใสซื่ออย่างที่หลอกทุกคนในบ้านนี้ไว้สิท่า แต่สุดท้ายนายก็ทนไม่ได้จนต้องคว้าแขนมันไว้เองเพื่อจะได้พากันไปต่อที่อื่น”
“คุณกวิน!”
“อย่าดีแต่ง้างข้าวเจ้า ถ้ากล้าก็ชกมาเลย!”
ทั้งที่ผมสุดทนกับคำดูถูกของคนใจร้ายจนเกือบซัดหน้าแต่ต้องกำหมัดไว้ จุกอกกระทั่งขมลำคอ
คุณกวินเกลียดผมมาก เกลียดเสียจนสายตาของเขาไม่มองเหตุการณ์เลยว่ามันใช่อย่างนั้นจริงหรือว่ายังไง
“นายขอให้ฉันไม่ใจร้าย ขอให้ฉันไม่เกลียดนาย ฉันก็ทำ ทำจนเกือบเชื่อว่านายเป็นข้าวคนเดิม แต่สุดท้ายนายก็โกหกหลอกลวง ตั้งแต่ห้องชุดแล้วที่ฉันควรเอะใจว่านาย 'อยากมาก' จนต้องวิ่งตามผู้ชายคนอื่นออกไปนอกร้าน พอไปถึงร้านลูกหว้าก็ยังอุตส่าห์มีคู่ขาตามไปให้ 'อยาก' ตามมันอีก หรือจริง ๆ มันเป็นคนเดียวกับที่นายวิ่งตามตอนอยู่ห้องชุดกันแน่ มันเป็นคนเดียวกันใช่ไหมข้าวเจ้า!”
“คุณกวินข้าวเจ็บ”
“เลิกเอาน้ำตามาใช้สักทีบอกแล้วไงน้ำตาของนายมันน่าสมเพช น่ารำคาญแค่ไหน ยิ่งเห็นฉันก็ยิ่งเกลียด ได้ยินไหมว่าฉันเกลียด!”
*นิยายเรื่องนี้แต่งไว้หลายปีแล้วแต่ได้นำกลับมารีไรต์
จึงมีความไม่สมเหตุสมผลรวมถึงมีความไม่ร่วมสมัยซึ่งอาจสร้างความขัดใจหลายจุด
ยุงในเรื่องค่อนข้างชุม นายเอกเจ้าน้ำตา พูดตะกุกตะกัก พระเอกร้ายเข้าใจผิดเก่ง ขยันตะโกน