ตี๊ด ๆ ๆ ๆ
เสียงนาฬิกาปลุกที่ไม่คุ้นเคยดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท
ฉันที่กำลังหลับอย่างสบายอยู่บนเตียงหนานุ่มและอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมสะอาดอันไม่คุ้นเคย
พลันกลิ่นหอมแปลกแปล่งก็โชยเข้ามาแตะจมูกเมื่อเผลอสูดลมหายใจเข้าหนัก ๆ
ฉันค่อย ๆ เปิดหนังตาที่รู้สึกได้ถึงความหนาหนักขึ้นช้า ๆ อาการปวดหนึบ ๆ บริเวณขมับทั้งสองข้างที่ไม่ค่อยคุ้นเคยแต่ก็ยังพอจะรู้สาเหตุว่าเกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ผสมยาเข้าไปเมื่อคืนที่ผ่านมา
“แต่!!!! นี่มันยังไงกัน!!!!”
ร่างกายที่ปวดร้าวราวใกล้จะแตกหักเหมือนผ่านศึกหนักหนาจนร่างแทบจะฉีกออกเป็นเสี่ยง ๆ
‘นี่ฉันโดนรถสิบล้อทับมาหรืออย่างไร’ คิ้วเรียวบนใบหน้ารูปไข่ทว่าขาวซีดไร้เครื่องสำอางขมวดมุ่นเมื่อนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนสามารถปรับโฟกัสของภาพที่ภาพที่ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า
หลังคาเพดานสีขาวสูงตระหง่าน หน้าต่างบานใหญ่สีขาวจรดพื้น ผ้าม่านกันแสงสำขาวผืนบางถูกรูดปิดเพียงครึ่งหนึ่งทำให้แสงแดดอ่อน ๆ จากภายนอกสาดเข้ามาเป็นเส้นสายสีเหลืองส้มทอดผ่านไปบนพื้นหินอ่อนสีขาว
เสียงเครื่องปรับอากาศทำงานอย่างนิ่งสงบแว่วอยู่ไกล ๆ และอากาศหนาวเย็นภายในห้องที่ต้องกระทบผิวเนื้อนอกร่มผ้าเปลือยเปล่าที่โผล่พ้นผ้าห่มสีขาวออกมาทำให้ขนอ่อนบนร่างกายลุกชัน
ภาพมืดสลัวที่มีเพียงแสงสว่างรางเลือนจากแสงอาทิตย์ยามสายสาดส่องเข้ามาเพียงบางเบาทางช่องว่างของม่านบังแสงที่เปิดแง้มเอาไว้จนเหลือช่องว่างอยู่ครึ่งหนึ่งทำให้ภาพที่ปรากฎขึ้นตรงหน้าไม่ชัดเจนเท่าใดนัก
ภาพเพดานไม่คุ้น สีผ้าม่านไม่คุ้น ตู้เสื้อผ้า โต๊ะข้างเตียงแล้วไหนจะเครื่องปรับอากาศนี่ที่หอในของมหาวิทยาลัยมีแอร์ ที่ไหนกันแค่พัดลมเพดานรุ่นพระเจ้าเหาที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยโดยไม่คำนึงถึงอายุอานามของตัวเองก็หรูแล้ว สมองของฉันเริ่มประมวลผลอย่างหนักหน่วงว่าภาพที่ไม่คุ้นเคยอันปรากฏขึ้นตรงหน้านี้มันเป็นที่ไหนแล้วมาอยู่ต่อหน้าฉันได้อย่างไร
สมองของฉันทำงานอย่างหนักในขณะที่อาการปวดหนึบของขมับทั้งสองข้างก็ยังคงจู่โจมไม่หยุดหย่อนจนทำให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลลดลงไปกว่ากึ่งหนึ่ง
แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่หยุดทำงานไปเสียทีเดียว
ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่พึ่งผ่านมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามาในความทรงจำอันสุดแสนน่าละอาย