“ถ้าจะมีอะไรสักอย่างที่คนบนโลกเดาถูกเกี่ยวกับระบบซับซ้อนของจักรวาลนี้ก็คือเรื่องเนื้อคู่ เราลงไปเกิดไม่ได้ถ้าไม่ถูกจับคู่ก่อน ผมไม่รู้ว่าพวกเขาเดาออกได้ยังไง หรือบางทีคนบนนี้อาจต้องเข้มงวดเรื่องน้ำพุแห่งความหวังมากกว่านี้แล้ว”
เมื่อ ‘ซิดนีย์’ วิญญาณหนุ่มที่ควรจะลงไปเกิดดันส้มหล่นได้รับสิทธิพิเศษเป็นวิญญาณดวงแรกที่จะได้เลือกเนื้อคู่ของตัวเอง แต่ตัวเลือกทั้งสี่ของเขาดันเป็นผู้ชายแถมยังเป็นเทวดาที่ทำผิดกฏสวรรค์มาอีกต่างหาก
“แอตลาส”
ร่างสูงใหญ่ของผู้ชายคนแรกก้าวออกมาตามเสียงเรียก เขามีผิวสีแทนและผมสีทองเหมือนคาราเมล ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคมกริบมองตรงมาที่ตาของผมเหมือนที่เข็มทิศทำกับทิศเหนือ ริมฝีปากหยักของเขาคลี่ออกเกือบเป็นรอยยิ้มปลอบประโลม ภาพรวมของเขาให้ความรู้สึกเหมือนการจ้องมองกองไฟ ไม่ใช่กองไฟที่ลุกโชติช่วง แต่เหมือนไฟที่ราแสงลงแล้ว อบอุ่นพอสำหรับคืนเหน็บหนาวแต่ไม่เกรี้ยวกราดพอที่จะแผดเผาใคร
“เบริง”
ร่างเพรียวของผู้ชายคนถัดมาก้าวออกมาหนึ่งก้าว ผิวของเขาขาวซีดพอ ๆ กับผิวของผม ผมสีดำขลับของเขาเป็นลอนเหมือนคลื่นทะเลรับกับดวงตาสีน้ำเงินเข้มของเขา ริมฝีปากบางเฉียบสีแดงสดถูกปล่อยในท่าสบาย ๆ เหมือนเขาไม่สนใจว่าสิ่งที่จะออกจากปากคู่นั้นส่งผลอย่างไรกับคนอื่น การมองเขาเหมือนการมองทะเลที่ทอดออกไปกว้างใหญ่ไพศาล น่าหลงใหลพอๆกับน่าหวาดหวั่นกับความไม่แน่นอนของคลื่นลม
“เคลย์”
วิญญาณคนต่อไปขยับออกมาอย่างรู้หน้าที่ ในบรรดาสี่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม เขาดูเหมือนคนปกติที่สุดแล้ว ผมสีน้ำตาลเข้มตัดสั้นเป็นทรงเรียบร้อย ดวงตาเรียวพอเหมาะสีเดียวกับสีผม มือกำยำของเขาประสานกันอยู่ด้านหลังทำให้ดูขึงขังแต่แววตาเปิดเผยของเขาทำให้ภาพรวมของเขาอ่อนโยนลง เขาดูเหมือนคนแปลกหน้าที่คุณกล้าฝากของสำคัญเอาไว้ถ้าคุณต้องเข้าห้องน้ำหรืออะไรแบบนั้น
“ดานัง”
วิญญาณคนสุดท้ายก้าวออกมาอย่างลังเล แต่ชั่วครู่ใบหน้าเล็กแหลมนั้นก็เชิดขึ้น โหนกแก้มสูงกับตาที่หรี่เล็กประกาศถึงความดื้อดึงอย่างเปิดเผย ผมยาวปรกไหล่เป็นสีม่วงอย่างผิดธรรมชาติเหมือนจะบอกเป็นนัยว่าเขามีกฎของตัวเอง ความขบถที่ขัดกับแววตาที่ดูเหมือนลูกหมาหลงทางของเขา
“แล้วถ้าผมไม่เลือกล่ะครับ”
“วิญญาณที่ไม่มีเนื้อคู่จะไม่ได้ไปเกิด และผมบอกไม่ได้ว่าวิญญาณที่ไม่ได้ไปเกิดจะเจอกับอะไรบ้าง เอาเป็นว่าเลือกมาสักคนแล้วไม่ต้องรู้คำตอบจะดีกว่า”
Project Paradise: ภารกิจชิงเกิด