(ภาพประกอบไม่มีเจตนาเพื่อการค้าแต่อย่างใด)
มี E-Book ที่ Meb, Tunwalai, และ ปิ่นโตนะคะ
...
“สูบบุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพนะครับหมอ” ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งหากแต่เพรียวกว่าเอ่ยทักทาย พลางยักคิ้ว แล้วเอนหลังพิงระเบียง
“มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง” ชายหนุ่มบ่นอุบพลางแตะปลายบุหรี่ทิ้งปลายไหม้ร่วงสู่พื้น
“เครียดอ่ะดิ” ปริณธวัฒน์เลิกคิ้ว พอจะรู้ต้นสายปลายเหตุ ปกติคุณหมอรักสุขภาพเลี่ยงการทำร้ายตัวเอง แต่เมื่อหัวใจไม่อยู่ในภาวะปกติก็ใช้ของพวกนี้เยียวยา ฮีลตัวเองจากหลุมดำมืดเฉกเช่นคนทั่วไป แม้รู้พิษภัยอันตรายของมันอย่างดี
เครียดสิ! สลัดเรื่องบารมิตาออกจากสมองไม่ได้สักที เลิกฟุ้งซ่านได้แค่ตอนทำงาน พออยู่กับตัวเอง ว่างๆ ทีไรก็อดคิดถึงไม่ได้ทุกที
“แม่ยังไม่กลับใช่มั้ย” เขาแทนที่จะตอบ ไม่อยากให้มารดารู้ว่าเจ้าตัวกลัดกลุ้มถึงขั้นต้องใช้นิโคตินช่วยเยียวยา พานทำให้ท่านไม่สบายใจ
“ยัง เหลืออีกตัวมั้ย ขอหน่อย”
คนอายุมากกว่าขมวดคิ้วมุ่น “ไม่ดีต่อสุขภาพ”
“เออ ทีตัวเองดูดละพ่นควันโขมงเชียว” คนเกิดทีหลังอดแดกดันไม่ได้
น้องชายคลานตามกันออกมาใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม นึกลังเลว่าควรเปิดประเด็นชวนคุยเรื่องส่วนตัวดีหรือไม่ พวกเขาสนิทกันมากก็จริงแต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีประโยชน์อันใดหรือเปล่าที่จะตั้งตัวเองเป็นที่ปรึกษา แม้กระทั่งผู้หญิงสักคนที่คบหาอย่างจริงจังยังไม่มี แต่มีหน้าอยากเป็นที่ระบายให้คนเพิ่งหย่าร้าง
“ปรินซ์”
“ว่า…” ปริตถกรตอบรับ บี้ปลายบุหรี่ใต้ฐานระเบียงไม่ทิ้งหลักฐานให้มารดารู้
“ฉันเป็นเพื่อนดื่มให้ได้นะถ้านายอยากเมาน่ะ แล้วก็… ถ้าอยากได้สาวๆ”
“พอเลย!” ผู้เป็นพี่ปรามทันทีเมื่อเอ่ยถึงคำว่า ‘สาวๆ’ ก่อนพูดต่อ “เรื่องเมาเนี่ยเอาด้วย ส่วนสาวๆ เอาไว้ก่อนเถอะว่ะ”
“เฮ้ย! คิดจะไม่เปิดใจรับใครแล้วเหรอวะ” ปริณธวัฒน์ผลักไหล่เบาๆ เชิงหยอกล้อ พ่อม่ายหมาดๆ ย่นคิ้วเรียวเข้าหากัน
“ปวดหัว”
“เอาดีๆ ปวดหัวหรือปวดใจ”
“ลองคบใครจริงจังสักคนสิแล้วจะรู้ว่ารู้สึกยังไง” ปริตถกรว่าแล้วพ่นลมหายใจกรุ่นกลิ่นนิโคตินจางๆ ออกจากปาก