เหลียนฮวาตกตะลึงกับภาพบุรุษเปล่าเปลือยแผงอกกำยำกำลังยืนอาบน้ำ เนื้อตัวเปียกโชก นางหวีดร้องในใจหลับตาปี๋ พร้อมทั้งวิ่งออกมาอย่างไม่คิดชีวิต อยู่มาจนมีชีวิตที่สองแล้ว สาวทึนทึกอย่างนางยังไม่เคยเห็นแม้แต่กล้ามท้องบุรุษด้วยซ้ำ ภาพเมื่อสักครู่นี้เกือบทำให้นางหัวใจวายตายเป็นครั้งที่สองเสียแล้ว เหลียนฮวาเอ๋ยนี่คือบทลงโทษที่เจ้าอายุล่วงเข้าสามสิบ แต่ยังไม่เคยมีแม้กระทั่งคนรู้ใจ หรือที่เรียกในแบบยุคสมัยใหม่ว่า'แฟน' ใช่หรือไม่ นางได้แต่ก่นด่าสวรรค์สาปแช่งนรก ที่ทำให้นางต้องมามีชีวิตเช่นนี้…
"ดวงตาลึกโบ๋ โหนกแก้มใหญ่ ผิวดำคล้ำและยังฟันเหยิน ด้วยรูปลักษณ์นี้ของเจ้าข้าบอกได้คำเดียวว่าช่างอัปลักษณ์ยิ่งนัก แล้วหย่งอ๋องชมชอบสิ่งใดในตัวเจ้า" จางซีเอ่อกวาดมองเหลียนฮวาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เหลียนฮวายืนนิ่งไร้ซึ่งท่าทีโต้ตอบ นางรู้สึกเหนื่อยใจกับบุรุษผู้นี้ที่ช่างขยันคอยแต่จับผิดนางเหลือเกิน
"ถึงแม้นจะชมชอบในบุรุษเพศเดียวกัน ก็ควรที่จะเลือกหน้าตาที่ดีกว่านี้ ข้าไม่เข้าใจจริงๆว่า 'หย่งเล่อ' กำลังคิดอันใดของเขาถึงได้หลงใหลในตัวเจ้านัก"
'คำก็อัปลักษณ์สองคำก็อัปลักษณ์ คอยดูเถิดหากท่านได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของข้าแล้ว ยังจะกล่าวเช่นนี้อีกหรือไม่'
"ท่านอ๋อง" เหลียนฮวา เรียกชื่อเขาพอดีกับที่ร่างของนางปะทะเข้ากับอกแกร่ง เหลียนฮวาช้อนมองดวงหน้ารูปงามสลักเสลาราวหยกที่ถูกปิดด้วยหน้ากากเงินครึ่งซีก พร้อมกับจับไปที่แขนกำยำซึ่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามของบุรุษเพศ
"หวีดร้องเป็นอิสตรีไปได้ อย่าลืมว่าเจ้าเป็นบุรุษมิใช่สตรี…"
เหลียนฮวากัดฟันบอกเขาว่า "ก่อนหน้านั้นเพราะความจำเป็น แต่ตอนนี้แตกต่างกัน ในวังของพระองค์ มีตำหนักน้อยใหญ่มากมายเหตุใดพวกเราจะต้องพักอาศัยร่วมกันด้วย"
"เพราะในสายตาของคนภายนอก เจ้าคือพลทหารรับใช้ข้างกายข้า หากเจ้าแยกไปอยู่ต่างหาก คนอื่นจะไม่สงสัยหรือ ทุกอย่างนี้ล้วนแล้วแต่คิดเผื่อเจ้า"
'มารดามันเถิด'เหลียนฮวาได้แต่ก่นด่าอีกฝ่ายในใจ นางพยายามข่มอารมณ์ของตนเองอย่างยิ่งยวด
"แต่ความจริงที่พระองค์ ทราบว่าหม่อมฉันคือสตรี การอยู่ร่วมตำหนักเดียวกันเห็นจะเป็นการไม่ควรหรือไม่"
"ชายหญิงล้วนแตกต่างอย่างที่เจ้ากล่าว แต่สำหรับเราทั้งคู่ล้วนไม่มีสิ่งใดไม่เหมาะสม เพราะข้าบอกแล้วว่าจะรับผิดชอบเจ้า เรือนร่างนี้ของเจ้า ข้าล้วนแล้วแต่เคยเห็นผ่านตามาหมดแล้ว ไม่มีสิ่งใดที่เจ้าต้องรู้สึกเป็นกังวล"