การคบกันระหว่างทันตแพทย์ผู้สุขุมกับหนุ่มมอปลายเจ้าของรอยยิ้มสดใส มันก็แค่ทฤษฎีลองผิดลองถูก
ถ้ามันใช่ก็คือใช่แต่ถ้าไม่ใช่ก็แค่กลับไปเป็นเหมือนเดิม
แต่จะทนฝืนได้สักกี่น้ำก็เล่นน่ารักซะขนาดนี้
‘นภดล’ ทันตแพทย์หนุ่มสุดหล่อผู้ตกอยู่ในสถานะอกหักเมื่อดันไปตกหลุมรักคนที่มีเจ้าของ
รักร้าวไม่ทันจะหายขาดกลับต้องมาปั่นป่วนหัวใจให้กับหนุ่ม ม. ปลายที่เจอกันครั้งแรกเพราะมีเหตุนำพา
ทั้งน่ารัก ทั้งสดใส เล่นเอาหัวใจหมอฟันหน้าตี๋หวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว
แต่รักครั้งนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อคนที่เริ่มรู้สึกดีด้วยกลับกลายเป็นน้องชายของคนที่เคยแอบชอบ
จนเกิดเป็นกำแพงปิดกั้นหัวใจโดยอัตโนมัติแต่จะทนฝืนใจแข็งได้อีกนานแค่ไหนกันเชียว
“อะไร”
ประโยคแสนเรียบออกมาจากปากอันน่ามองของหมอฟันหน้าตี๋ หลังจากที่เห็นสายตาที่อีกฝ่ายส่งมา เหมือนมันแฝงไว้ด้วยอะไรบางอย่างที่ทำเอาคนมองขุ่นข้องใจจนต้องถามออกไป
“ก็ครบรอบหนึ่งปีที่ผมอ่อยพี่ยังไงละครับ ว่าแต่เมื่อไรจะเปิดใจรับผมเป็นแฟนจริงๆ จังๆ ซะที นี่ผมก็อ่อยจนไม่รู้จะอ่อยยังไงแล้วนะครับ” ปากว่าแต่สายตายังจ้องอีกฝ่ายไม่เลิก กับสีหน้าแน่นิ่งแบบนั้นก็เดาคำตอบไม่ออกเลย
“ก็รับไปตั้งนานแล้วนี่”
ปากได้รูปเอ่ยแค่นั้น หันไปสนใจกับหนังสือที่อยู่ในมือต่อส่วนคู่สนทนาก็คงจะตกใจไม่น้อย เห็นได้จากประโยคนั้นที่ลั่นออกมาอย่างลืมตัว
“ห๊ะ...พี่ทีมหมายความว่ายังไงครับ”
พีรพลถามกลับ ความรู้สึกในตอนนี้จะเรียกว่าดีใจสุดขีดก็คงยังไม่ใช่ กระทั่งตอนที่ได้สบตาคู่คมนั้นอีกครั้งก็ยังใจเต้นแรงอยู่ จากความพยายามทั้งหมดในตลอดระยะเวลาที่เลยผ่าน สำหรับหนุ่มมอปลายแล้ว นี่คงเป็นสัญญาณเตือนที่ดีว่าความรักของเขาจะถึงคราวสมหวังเสียที ใบหน้าคมที่ค่อยๆ ยื่นเข้ามาหาจนสัมผัสถึงลมหายใจที่เป่ารดใส่กันเล่นเอาหนุ่มมอปลายถึงกับกลั้นหายใจไปชั่วขณะ
“พูดถึงขนาดนี้แล้วยังต้องให้แปลอีกเหรอ”
เพราะว่าเรื่องบางเรื่องต่อให้ไม่พูดออกมาตรงๆ ก็คิดว่าน่าจะเข้าใจได้ไม่ยากเว้นเสียแต่ว่าอีกฝ่ายไม่พยายามเข้าใจมันเอง
“เข้าใจครับแต่ก็อยากให้แปลเป็นคำพูดมากกว่า”
ประโยคนั้นชัดเจนโดยไม่ต้องอธิบายซ้ำ สำหรับราตรีที่แสนยาวนานเช่นนี้ก็ไม่อยากให้มันถึงเช้าเลย
-- ฝากติดตามด้วยนะคะ --