เดิมทีนางทาแก้มด้วยแป้งหนาเตอะ ริมฝีปากสีแดงกลีบท้อแต้มชาดแดงฉานเป็นวงดุจพระจันทร์ลิ้มรสเลือด จัดทรงผมยุ่งเหยิงเฉกเช่นสตรีบ้าแต่งเข้าจวนตระกูลเยว่ เพราะได้ยินคำเล่าลือหนาหูว่า สตรีใดที่แต่งเข้าตระกูลนี้จะทำให้บ้านเดิมของตนฉิบหายวายวอด
เพื่อแก้แค้นบิดาที่ทอดทิ้งนางกับมารดาไว้ จึงแบกฐานะคุณหนูใหญ่จวนเจิ้นหยางโหว สวมมงกุฎสีแดงขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวตามคำหมั้นหมายของบรรพบุรุษ เพราะหวังว่าแต่งเข้าไปแล้วชะตาของตระกูลเจิ้นจะจบสิ้นเฉกเช่นกับชีวิตมารดา
ทว่าเพียงเจ้าบ่าวปรากฏตัวเบื้องหน้า ก็รู้ว่าตนเองกระทำผิดพลาดเสียแล้ว
เยว่หมิงเซียนที่ใครๆ เล่าลือกันหนาหู บางคนว่าตัวซีดผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก บางคนว่าเขาป่วยเป็นโรคร้ายมากถึงสิบสี่โรคภัยไม่อาจรักษาได้ ทว่าพอพานพบกัน เหตุใดบุรุษที่ควรป่วยใกล้ตายถึงได้หล่อเหลาเหนือสามัญเช่นนี้ คิดๆ ดูแล้วบุรุษหมื่นพันในใต้หล้าหาเทียบเท่าความงามของคนผู้นี้สักเศษเสี้ยวไม่
เขามิใช่คนป่วยใกล้ตาย ไม่ได้อ่อนเปลี้ยเสียขา แม้แต่ลมหายใจที่นางสัมผัสได้ก็ไม่มีจุดใดที่บ่งบอกว่าป่วยไข้ภายใน แต่กลับองอาจแข็งแรงผึ่งผายยิ่ง และนางที่คิดแผนทำลายตระกูลเดิมให้สูญสิ้นจะสามารถทำอันใดได้ ในเมื่อการที่คุณชายใหญ่จวนตระกูลเยว่ปรากฏตัวด้วยรูปลักษณ์เช่นนี้มิใช่เป็นการยืนยันแล้วหรอกหรือว่าคำเล่าลือหามีสักส่วนที่เป็นเรื่องจริงไม่ ถ้าเช่นนั้นเรื่องที่ว่าสตรีใดแต่งเข้ามาจะทำให้บ้านเดิมฉิบหายนั้นก็...
เวรล่ะ! วราลี สุขเจริญมงคล ในร่างของเมิ่งถิงเซ่อ หรือเจิ้นหว่านรั่วในตอนนี้ได้แต่ร่ำร้องอยู่ในใจ
ข้าคือหญิงบ้าผู้โง่งม เล่ม ๒ (จบ)
ฝากผลงาน #กุ้ยฮวา ด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ
“ทุกเรื่องราวของตัวละครในเนื้อเรื่องเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ใดๆ และยังเป็นผลงานนิยายจีนเรื่องแรกของผู้เขียนด้วย ถ้าหากมีความผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ”
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. ๒๕๕๘
ห้ามลอกเลียนแบบหรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้
รวมทั้งการจัดเก็บ ถ่ายทอด สแกน บันทึก
ไม่ว่าจะในรูปแบบหรือวิธีการใดๆ
ในกระบวนการอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของงานประพันธ์