โอ้ใจเอยไหวหวั่นสั่นสะท้าน
เมื่อพบพานนงคราญอัปสร
ว่าได้จูบจุมพิตอรชร
ราญรอนรักยั่วเย้ายวนใจ
ร่วมเรียงเคียงเขนยเชยชิดสนิท
หวิวไหวคิดระเริงระรื่นชื่นฤทัย
ได้ลูบไล้สัมผัสเคล้นคลึงถัน
อันอวบอิ่มแนบแน่นอัปสรสวรรค์
หลงรื่นเสียวซ่านรัญจวนสะท้าน
อ่อนหวานรุกเร้าดื่มด่ำชูชัน
เสียงพร่ากระซิบรักคลอเคลียกัน
พลันตื่นจำพรากจากรักสัมผัสครวญ
“กรี๊ดดดดดดดดดดด” สิ้นเสียงกรีดร้องของรินรดา เขาก็สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจที่ เธอทั้งผลัก ทั้งถีบ ทั้งดิ้นเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดของใครบางคน โดยที่เธอยังไม่ทันที่จะดูว่าอยู่ที่ไหนและเขาเป็นใคร เธอคิดในใจว่าเป็นห้องนอนของตัวเองจึงพูดออกไปว่า
“ เฮ้ย!....คุณเป็นใครเข้ามาได้งัย”
“ผมต้องถามคุณมากกว่าว่าคุณเข้ามาได้อย่างไรจึงจะถูกครับ”
รินรดาไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เธอร้องสุดเสียงอีกครั้งแล้วพยายามมองหาข้าวของที่สามารถนำมาเป็นอาวุธป้องกันตัวจากชายแปลกหน้า ที่เธอเห็นแวบแรกก็รู้สึกได้ว่าเขาจะเป็นชายหนุ่มหล่อ รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวแดงๆ ผมลองทรงสั้นหวีเสยไว้ด้านหลัง จมูกโด่งเป็นสันได้รูปสวย คิ้วเข้ม ดวงตาแดงก่ำ ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อรูปปากไม่หนาและบางจนเกินไป กลิ่นวิสกี้คละคลุ้งไปทั่วห้อง
‘ขี้เมา’
รินรดารำพึงในใจ