จบ มรดกแห่งความขัดแย้ง
11
ตอน
392
เข้าชม
0
ถูกใจ
1
ความคิดเห็น
0
เพิ่มลงคลัง
ขึ้นชื่อว่ามรดกแล้ว ถ้าเกิดมีการแบ่งให้กันตั้งแต่ 2 ฝ่ายขึ้นไปล่ะก็ มักจะเกิดปัญหาความขัดแย้งขึ้นมาเสมอจนทำให้ผู้จัดการมรดกมักจะต้องปวดหัวอยู่เป็นเนืองนิจ ไม่ว่ามรดกที่ได้รับนั้นมันจะมากมายหรือน้อย

 

 

คำนำ 

       

ขึ้นชื่อว่ามรดกแล้ว ถ้าเกิดมีการแบ่งให้กันตั้งแต่ 2 ฝ่ายขึ้นไปล่ะก็ มักจะเกิดปัญหาความขัดแย้งขึ้นมาเสมอจนทำให้ผู้จัดการมรดกมักจะต้องปวดหัวอยู่เป็นเนืองนิจ ไม่ว่ามรดกที่ได้รับนั้นมันจะมากมายหรือน้อยสักเพียงใดก็ตามที เพราะขึ้นชื่อว่าคนแล้วมักจะไม่ค่อยพอใจกับสิ่งที่ตนเองได้รับก่อนเสมอ 

               คอยแต่จะไปคอยดูอีกฝ่ายว่าจะได้เปรียบตนเองมากกว่าอยู่ร่ำไป...ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะเป็นเช่นนี้เสมอ โดยมิได้นำพากันเลย...แต่ก็อาจจะมีบ้างที่มรดกที่ได้รับกันนั้นไม่ค่อยจะมีปัญหาอย่างใด แต่ผมเชื่อว่ามีส่วนน้อยจริงๆ... 

ดังเช่นทันที่เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ 2551 องค์การยูเนสโก  ประกาศรับรองปราสาทพระวิหารขึ้นเป็นมรดกโลกเฉพาะแต่เพียงตัวปราสาทให้แก่ประเทศสาธารณรัฐกัมพูชาแล้วเท่านั้น ความยัดแย้งก็ติดตามมาอย่างทันทีทันใด 

               ทั้งที่ความขัดแย้งนี้มันเกิดขึ้นภายในประเทศไทยระหว่างคนไทยด้วยกันเอง 2 ฝ่ายที่มีความคิดต่างกันมันได้ก่อตัวกันมาก่อนแล้ว มันเลยได้ลามกลายไปเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศ คือไทยเรากับกัมพูชาหรือเขมรไปอย่างช่วยไม่ได้เลยจริงๆ 

               จะว่าไปแล้วความขัดแย้งกันด้วยเรื่องปราสาทเขาพระวิหารนี้ไม่ได้เพิ่งมาเกิดเอาตอนนี้ มันเกิดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 60 กว่าปีหรืออาจจะมากกว่านั้นอีกด้วยซ้ำไป... 

               ข้อเขียนนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นมาเพื่อวิพากษ์วิจารณ์หรือชี้การถูกผิดที่เกิดขึ้นแต่อย่างใดเลยแม้แต่น้อย ผมและฝ่ายจัดทำทั้งหมด เพียงแค่ขอบันทึกประวัติศาสตร์ในครั้งที่พวกเราได้ร่วมสมัยกันในตอนโน้นเท่านั้น ทุกอย่างพวกเราได้บันทึกเหตุการณ์ภายในตัวเรื่องของสารคดีข้อเขียนเรื่องนี้เอาไว้เป็นประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งเท่านั้น 

               และที่สำคัญเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนปี 2551 แทบจะทั้งสิ้น หลังจากนั้นจะมีเหตุการณ์อะไรเกี่ยวกับเขาพระวิหารผู้เขียนก็ไม่ได้นำมาบันทึกเป็นสารคดีในตอนนี้แต่อย่างใดทั้งสิ้น เนื่องจากต้นฉบับชุดนี้ในจัดทำขึ้นในปีนั้นนั่นเอง 

               ในปีนั้นผมได้จัดทำต้นฉบับสารคดีเรื่องนี้จัดทำเป็นหนังสือให้กับโรงพิมพ์เล็กๆแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดปริมณฑล ตอนนี้น่าจะเลิกกิจการไปแล้ว ตอนนั้นขายให้เขาจัดทำไปพิมพ์จำหน่ายเฉยๆไม่ได้มีการเซ็นขายขาดลิขสิทธิ์ให้กับทางสำนักพิมพ์ 

ผมก็เลยมั่นใจว่าลิขสิทธิ์ของสารคดีเรื่องนี้ยังเป็นของผมอย่างแน่นอน เมื่อเป็นดังนี้ผมจึงสามารถที่จะนำมาเผยแพร่ต่อไปได้อย่างไม่น่าจะมีปัญหาประการใด ผมจึงขอนำเผยแพร่ในรูปของข้อเขียนรายตอนก่อนแล้วต่อจากนั้นก็จะทำเป็นอีบุ๊กต่อไป หวังใจว่าท่านนักอ่านหรือรีดเดอร์ทั้งหลายคงจะสนใจช่วยกันอุดหนุนต่อไปด้วยนะครับ 

ถือว่าเป็นการระลึกถึงอดีตกันหน่อย เพื่อที่จะได้ดำเนินชีวิตในวันนี้ ให้เกิดอนาคตที่ดีกับสังคมและตัวเราเองต่อไปก็แล้วกันนะ... 

นับถือ 

พวงพลอย มาลัยรัก 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว