เหรินอวี้...สตรีผู้มากรัก
ความรักที่เขาทอดทิ้ง...นางเองก็จะทิ้งมันเช่นกัน
‘ไหนบอกว่าคิดถึงข้า...เหตุใดจึงยอมแพ้แล้วเล่า’ เสียงทุ้มแหบต่ำเพราะอารมณ์รักกำลังลุกโชนเย้านางให้ได้อับอาย
‘กะ...ก็...คิดถึง’
นางตอบกลับเสียงสั่นเมื่อแรงรักของเขาเป็นจังหวะถี่รัวเมื่อพึงพอใจกับคำสารภาพอย่างไร้ยางอายของนาง...
‘เช่นนั้นข้าก็รักเจ้าให้สมกับความคิดถึงอย่างไรเล่า’
เขาออกแรงเพียงนิดเดียวเท่านั้นก็สามารถพลิกร่างขาวอรชรของนางให้คว่ำลงทั้งที่ร่างกายส่วนล่างยังคงสอดประสานกันเอาไว้...
มือเล็กจิกทึ้งที่นอนเอาไว้จนเจ็บเมื่อร่างอรชรถูกตอกตรึงด้วยจังหวะเข้าออกที่ทรงพลัง...มือหยาบที่เคยจับดาบในสนามรบเลื่อนมาเค้นคลึงดอกบัวตูมที่โยกไหวไปตามจังหวะรักพร้อมกับที่ริมฝีปากร้อนจะกดจูบไล่ขึ้นมาจากแผ่นหลังเปลือยไล่มายังติ่งหูและขบกัดมันเป็นจังหวะสลับกับเคลื่อนตัวตอกตรึงร่างอรชรตามแรงปรารถนา
‘อ่า...ข้า...’
เสียงครางเพื่อร้องขอให้เขาหยุดทรมานตนเองเสียทีดังออกมาจากริมฝีปากสีสดที่ยังคงหอบหายใจถี่รัวเพราะแรงรัก...
‘อยากให้ข้ารักหรือ...’
‘อื้อ!’ นางละทิ้งความอับอายร้องขอให้เขาเลิกทรมานนางเสียที...เสียงหัวเราะด้วยความชอบใจของเขายังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำ
ยามเมื่อได้ยินข่าวลือออกมาว่าเขากำลังจะแต่งงาน...หัวใจของนางราวกับมีมีดคมมาปักลงและกระหน่ำแทงก่อแผลลึกเมื่อรับรู้ว่าสตรีที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวของเขานั้นแสนเหมาะสมกับเขามากเพียงใด
นางจำได้ดีว่าตนเองต้องใช้ความกล้ามากเพียงใดในการถามเขาถึงข่าวลือที่กำลังเป็นที่พูดถึงในเมืองในขณะนี้
‘เจ้าก็อยู่ที่เดิม...มิเห็นจำเป็นต้องกังวลอันใด’
ที่เดิม...ในความหมายของเขากรีดหัวใจของผู้ฟังให้เป็นชิ้นเมื่อรับรู้แล้วว่าสิ่งที่ผ่านมาล้วนเป็นเพียงความปรารถนาไร้ความรักเช่นที่เขาเคยลวง
นางจำได้ดีว่าร่างของตนเองยามเริงรักกับเขานั้นสุขสมมากเพียงใด...น่าชังที่นางโง่งมเกินกว่าจะเข้าใจว่าใต้หล้านี้ไร้ที่ยืนสำหรับสตรีที่ไร้สกุลใหญ่หนุนหลัง
ความรักอย่างนั้นหรือ...ช่างน่าขันเสียจริง
เขาบอกอย่างเย็นชาว่าให้นางอยู่ที่เดิมในขณะที่เขากำลังจะเดินหน้าเข้าสู่งานมงคลกับสตรีที่แสนเหมาะสมและคู่ควรกับบุรุษสกุลใหญ่เช่นเขา
หึ!
***************************
เรื่องนี้นางเอกเขาแซ่บนะคะทุกคน