‘คุณเอื้อสายเปย์ เทกระจาดแจกเงินยิ่งกว่างานทำบุญโรงเจเสียอีก ขอให้เขาได้ถูกใจเถอะ ทุ่มให้หมดไม่มีกั๊กสักแดงเดียว คนนี้ของจริง’
มนต์บุหลันนางแบบที่อชิรวิชหมายตากำลังถูกโปรแกรมสมองให้เป็นหญิงสาวนักสู้ เขามองเราเป็นของง่ายที่มีราคา เราควรมองเขาเป็นเพียงกระเป๋าเงินเดินได้มันถึงจะแฟร์ทั้งคู่ เขาอยากได้ตัวเรา ไม่ได้ขอร้องความรักอย่าสับสน
“หนูควรทำตัวยังไง”
“อ้อนเขาหน่อย คอนโด ค่าเรียนน้องชาย ยายป่วย หมาตาย ป้าข้างบ้านเป็นโรคหอบหืด แม่ติดหนี้เงินกู้ หนูเอามันมาอ้อนเขาเลยลูก” มนต์บุหลันฟังปัญหาชีวิตที่ยาวเหยียดของตัวเอง หมาตาย อ้อนเขาแล้วหมาจะฟื้นเหรอ
“คุณเอื้อแค่ต้องการนอนกับหนู หนูต้องอ้อนเขาด้วยเหรอคะ แค่นอนด้วยกันเฉยๆ ไม่ได้เหรอคะ”
“อ้อยเข้าปากช้างแล้ว หนูจะเคี้ยวแล้วคายทิ้งไม่ได้นะลูก” ผู้ชายควรกลัวเจ๊แวว โมเดลลิ่งส่วนตัวของเธอที่กำลังสอนทริควิธีการหลอกล่อเงินจากกระเป๋าตังค์อีกฝ่าย
มนต์บุหลันถูกเพื่อนของเอื้อทาบทามด้วยเงินจำนวนแปดแสนบาท เศษเงินพนันของพวกเขามีค่าต่อชีวิตหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่มีภาระทางบ้าน ทุกคนต่างมีภาระกันทั้งนั้น ทว่าไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสแบบเธอ
แปดแสนบาทเปรียบดั่งค่าลิขสิทธิ์นาผืนน้อยที่จะเอาไปปล่อยเช่า เอื้อแค่มาขอเช่าที่ นายังเป็นของเราไม่ได้หายไปไหน ขายต่อได้เรื่อยๆ แต่งงานแล้วนั่นแหละ ผัวมีใบทะเบียนสมรสถึงได้บอกใครว่านาผืนนี้มีเจ้าของจับจองแล้ว
มนต์บุหลันฟังเจ๊แววอธิบายเรื่องขายนาเหมือนครูสอนเด็กไร้เดียงสา สายตาก้มมองหว่างขาตัวเองเป็นระยะๆ เธอกำลังจะเอานาตัวเองไปให้เขาเช่า แลกกับเงินจำนวนหนึ่ง
“หนูบุหลัน คนที่หนูจะให้เช่านาน่ะเป็นคนรวยมากๆ คนที่เราไม่มีวันได้รับสิทธิ์เป็นภรรยา เขาเลือกเราเพราะเหตุผลเดียวคือเขาอยากนอนกับเรา ตัวเราไม่ได้มีค่าต่อใจเขา แต่เราทำให้เขาเอ็นดูเราได้ ถ้าเขาตกบ่วง หนูจะได้มากกว่าห้าแสนอีกลูก”
เจ๊แววได้ค่านายหน้าไปสามแสนบาทเลยพยายามจะสอนมนต์บุหลันให้เข้าใจความเป็นจริงด้วยเมตตาว่าสถานะของมนต์บุหลันกับคุณเอื้อ อชิรวิชนั้น ไม่ได้จัดอยู่ในระดับเดียวกัน
“มีโอกาสให้คว้าไว้ หนูรู้ตัวใช่ไหมว่าเขาสามารถซื้อใครก็ได้มานอนด้วย เขาซื้อหนูเท่ากับเขาเปิดโอกาสให้หนูปอกลอกเขา” เจ๊แววดูช่ำชองทางด้านนี้มากจนน่าสะพรึง
“ปอกลอกเลยเหรอคะ”
-----------------------
“วางพนันไหม กูขอเธอคนเดิม” เอื้อพูด เพื่อนเข้าใจเจตนา แต่ทำตามไม่ได้
“เด็กไม่ได้รับงานแล้ว”
“ทำไม”
“น้องเขาได้งานใหม่” เขากลอกตา การมาเมื่อยเอว ปวดไหล่ในวันนี้ดูท่าจะไม่มีความหมายใดเลย
เอื้อคืนหัวไม้ ขอเหล็กเจ็ด ไม่อยากหวดไกลเพราะแรงจูงใจไม่มี
ตั้งท่าตีออกไปตามสัญชาตญาณ ลูกลอยไปไกลแค่ร้อยหลา เพื่อนโห่ร้องดีใจจะได้กินพนัน
ทว่าอชิรวิชเฉยเมย
การมาหวดวงสวิงในวันนี้ไร้ความหมาย เสียดายเหงื่อที่ไหลซกเป็นน้ำตก
“เจ็ดแสนนะเสี่ย”
“อืม”
“ไม่หนุกเลย” เพื่อนคนหนึ่งเอ่ย อชิรวิชจุดบุหรี่สูบ “เจ็ดแสนไม่สนุกตรงไหน”
“เสี่ยดูไม่พยายาม” อชิรวิชขึงตา ต้องพยายามไปเพื่ออะไรช่วยตอบหน่อยสิ
“เดิมพันผู้หญิงไหม”
“ถ้าได้คนเดิมจะตั้งใจตี”