(ภาพเธอนอนจ้องเขาตาขุ่นเขียวบนโซฟาเบดตัวยาว)
ภาพปรากฎกะทันหันแวบเข้ามาในหัวทำจันทร์เจ้างันไป เธอรีบผละออกห่างจากจุดอันตรายนั้น
แต่คนตัวโตฝีเท้าเบากลับเข้าถึงตัวเธอแค่ไม่กี่วินาทีเขาอาศัยแค่จังหวะเธอเผลอเหม่อลอย
เจษฎายิ้มถูกใจเมื่อเขาคว้าร่างคนตัวเล็กที่ชะงักงันตรงหน้าไปกอดแน่น รัดสองแขนเธอแนบชิดติดลำตัว
แม้จะเตรียมตั้งรับ แต่แค่เสี้ยววินาทีที่เธอเผลอก็ทำเสียเปรียบยิ่งเธอดิ้น ปลอกแขนแข็งแรงนั้นกลับโอบกระชับรัดแน่นขึ้น
รองเท้าสูงๆนั้นทำให้หญิงสาวดิ้นไม่ถนัด จนสะดุดเสียหลักเปิดโอกาสให้เขาดันร่าง บางนั้นถอยหลังไปยังจุดหมายที่อยู่ไม่กี่ก้าว
เจษฎารู้ว่าคนตัวเล็กนี้ปราดเปรียวแค่ไหน จึงไม่ประมาท แค่เธอสะดุดนิดเดียวเท่านั้น เขาก็รั้งเธอเอนลงบนโซฟาเบดอย่างพอดี ยิ้มมุมปากอย่างพอใจเมื่อร่างกายทุกส่วนสัดเบียดแนบชิดกัน
"คุณ!
คราวนี้จันทร์เจ้าตกใจจริงๆ ที่ลงมานอนอย่างไม่ทันตั้งตัว แขนขาแข็งแรงเขารัดเธอแน่นเหมือนงูเหลือมรัดเหยื่อจนขยับไม่ได้
หนำซ้ำเจ้างูร้ายตัวนั้นยังจูบเปะปะไปทั่วแม้เธอจะส่ายหน้าหลบแค่ไหนก็หนีริมฝีปากเขาไม่พ้นจนรู้สึกโมโห
"พี่เจษ.. ปล่อยก่อนค่ะ" เธอยอมเรียกเสียงอ่อน แต่แววตายังมีประกายกรุ่นโกรธ
"ยอมเร็วจัง"
เจษฎายิ้มเจ้าเล่ห์เขาประทับริมฝีปากร้อนผ่าวจูบบนหน้าผากมน เปลือกตาแผ่วเบาก่อนจะจูบหนักๆ บนพวงแก้มแดงเรื่อหอมกรุ่นนั้น
"เจ็บแขนค่ะ" คนร่างเล็กประท้วงเสียงอ่อยหน้าตาแดงก่ำ
เจษฎายิ้มรู้ทันยอมคลายแขนออก แต่ยังคงทิ้งน้ำหนักทาบทับเธอไว้ เขารู้ว่าร่างเล็กๆ นี้แข็งแรงและมีพิษสงรอบตัว ไม่น่าจะยอมแพ้เขาง่ายดาย คิดอย่างนั้นแล้วจึงรวบมือทั้งสองข้างของเธอรั้งไว้เหนือศีรษะ...