มาแล้วลูกจ๋า วิวาห์เลี้ยงเดี่ยว ที่ทุกคนอยากอ่านมาแล้วจ้า
ก่อนอื่นต้องกราบขออภัยนักอ่านที่น่ารักทุกท่านที่เฝ้าอดทนรอ และมีแอบไปสะกิดไรท์ที่เฟสก็หลายคนเลย ซึ่งต้องบอกว่ารู้สึกผิดมาก ๆ และขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ ที่ช่วยเพิ่มความขยันให้ไรท์ ทำให้การกลับมาอัพในรอบนี้คือ การอัพฉบับที่แต่งจบแล้วเรียบร้อยจ้า (เย้ ๆๆๆ)
จำนวนคำของนิยายเรื่องนี้ก็คือ 139,887 คำ ยาวจุก ๆ ไปเลยจ้า
สำหรับสาย ebook นะคะ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด จะสามารถดาวโหลดกันได้ในวันที่ 12/05/65 นี้ค่ะ
ราคาตามนี้เลยนะคะ
ราคาปก 429 บาท (สำหรับสายรูปเล่มไรท์จะเปิดจองในราคานี้นะคะ รายละเอียดการจองเดี๋ยวมาแจ้งอีกทีนะคะ
ราคา ebook 309 บาท (ราคาขายในช่วงปกติ) ราคา 219 บาท (เป็นราคาโปรที่เปิดขายในช่วงที่ลงขายใหม่ ๆ)
ราคาขายตอน (เฉพาะตอนที่ติดเหรียญ) 297 บาท (อันนี้คือราคารวมทุกตอนนะคะ ตกตอนละ 9 บาท)
ใครสะดวกแบบไหนเลือกแบบที่ชอบได้เลยจ้า
แจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมและคำเตือน
ตัวละครในเรื่องนี้มีความสัมพันธ์จากเรื่อง "อุ้มรักปักใจ" นะคะ แต่อ่านแยกได้ค่ะ แม้จะมีความสัมพันธ์กันแต่เนื้อเรื่องไม่ได้คาบเกี่ยวกันค่ะ แยกเรื่องใครเรื่องมัน (แต่อ่านคู่มันก็จะฟินกว่าว่าไหมคะ อิอิอิ)
เตือนอีกเรื่องนะคะว่า นางเอกเรื่องนี้มีลูกติดค่ะ ไม่ใช่ลูกญาติโกโหติกาที่ไหน แต่เป็นลูกของตัวนางเอกเองจริง ๆ ใครถือเรื่องที่นางเอกต้องบริสุทธิ์ไม่แนะนำด้วยประการทั้งปวงนะคะ
+++++++++
“เฮ้อ! คุณนี่นะ ดื้อจริง ๆ” วาทีถอนหายใจแล้วจับหญิงสาวให้หมุนตัวมาเผชิญหน้ากัน และด้วยความที่เพิ่งตื่นทำให้มัตสยายกมือขึ้นบังหน้าตัวเอง มองลอดผ่านระหว่างนิ้วก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังกลั้นขำอยู่ เลยอดไม่ได้ที่จะถามเสียงเขียว “อะ อะไรคะ”
“ผมเพิ่งรู้นะว่านอนแล้วตื่นขึ้นมาเจอใครสักคนแบบนี้มันก็รู้สึกดีเหมือนกัน” ชายหนุ่มวางพลางกอดกระชับร่างสมส่วนที่นอนตัวแข็งทื่อ
“ไม่เชื่อหรอกค่ะว่าไม่เคยตื่นแล้วมาเจอผู้หญิงบนเตียงน่ะ” มัตสยาไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำเสียงเง้างอดที่พูดออกไปนั้นมันทำเอาวาทีถึงกับหลุดยิ้มออกมา
“หึงเหรอ”
“ไม่ใช่ค่ะ” มัตสยาลดมือลงพร้อมกับปฏิเสธเสียงสูง วาทีเห็นความลนลานนั้นแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ “แต่มันคนละความรู้สึกนี่ อดีตแก้ไขไม่ได้ แต่ปัจจุบันกับอนาคตผมกำหนดมันได้นะ ว่าที่ตรงนี้จะให้ใครอยู่” ชายหนุ่มยกนิ้วขึ้นจิ้มหน้าผากคนที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเองเบา ๆ
“เห็นตอนทำงานเนิ่ง ๆ เงียบ ๆ ปากหวานใช่เล่นนะคะ”
“ชิมดูไหมล่ะ”
“หื้อ” มัตสยาส่ายหน้าปฏิเสธอย่างไว ใจเต้นรัวราวกับจะทะลุออกมานอกอก และแทบกลั้นใจตายเมื่อชายหนุ่มคะยั้นคะยอ
“น่าชิมหน่อยเถอะ”
“ไม่เอาค่ะเกรงใจ” มัตสยาคิดว่าตัวเองปฏิเสธเสียงหนักแน่น ทว่าจริง ๆ แล้วมันทั้งสั่นและแผ่วเบา
“คนกันเองเกรงใจทำไม อีกอย่างผมเต็มใจนะ” วาทีกระซิบที่ข้างใบหู ทำเอามัตสยาถึงกับขนลุกซู่ “ไม่เอาค่ะ มัทยังไม่ได้แปรงฟันเลย”
“ผมไม่ถือ” วาทีดึงมือที่ปิดปากตัวเองของมัตสยาออกแล้วออกแรงเพียงเล็กน้อยดึงหญิงสาวเขามาชิดขึ้นกว่าเดิม แล้วใช้ปากประทับลงบนปากเม้มเอาไว้แน่น เพียงเท่านั้นมันก็คลายออกให้เธอได้พิสูจน์ความหวานจากปากของเขาว่าจริงเท็จแค่ไหน
แม้จะไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสาแค่เรื่องจูบมัตสยาผ่านมันมาแล้ว คิดเอาไว้ว่าถ้าโดนจริง คงพอรับมือได้ ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย อ่อนระทวยกับสัมผัสและจุมพิตที่ชายหนุ่มมอบให้ จนเคลิบเคลิ้มตอบสนองกลับตามที่เขานำพา
“อยากไปต่อไหม”
มัตสยาพยักหน้า ก่อนจะเบิกตากว้างแล้วรีบส่ายหน้าพร้อมกับยกมือกุมแก้มที่ร้อนผ่าวของตัวเองอย่างเขินอายที่ร่างกายเผลอไปตอบรับเขาเสียอย่างนั้น
“ซื่อสัตย์กับตัวเองหน่อยสิ” วาทีบอกเสียงกลั้วหัวเราะ ขยับตัวลุกขึ้นแล้วก้มลงจูบที่มุมปากของหญิงสาวเบา ๆ “แต่วันนี้ไม่ได้หรอก บอกแล้วไงผมไม่ทำเรื่องแบบนั้นต่อหน้าเด็ก และที่สำคัญไว้เราแต่งงานกันก่อนดีกว่า ฉะนั้นถ้าอยากกินผมก็แต่งงานกับผมซะ”