เธอ ปาริฉัตร หญิงสาววัย 22 ปี ลูกหนี้สาวแสนสวย เป็นเพราะพี่ชายของเธอซึ่งการพนันงอมแงมจนต้องกู้หนี้ยืมสินจากเจ้าของคาสิโนอย่างเขาและได้ขโมยโฉนดที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินชิ้นเดียวของตายายมาเป็นหลักประกันการกู้ยืม เธอจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะนำโฉนดกลับคืนมาจึงได้เข้าไปเจรจาต่อรองกับเขา
เขา ภาคินทร์ เสี่ยหนุ่มวัย 32 ปี เจ้าหนี้หนุ่มสุดเหลี่ยมจัด เขาผู้ไม่เคยขาดทุนในการลงทุนเลยสักครั้ง จะธุรกิจใดก็ต้องคิดถึงส่วนได้ส่วนเสียเสมอ
เขาอยากได้เธอมาครอบครองจึงได้ยื่นข้อเสนอที่เธอมิอาจปฏิเสธได้ ในเมื่อเธอมาขอร้องไม่ให้เขายึดที่ดิน เธอก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนที่เขาพึงพอใจ และที่เขามักทำประจำกับลูกหนี้สาว ๆ นั่นก็คือการ เก็บดอก แต่ไม่ใช่เก็บดอกเงินตราทว่าเป็นการเก็บดอกบนเตียง
แต่การทำธุรกิจกับลูกหนี้สาวรายนี้ดูเหมือนว่าเสี่ยภาคินทร์จะขาดทุนย่อยยับเพราะดันหลงใหลลูกหนี้ตัวหอมจนหัวปักหัวปำอยากจะเก็บดอกกับเธอทุกวันทุกเวลา และทำไปทำมาจากลูกหนี้เธอจึงเปลี่ยนสถานะเป็นคู่ชีวิต
......................................
เอี๊ยดดดด
เสียงล้อรถลากถนนเป็นรอยยาว หญิงสาวหันมองไปรอบๆอย่างตกใจ แล้วก็พบว่ารถของเสี่ยมาจอดหน้าร้านขายยาร้านหนึ่ง
"เดี๋ยวมา" เสี่ยภาคินทร์บอกกับเธอแล้วลงจากรถไป ผ่านไปครู่หนึ่ง เสี่ยกลับขึ้นมาพร้อมกล่องยาสี่เหลี่ยม
"เอาไว้กินหลังฉันเสร็จ" เสี่ยหนุ่มบอกแล้วกระชากรถออกไปอย่างไว
"ยาคุมฉุกเฉิน" ปาริฉัตรอ่านข้างกล่องออกเสียงมาเบาๆ
"ฉันจะสดกับเธอ ฉันไม่ใส่ถุงยางให้เสียของหรอก ในเมื่อเธอยังซิง" เสี่ยหนุ่มบอกแล้วหมุนพวงมาลัยรถเลี้ยวเข้าไปจอดหน้าโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง ปาริฉัตรตะลึงใบหน้าซีดเผือด ตัวเธอแข็งทื่อไม่ขยับขณะที่มือเล็กกำกล่องยาที่เสี่ยซื้อมาให้จนยับยู่ยี่ ถึงจะมียาคุมแต่เธอก็กลัวท้องอยู่ดี
นิยายชุดพิศวาสรัก อ่านเรียงได้ตามนี้เลยนะคะ
1. พิศวาสรักลูกหนี้ (เสี่ยภาคินทร์ + ปาริฉัตร)
2. พิศวาสรักเด็กหมอ (หมอชวิณ + แก้มใส)
3. พิศวาสรักเด็กฝาก (ภูริช + พลอยลลินณ์)
4. พิศวาสรักเมียแต่ง (ธันวา + รินรดา)
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และ พ.ศ. 2558 (ฉบับ 2)
นิยาย เรื่อง พิศวาสรักลูกหนี้ เป็นผลงานของนักเขียนนามปากกา violet แต่เพียงผู้เดียว ห้ามมิให้ผู้ใดทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่แก่สาธารณชนโดยมิได้รับอนุญาต หากผู้ใดละเมิดจะมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 100,000 บาท หากเป็นการกระทำเพื่อการค้าจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 2 เดือน ถึง 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 บาท ถึง 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ