กามเทพไร้ใจ
ฌอน ลูคาเซียส แดนชอว์ฟ สิงห์ร้ายผู้สมบูรณ์ด้วยทรัพย์สิน อำนาจ และรูปโฉม...ดุจเทพบุตรคิวปิดแสนสง่างามและเพียบพร้อม หากแต่ไร้ซึ่งหัวใจ...ด้วยเพราะถูกชกชิงไป นับตั้งแต่ ‘แม่นกน้อย’ กล้าบินหนีจากกรงทองที่เขาเฝ้าฟูมฟัก!
เดมมา ดมิกา เค. แดนชอว์ฟ แม่นกน้อยตาหวาน หลานสาวบุญธรรมของสิงห์หนุ่ม
เตลิดหนีจากกรงทองตั้งแต่ถูกตราหน้าว่าเป็น “ภาระ”
เปลี่ยนตัวเองจากลูกนกตาใสเป็นแม่หงส์ป่า
งามสง่าและแสนอิสระ
ทว่า ต่อให้เข้มแข็งมากขึ้นเพียงไร หัวใจก็ยังถูกล่ามตรวนแน่นหนา
เพราะนัยน์ตาสีน้ำตาลทองของ ‘คุณอา’ ยังคงฝังอยู่ในความคิด
ราวคำสาปครอบงำหัวใจชั่วนิรันดร์
ผ่านไปหลายปี สิงห์หนุ่มกระชากแม่นกอวดดีกลับเข้ากรงทองอีกครั้ง
ในฐานะ ‘หมาก’ ตัวสำคัญทางธุรกิจ
พันธนาการหล่อนด้วยโซ่พิศวาสแสนหวานที่ไม่เคยได้ลิ้มลองจากใคร
เขานี่แหละจะสอนให้ ‘แม่หงส์ป่า’ รู้ว่า...
ต่อให้แม่คุณเก่งกล้าและเย่อหยิ่งขึ้นแค่ไหน
...หล่อนก็ยังเป็นแม่นกน้อยตาใส เป็น‘เดมี่ของอาฌอน’ เป็นสมบัติของเขาอยู่วันยันค่ำ!
“อะ...อะไรอีกล่ะ”
ดมิกาถามเสียงแข็ง พยายามอย่างยิ่งที่จะซุกซ่อนความหวาดกลัว นัยน์ตาสีเปลือกไม้เหลือบมองร่างสูงใหญ่ที่เคลื่อนเข้ามาใกล้อย่างหวาดระแวง จนสิงห์หนุ่มอดไม่ได้ที่จะหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นท่าทางนั้น...ท่าทางที่เขยิบห่างเขาทีละนิดราวกวางน้อยที่สั่นกลัวราชสีห์ใจแทบขาดแต่ไม่ยอมกระโดดหนี
...ดีเหมือนกัน จะได้จับกินง่ายๆ ไม่ต้องไล่ตะครุบให้เหนื่อย
“อ๊ะ!”
แม่กวางน้อยหลุดอุทานเมื่อโดนสิงโตรวบเอาทั้งร่างไปขังไว้ในอ้อมแขน หล่อนพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ดิ้นแสดงอาการหวาดกลัว แต่ก็ไม่วายเผลอออกแรงขัดขืนเล็กๆเหมือนกวางตื่นบ่วงนายพราน ฌอนหัวเราะในดวงตาขณะกระชับร่างของหล่อนแน่นเข้าไปอีก ดมิกาเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนปะทะผิวแก้ม พยายามหลบดวงตาสีน้ำตาลทองที่กำลังยิ้มเยาะหล่อน
“ปล่อย...” สาวน้อยประท้วงเสียงเบา มือบางดันอกเขาให้ออกห่างแม้จะไม่เป็นผล
ชายหนุ่มไม่นำพาต่ออาการนั้น ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงซุกปลายจมูกลงบนผิวแก้ม สูดกลิ่นหอมอย่างรวดเร็วจนแม่ตาหวานสะดุ้ง เผลอดิ้นพล่านอย่างลืมตัว ดูเหมือนอาการนั้นจะทำให้สิงห์หนุ่มย่ามใจ จมูกร้ายจึงซุกไซ้สูดกลิ่นหอมหวานจากพวงแก้มทั้งสองอย่างไม่รู้จักพอ ดมิกาหวาดกลัวที่สุดในชีวิต หล่อนสั่นไปทั้งตัวจนน่าสงสาร รู้สึกเหมือนหัวใจจะวายตายในอ้อมแขนเขา
“คะ คุณอา...”
หล่อนกล่าวเสียงสั่น เปลี่ยนสรรพนามตามจิตใต้สำนึกอย่างลืมตัว ขณะเบี่ยงหน้าหนีสันจมูกโด่งที่ปาดไปมาบนผิวแก้มทั้งสอง
“ปะ...ปล่อยเดมี่”
ดูเหมือนมาเฟียหนุ่มจะพอใจกับคำอ้อนวอนนั้น เขาสูดกลิ่นแก้มขวาเนิ่นนานเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเลิกรุกรานหล่อนแต่ไม่ยอมคลายอ้อมแขน คล้ายต้องการกักขังแม่นกน้อยไว้ตลอดไป
“ฉันจะบอกอะไรดี ๆ อย่างนึงนะ ดมิกา เค. แดนชอว์ฟ...”
เสียงห้าวทุ้มกระซิบข้างหู
“อะไรที่เป็นของฉัน มันก็ต้องเป็นของฉัน…”
นัยน์ตาหวานที่แน่วแน่ตลอดเวลายามถือปืนเริ่มสั่นไหวเมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาคมปลาบสีน้ำตาลทองของพญาราชสีห์ ดมิกากลืนน้ำลายเมื่ออีกฝ่ายไล้นิ้วยาวไปตามผิวแก้มที่ถูกหอมจนช้ำเรื่อแดง และแดงมากขึ้นไปอีกเมื่อถูกเขาสัมผัส
“...ต่อให้เธอจะเปลี่ยนชื่อสักร้อยชื่อ หรือจะหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียว ฉันก็จะล่าเธอกลับมาอยู่ดี”
ปากหยักร้อนจู่โจมใบหูบางโดยที่ดมิกาไม่ทันตั้งตัว หญิงสาวขนลุกซู่ รู้สึกร้อนไปทั่วใบหน้า และยิ่งร้อนหนักกว่าเก่าเมื่อได้ยินเสียงกระซิบประโยคถัดมา...เสียงห้าวทุ้มที่อ่อนหวานกว่าครั้งไหนๆ
“ฉะนั้น อย่าคิดแม้แต่จะดื้อกับอาฌอน เข้าใจไหมคะ เดมี่...”
--------------------------
ที่จริงลงประจำที่เด็กดีค่ะ
http://writer.dek-d.com/trinnada/story/view.php?id=1129944
เพิ่งลองเล่นธัญวลัยดู
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองในเซ็ต กุหลาบแดนชอว์ฟ ค่ะ เรื่องแรกคือ กบฏรักพยัคฆ์ร้าย ลงที่เด็กดีประจำอีกเช่นเดียวกัน
http://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1115243
ฝากด้วยนะคะ ใครอยากอ่านล่วงหน้าไปก่อน ก็แวะไปที่เด็กดีได้น้า
ตฤณดา