so far......
" ฮารุยูกิ " น้ำเสียงอ่อนโยนที่ติดตรึงอยู่ในความทรงจำ
ของคนที่ผมโหยหา เพราะหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ
ทำให้ความสัมผัสธ์เริ่มมีช่องว่าง ถึงจะอยู่ใกล้
เเต่ก็เหมือนต่างฝ่ายต่างไม่ได้อยู่ตรงนั้น
" ......."
" ...ฮ .ฮา .กิ..... "
" ฮารุยูกคุง ตื่นได้เเล้วครับ "
" อ๊ะ ! ครับ "
ผมรีบลืมตาตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงปลุก พลางลุกจากโซฟา
ที่ใช้ต่างเตียงนุ่ม ๆ เมื่อกี้
"ขอโทษครับ ผมคงหลับนานไป "
กล่าวขอโทษทีมงานที่เป็นธุระมาปลุก ทั้งที่รับปากว่าจะพักสายตา
เเค่สิบนาที นี่คงเกินเวลาที่ว่านั้น...........เเย่จริง......
"ไม่เป็นไรหรอกครับ เตรียมตัวเถอะ นี่ก็ใกล้เวลาช่วงต่อไปแล้ว "
"ครับ " ผมรับคำสั้น ๆ เเล้วบิดตัวไปมาไล่ความขี้เกียจ
"งั้นรับกาเเฟสักเเก้วดีไหมครับ จะได้สดชื่น "
"ดีเลย รบกวนด้วยครับ"
ทีมงานคนนั้นยิ้มตอบให้ผม เเล้วเดินไปยังห้องเล็ก ๆ ทางขวามือ
ที่เเยกไว้สำหรับเป็นห้องเสบียง
เมื่ออยู่ตามลำพังอีกครั้งผมก็พรูลมหายใจออกมายืดยาวอย่างเหนื่อยหน่าย
ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผมมักรู้สึกเหนื่อยล้ากับตัวเอง
ที่ค่อยเเต่วิ่งหนีทุกสิ่งทุกอย่าง ในขณะเดียวกันก็กระโจนเข้าใส่ทุกอย่างอย่างบ้าคลั่ง
จนไม่เเน่ใจว่าสิ่งที่ผมต้องการทำอะไรกันเเน่
หรือที่หนีไปไหนไม่ได้อาจเพราะคำว่า " ความรับผิดชอบ" ค้ำคออยู่ก็ได้
"ฮารุยูกคุง กาเเฟได้เเล้วครับ"
ทีมงานคนเดิมกลับมาพร้อมเเก้วกาเเฟอุ่น ที่ส่งกลิ่นลอยมาเเตะจมูก
ผมถ้วยกาเเฟมาถือเเล้วเอ่ยขอบคุณ
พอดื่มกาเเฟเเก้วนั้นหมด ผมก็เข้าไปห้องจัดรายการวิทยุ
เตรียมทำงานอีกชิ้น ที่ผมทำประจำอยู่ตอนนี้ นอกเหนือจากงานเพลง
และอีกสารพัด ทั้งจากบริษัทจัดไว้ให้หรือเเม้เเต่งานที่ผมเสนอตัวขอทำเอง
จึงทำให้ตารางซีวิตในเเต่ละวันยุ่งวุ่นวายจนหมดวัน
"เอาล่ะครับ มาถึงช่วงที่สอง ที่เราจะได้อยู่ด้วยกันในค่ำคืนนี้ ....... "
ราวกับทำเพียงเพื่อฆ่าเวลาในเเต่ละวันให้เริ่มต้นเเละจบลง
ปกปิดความกังวลใจ ภายใต้ใบหน้ายิ้มเเย้ม เหมือนไม่มีอะไรก่อกวนความเชื่อมั่น
ผมเกลียดตัวเองที่เป็นเเบบนี้ที่สุด
"พักฟังเพลงกันก่อน เเล้วกลับมาอ่านอีเมล ที่ส่งเข้ามากันในช่วงสุดท้าย...... "
ถ้าเลือกได้ผมก็อยากให้ความสัมผัสของเราดำเนินต่อไปได้พร้อม ๆ กับเรื่องงาน
..................
..........................
.................................
ยามเช้ามาเยือนอีกครั้ง
พร้อมกับความรู้สึกเจ็บปวด
ค่อย ๆ เเทรกซึมจากทุกอณู
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ?
อะไรที่จะสามารถปัดเป่าความรู้สึกนี้ให้เบาบาง
เพื่อยืนเคียงข้างเธอโดยปราศจากสิ่งเหล่านี้
สิ่งสุดท้ายที่ควรทำให้เธอ มันคืออะไร ?
หรือพยายามทำในสิ่งใด ?
หากทุกอย่างที่เกิดขึ้นในทุกวัน ย่อมต้องผ่านพ้นไป
เพราะวันพรุ่งนี้ จะมาเยือนเราอีกในไม่ช้า
เเม้นาฬิกาบนข้อมือจะเเสดงเวลาที่ร่วงเข้าวันใหม่
หากงานของผมยังคงทำออกมาได้ไม่เป็นที่น่าพอใจ
"ทาคาฮิโตะ ฉันว่าเราพักกันหน่อยดีกว่าว่ะ ฝืนทำไปก็เท่านั้น
เพราะยังไงก็เค้นเมโลดี้ดี ๆ ออกมาไม่ได้เเน่"
ไทกะเพื่อนร่วมงานของผม เสนอความคิดให้พวกเราพักจากงาน
ตรงหน้าสักครู่ เพื่อให้สมองได้ผ่อนคลาย
ซึ่งทั้งเซจิที่นั่งปิดปากหาวอยู่ข้างตัวผมกับมุอุระที่เอนตัวจมหาย
ไปกับโซฟาตัวใหญ่สีดำ
ต่างเห็นด้วยกับไทกะ ส่วนผมเพียงเเค่พยักหน้าเป็นคำตอบ
"โอเค เป็นอันว่าพักกันสักหน่อย
อืม .........อีกชั่วโมงค่อยกลับมาลุยกันต่อ"
ไทกะสรุปสั้น ๆ แล้วเราสี่คนก็เเยกย้ายหามุมของตัวเอง
"งั้น ขออกไปเดินเล่นหน่อยล่ะกัน"
ผมบอกเพื่อนร่วมงานทั้งสามคนเเล้วเเยกตัวออกมา
โดยมีเสียง ....อืม.... ของไทกะตอบรับเเผ่ว ๆ
ตามทางเดินของบริษัทเรียกได้ว่าร้างผู้คน ผิดจากเวลาทำการปกติ
ผมมาหยุดยืนอยู่หน้าขายเครื่องดื่มหยอดเหรียญตรงสุดทางเดิน
กดเลือกน้ำอัดลมกระป๋องทรงกลมยี่ห้อหนึ่ง เเล้วนั่งลงที่ม้านั่งใกล้ ๆ
เปิดฝากระป๋องดื่ม
ก่อนจะเอนหัวพิงกำเเพงด้านหลัง อย่างเหนื่อยอ่อนไม่ใช่เพราะเรื่องงาน
หากเป็นความสัมพันธ์ของผมกับคนรัก
ที่คบหากันมาหลายปีเเละยังเป็นผู้ชายทั้งคู่
ไอดอลหนุ่มมาเเรงกับนักเเต่งเพลงที่เอาเเน่เอานอนไม่ได้
คนเบื้องหน้ากับคนเบื้องหลัง เเน่นอนว่าผลกระทบย่อมต่างกัน
ถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดเผย อนาคตของคนที่ผมรัก มันคุ้มกันเเล้วจริง ๆ หรือ
ท้วงทำนองเเสนเศร้าช่วงสุดท้าย ที่ค่อย ๆ บรรเลงเเผ่วเบาลงทุกที
จนสุดท้ายเหลือเพียงเสียงระฆังก้องกังวาน
ราวกับต้องการให้ผู้คนร่วมรับรู้ความทุกข์ระทมนี้ไปด้วยกัน
"ยอดเยี่ยม สมบรูณ์เเบบสุด ๆ พวกนายว่าไง ? "
ไทกะพูดอย่างมั่นใจ เเต่ก็ต้องการคำยืนยันจากพวกเราด้วย
ผลงานที่พวกเราร่วมกันปลุกปั่นนานหลายชั่วโมงสำเร็จลงได้
"เเน่ล่ะ พวกเราซะอย่าง ........จะได้กลับไปนอนเต็มตาสักที
ฉันคิดถึงเตียงที่บ้านจะเเย่"
มิอุระพูดเสริมโดยเซจิ พยักหน้าเห็นด้วยอยู่ข้าง ๆ
ผมตรวจสอบความเรียบร้อยของเมโลดี้ ก็เป็นอันเสร็จ
ก่อนจะเเยกย้ายกันกลับไปสอดตัวใต้ผ้าห่มอุ่น ๆ
บนเตียงที่บ้านเเล้วหลับรวดเดียวไปสิบชั่วโมงหรือมากกว่านั้น
พวกเราสี่คนเดินลงมาด้วยกันจนถึงหน้าตึก จึงค่อยบอกลากันเเละกัน
และเเยกย้ายกันไปคนละทาง
พอเดินพ้นตัวตึกลมหนาวก็พัดมาปะทะใบหน้า
กระผ้าพันคอเเล้วเดินฝ่าความหนาวเย็นไปยังย่านชอปปิ้งอยู่ใกล้ ๆ
วันนี้ผมไม่ได้ขับรถมาเพราะตั้งใจไว้ว่าจะเดินชมไฟประดับ
ที่จัดตบเเต่งเตรียมต้อนรับเทศกาลช่วงท้ายปี ที่กำลังมาถึงอย่างสวยงาม
to be con.......................