" ถึงเวลาเราควรแยกย้ายกันได้แล้ว "
" เต๋อว่าอะไรนะ "
" ฉันเรียนจบแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่เราต้องเป็นแฟนกันอีก "
" ที่ผ่านมาเต๋อไม่เคยรักข้าวเลยหรอ "
" จะบ้าหรอวะ จะถามหาความรักทำใม ในเมื่อเราคบกันต่างคนต่างได้ผลประโยชน์เธอช่วยฉันเรื่องเรียน ฉันยอมเป็นแฟนเธอตามที่เธอต้องการ "
" เพราะเต๋อคิดแบบนี้ใช่ไหม เต๋อถึงนอกใจข้าวมาตลอด "
" เธอรู้ด้วยหรอวะ รักฉันมากเลยสินะ ถึงยอมเงียบอยู่ได้ตั้งหลายปี เธอนี้มันสุดจริงวะ "
" เต๋อใจร้ายมากนะ "
" ฉันแค่ชัดเจนในความรู้สึกตัวเอง ต้องรักคนแบบเธอที่เห็นแก่ตัว คิดจะรั้งฉันไว้โดยการเห็นความเดือดร้อนของฉันเป็นผลประโยชน์ของตนเอง มันน่าสมเพชวะ "
ไหนๆ ได้พูดแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องรักษาน้ำใจเธออีก เขาคิดว่าไม่จำเป็น จะเลิกกันแล้ว อะไรที่ติดอยู่ในใจ ก็เคลียกันซะให้ชัดเจน
" เข้าใจแล้ว เราเลิกกันตามที่เต๋อต้องการเถอะ "
' ความรักของเธอมันไม่มีค่า ยัยโง่ '
ข้าวกรนด่าตัวเองในใจ เธอหันหลังเดินกลับเข้าห้องนอน เมื่อประตูปิดลง ร่างบางของข้าว ก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นโดยที่แผ่นหลังพิงประตูไว้
" เข้มแข็งนะข้าว อย่าร้องไห้ เธอร้องไห้มาพอแล้ว กลับบ้านเรากันเถอะ "
ข้าวบอกตัวเอง มือเล็กๆ ยันพื้นเพื่อดันตนเองให้ลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง เธอเริ่มเก็บข้าวของ ของตนเองลงกระเป๋า เธอจะกลับบ้าน กลับไปหาพ่อกับแม่ ที่เธอไม่เคยกลับไปหาเลยตลอดสามปีกว่า
" พ่อแม่ ข้าวขอโทษ "
ข้าว หอบใจที่บอบช้ำกลับบ้าน คงเพราะเจ็บและคงเพราะร้องไห้มามาก ทำให้เธอไม่มีน้ำตาจะไหลสักหยด ตั้งแต่เต๋อ เออปากบอกเลิกกัน ตลอดเวลาสามปีที่คบและอยู่ด้วยกัน เต๋อ ไม่เคยให้ความสำคัญกับเธอ นอกใจนอกกาย เธอก็หลายครั้ง เธอต้องแอบร้องไห้ เงียบๆ มาตลอด เพราะรัก เลยกลายเป็นทำให้ตัวเองดูโง่ คำพูดของเต๋อยังดังวนเวียนอยู่ภายในหู มันดังก้องสะท้อนไปถึงหัวจิตหัวใจเธอ
เธอมันออ่นต่อโลกที่คิดว่าอยู่ด้วยกันจะทำให้เต๋อมีความรู้สึกผูกพันและรักเธอขึ้นมาบ้าง คิดโง่ๆ ว่าถ้าใช้ความรัก ใช้ความดี จะมัดใจผู้ชายคนหนึ่งได้
เธอผิดจริงๆ ตามที่เต๋อว่า เอาความเดือดร้อนของเขามาใช้ประโยนช์ ก็สมควรแล้ว ที่เขาจะไม่รัก และมองว่าความรักของเธอ คือความเห็นแก่ตัว
เธอไม่ยอมกลับบ้านเพราะ พ่อกับแม่ ห้ามเธอคบกับเต๋อ ตอนนั้นเธอไม่เข้าใจว่า พ่อกับแม่เธอถึงไม่ชอบเต๋อทั้งๆ ที่เจอกับเต๋อครั้งแรก พวกท่านเตือนเธอว่าเต๋อไม่ใช่คนดีและเขาไม่ได้รักเธอ ทั้งๆ ที่พวกท่านพึ่งเคยเจอเต๋อครั้งแรก ก็ยังดูออกว่าเต๋อไม่ได้รักเธอโดนพูดจี้ใจดำและเพราะความรักมันเข้าตามันจึงทำให้เธอโกรธเคืองพวกท่านทำให้ไม่ยอมกลับบ้าน และไม่ยอมกระทั่งติดต่อใดๆ ทั้งสิ้น ใช่แล้วตลอดเวลาหลายปีที่เธอคบกัน เธอเคยพาเต๋อกลับบ้านแค่ครั้งเดี๋ยว แล้วเต๋อก็ไม่ยอมกลับไปที่บ้านเธออีกเลย
" แอ๊ะ นั่นยัยข้าวนิ ยัยข้าวใช่ไหม " ป้าเจียม ป้าข้างบ้านก่อนจะถึงบ้านเธอ เดินออกมาหน้าบ้านของแก แล้วเจอเธอพอดี ร้องถามเธอเพื่อความแน่ใจ
" ข้าวเองจ๊ะ ป้าเจียม "
" แกกลับมาได้แล้วรึ ว่าแต่จะกลับมาทำใมตอนนี้ แกมันลูก อกตัญญู ทิ้งพ่อทิ้งแม่ที่เลี้ยงแกมาจนโตได้ลง "
ข้าวทำได้เพียงก้มหน้า น้ำตาคลอ เพราะที่ ป้าเจียมพูดมาทั้งหมดมันคือเรื่องจริง
" แกกลับมาตอนนี้แล้วได้อะไร พ่อภูผา กับแม่มาลี ตายไปหมดแล้ว "
" ป้าว่าอะไรนะจ๊ะ "
" พ่อผาตายเพราะรถชนกัน ตอนแกหายไปปีแรก เพราะจะไปตามหาแก ส่วนแม่แกพึ่งตายเมื่อต้นปีก่อน เพราะเป็นลมแล้วตกน้ำ ไม่มีใครรอแกกลับมาแล้วยัยข้าว "
ข้าวเกิดอาการช๊อค น้ำตามากมายไหลรินไม่ขาดสาย กว่าเธอจะตั้งสติได้ ก็เมื่อโดนป้าเจียว ตวาดไล่ให้ไปไกลๆ จากหน้าบ้านแก
" พ่อจ๋า แม่จ๋า ข้าวกลับมาแล้ว "
ข้าววิ่งกลับบ้าน ปากก็ร้องตะโกนเรียกหาพ่อแม่ เธอวิ่งขึ้นบ้าน ที่ปิระตูไม่ได้ล๊อกกุญแจก็เห็นสภาพด้านในที่มีทั้งฝุ่นและใยแมงมุม เหมือนบ้านร้างที่ไม่มีคนอยู่อาศัยมานาน
เธอก็รู้แล้วว่า สิ่งที่ป้าเจียมพูดมาเป็นความจริง พ่อผา แม่มาลี ต่างเสียชีวิตไปหมดแล้ว
ข้าวหมดแรง ทิ้งตัวลงพื้นบ้านร้องไห้ ออกมาอย่างหนัก ทิ้งร่างลงนอนเกลือกกลิ่งบนพื้นกระดานไม่สนว่าจะทำให้ตนเองสกปรกมากเพียงใด และเธอก็ช๊อคหมดสติไป ในบ้านหลังนั้น และไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย อาทิตย์หนึ่งผ่านไป ชาวบ้านถึงได้รู้ว่า เธอนอนตายอย่างเดียวดายในบ้านของเธอเอง
... ... ... ...
เป็นนิยายเรื่องแรกที่แต่งแนวแฟนตาซี นะคะ ไม่อิงประวัติศาสตร์ ไม่อิงหลักฐานใดๆ เพื่อความบันเทิงและความชอบส่วนตัวคะ