พ่อพล เติบโตขึ้นมาเป็นหนุ่มหล่อ สง่างามแลสุขุมนัก เมื่ออายุย่างเข้า18 ก็ได้เข้าศึกษาวิชาทหาร ตามหลักสูตรปรับปรุงใหม่เพื่อให้ทันโลกาภิวัตน์สมัย
ครั้นเมื่อพ่อพลอายุขึ้น20แลได้กลายเป็นรุ่นพี่ประจำภาควิชาปีที่3 พ่อพลก็ได้พบกับรุ่นน้องคนหนึ่ง ที่สะดุดความรู้สึกเขานัก
สิงห์ เป็นรุ่นน้องที่เข้ามาใหม่ในปีนี้ หน้าตาหล่อคมคลาย ตัวสูงไล่ลดหลั่นจากพ่อพลลงมาหน่อย แต่ความล่ำสันก็ไม่กินกันนัก มองเผินๆ มีลักษณะคล้ายกันที่จมูกทรงงาม หากแต่ลักษณะนิสัยต่างกันจนสิ้น เพราะพ่อสิงห์นั้น ทั้งดูห้าวอย่างกับเด็กหัดเป็นนักเลง แลมารยาทก็ดูขี้โอ่ ดังลูกคนมีกะตังค์ถูกเลี้ยงแบบเอาแต่ใจ
หากแต่ก็แปลก ที่คนหัวรั้นอย่างสิงห์ที่ตั้งแง่แต่จะมีเรื่อง กลับยอมฟังคำพ่อพลเพียงคนเดียว
เช่นนั้นหน้าที่กำหลาบเขา จึงตกแก่พ่อพลไปโดยปริยาย
“นี่พี่ ข่าวว่าพี่เป็นหลานเจ้าพระยารึ” เจ้าสิงห์ถามชวนเจรจา ไม่ว่าจะเวลาไหม ก็มีเรื่องมาจ้อทุกทีสิน่า
“อือ” พ่อพลตอบเพียงสั้นๆ ด้วยท่าทางสุขุมดังปกติ
“โอ้โห ฉันได้รู้จักคนใหญ่คนโตหรือนี่” เจ้าสิงห์ทำหน้าชื่นชม ดังที่มันทำทุกคราที่ได้สนทนากับผู้เป็นรุ่นพี่
“ส่วนที่บ้านข้าน่ะ พ่อแม่ข้าทำร้านทองอยู่ตลาดใกล้ท่านี่เอง เอาไว้ว่างจากงานราชการ ข้าจะพาพี่ไปเที่ยวเล่น แนะนำพี่ให้แม่บัวแลพ่อเสือรู้จัก” เจ้าสิงห์เสนอ พ่อพลแค่ตอบอือ แล้วหันไปทำการงานอย่างอื่น ทำเป็นไม่ใส่ใจที่เจ้าสิงห์เล่านัก แต่ที่จริงกำลังลอบยิ้มอยู่ ด้วยความเอ็นดูเจ้าสิงห์อย่างประหลาด เอ็นดูมากกว่าผู้ใด เป็นความผูกพันที่ก่อเกิดขึ้นแม้เพียงแรกเห็น
นี่ความรักใช่ไหมหนา
พ่อพลเติบโตมาด้วยหัวสมัยใหม่ ท่ามกลางความรักเอาใจใส่ จากท่านตาท่านยาย แลท่านแม่
แลยังมีตัวอย่างความรักระหว่างชายชาย จากท่านน้าอุ่นท่านลุงแสนที่ปฏิบัติดังเป็นเรื่องธรรมดา อีกทั้งนานทีท่านลุงหมื่นทิศแลท่านน้าแก้ว ก็จะมาเยี่ยมเยียนบ้าง
พูดถึงญาติที่จันทบูรณ์แล้ว ก็ให้นึกถึงเจ้าแสบอีกคน ญาติผู้น้องที่เคยเล่นหัวกันตอนเด็ก แต่พอโตครบขวบวัยเรียน ท่านลุงหมื่นทิศก็มารับได้ดู เพราะมีศักดิ์เป็นถึงพ่อแม่อีกคน
พ่อพลที่ไม่มีพ่อ รู้เพียงว่าตายไปตั้งแต่เขายังไม่เกิด มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่านายอยู่ ทั้งประวัติก็คลุมเครือ เมื่อท่านแม่ดูไม่อยากพูดถึง เจ้าพลจึงไม่คิดจะซักไซ้ให้มากความ
คนพี่จึงได้แต่แอบคิดอิจฉาญาติผู้น้องอยู่ทุกที ที่เจ้าแสบได้มีพ่อตั้งสองคน
“แสบต้องมาอยู่นานไหมขอรับแม่แก้ว ไม่ใคร่สนิทกับพี่พลเลย ไม่เจอกันเสียนานรู้สึกดังเป็นคนอื่น” เจ้าแสบวัย17ปีถามชายร่างบางหน้าตาน่ารัก แม้อยู่ในวัยผู้ใหญ่พลางกอดอ้อน
“ลูกต้องจำให้มั่น การนี้สำคัญนักอย่าทำเป็นเล่นไป”
“แค่พี่พลจะรักชอบผู้ชาย หาใช่จะเป็นเรื่องแปลก” เจ้าแสบว่ามองพ่อหมื่นทิศทีแม่เหมือนแก้วที
แก้วมองหน้าผัวพลางถอนใจ เช่นไรก็คงต้องบอกความนี้แก่เจ้าตัวดีสิหนา เช่นนั้นคงมีแต่คำถามไม่ได้หยุดหย่อย
“ฟังพ่อ” พระยาหมื่นทิศเจ้าเมืองจันทบูรณ์โน้มตัวมาข้างหน้าบนที่นั่งของเขา ที่อยู่ตรงข้ามกับเมียแลลูก บนเรือกลไฟลำใหญ่
“เจ้าเก็บความลับได้หรือไม่” ตาคมมองลึกเข้าไปในตาของบุตรชาย เจ้าแสบถึงกับกลั้นหายใจมองพ่อตาโตพร้อมพยักหน้ารับหน้าตาจริงจัง
“ขอรับ”
“ความจริงแล้ว เจ้าพลแลเจ้าเด็กคนนั้น มีพ่อคนเดียวกัน”
“ห๊า!!! ก็ไหนที่แสบทราบ พ่อพี่พลสิ้นไปนานแล้วนี่ขอรับ” เจ้าแสบตกใจแต่ยังพูดด้วยเสียงกระซิบ
“มันเป็นเรื่องซับซ้อน เจ้ารู้แค่นั้นก็พอ” แก้วเสริมบอก
“เช่นนั้น จึงเป็นหน้าที่แสบ ที่จะเป็นก้างปลาคาคอ ให้พี่พลหักกับผู้ชายคนนั้น โดยที่ไม่ให้พี่พลรู้ความจริงใช่หรือไม่ขอรับ” เจ้าแสบเดาเรื่องได้ด้วยความเฉลียวฉลาด ท่านพ่อหมื่นแลแม่แก้วพยักหน้าตอบใช่
นิยายเรื่อง เครือรักพันใจ เป็นนิยายภาคต่อรุ่นลูก จากเรื่อง ท่านพระยาใจร้าย เพื่อทราบปมชาติกำเนิดในอดีต ไปหาอ่านภาคแรกกันได้นะคับ