"หมินเออร์เจ้าอย่ามองข้าเช่นนั้น ของหวานไม่กินแล้วหรือ"
หยางเอ้อหลางกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อเห็นสายตาของภรรยามองเขาตั้งแต่ใบหน้าจวบจนไปถึงลูกกระเดือก นางใช้มือจับตรงลูกกระเดือกของเขาเบาๆแล้วเอ่ยขึ้น
"ข้าใช้สายตาอย่างไรเล่า"
เขาหัวเราะเสียงแหบแห้งพร้อมกับเอ่ยเบาๆ "สายตาที่ราวกับต้องการกินข้าทั้งตัวหรือเจ้าเห็นข้าเป็นของหวานไปแล้ว"
"ท่านพี่คิดถูกแล้ว เจ้าหนุ่มรูปงามผู้นี้เป็นของข้าเถิดคนดี"
นางใช้วาจาดั่งคุณชายเสเพลที่กำลังต้อนหญิงสาวให้ระทวย หยางเอ้อหลางยอมแล้วเขากางแขนออกปล่อยให้นางกระทำตามใจอย่างเต็มที่
"ค่อยๆ กินไม่ต้องรีบร้อน" เสียงแหบพร่าของเขาเอ่ยขึ้น
องค์หญิงสิบสามไม่ชำนาญในการถอดอาภรณ์บุรุษ มีดสั้นที่สามีพกอยู่ข้างเอวเป็นประจำจึงถูกนางดึงออกมาก่อนจะใช้มันกรีดอาภรณ์ของเขาออกจนไม่เหลือชิ้นดี หยางเอ้อหลางมองอาภรณ์ที่ปลิวกระจุยของตนเองแล้วส่ายหน้า คราหน้าเขาต้องตัดชุดนี้ให้มากหน่อยเสียแล้ว
องค์หญิงสิบสามผู้มีความลับซ่อนอยู่เพราะตอนเด็กดันเผลอกลืนหินจันทราของวิเศษของตำหนักเทพเข้าไป จนทำให้ทุกวันพระจันทร์เต็มดวงนางต้องกลายร่างเป็นสัตว์หมุนเวียนเปลี่ยนกันอักทั้งหลังกลายร่างนางไม่สามารถบังคับตนเองได้
เรื่องนี้มีเพียงคนในตำหนักเทพสถานที่เธอเติบโตขึ้นมาเท่านั้นที่รู้ องค์หญิงสิบสามต้องใช้ชวิตอย่างยากลำบากเพื่อปกปิดความลับนี้ไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้แม้แต่เสด็จพ่อของนางเองที่อาจจะผ่าท้องของนางเพื่อนำหินจันทราออกมาก็เป็นได้
มารดาจากไปตั้งแต่ยังเด็กอีกทั้งไร้บ้านเดิมหนุนหลัง กลายเป็นองค์หญิงตกอับเพราะความซุกซนจึงถูกทำโทษด้วยการริบเบี้ยหวัดในตำหนัก กระทั่งบริวาณใกล้อดตายโชคดีที่นางมีฝีมีวาดรูปอันล้ำเลิศ จึงอาศัยฝีมือวาดรูปขายพอประทังชีวิตคนในตำหนักไม่ให้ต้องลำบาก
กระทั่งวันหนึ่งเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นเมื่อองค์หญิงสิบสามดันกลายร่างเป็นสัตว์ร้ายและถูกไล่ล่าในวังหลวงโดยท่านแม่ทัพหนุ่มผู้หนึ่ง สุดท้ายนางเผลอทำร้ายเขาเกือบตายและได้ใช้พลังช่วยเขาเอาไว้
เมื่อฟื้นขึ้นมาในตอนเช้านางกลับอยู่ในอ้อมกอดของแม่ทัพหนุ่ม ท่ามกลางพยานหลายคนที่มาพบเข้าโดยบังเอิญ ความทราบถึงฝ่าบาทนางจึงได้รับสมรสพระราชทานโดยไม่ตั้งตัว
ด้วยความที่นางมีความลับที่ซุกซ่อน อีกทั้งบุรุษผู้นั้นยังเป็นคนที่พี่สาวของนางรัก องค์หญิงสิบสามไม่อาจเข้าพิธีสมรสได้ นางจึงต้องทำทุกวิธีเพื่อให้หยางเอ้อหลางยกเลิกสมรสพระราชทานในครั้งนี้
หยางเอ้อหลาง ท่านแม่ทัพใหญ่
เขาผู้เติบโตขึ้นมาในสนามรบ และเป็นบุรุษเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตรอดของสกุล กระทั่งบ้านเมืองสงบสุขจึงได้กลับจากชายแดน ฝ่าบาททรงโปรดพระราชทานงานสมรสให้เขาและองค์ใหญ่หลินฉีผู้งดงามเพียบพร้อม แต่แล้วในวันที่ได้รับสมรสพระราชทาน กลับเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันในขณะที่เขากำลังตามล่าสัตว์ร้ายที่เข้ามาในวังหลวงทำให้เขาเกือบถึงแก่ความตาย กระทั่งตื่นขึ้นมาก็พบร่างของนางผู้หนึ่งเปล่าเปลือยในอ้อมกอดเสียแล้ว และนางผู้นั้นคือองค์หญิงสิบสามสตรีที่ไม่อาจล่วงเกิน
เมื่อเรื่องล่วงรู้ถึงฝ่าบาททรงมีราชโองการประทานองค์หญิงสิบสามผู้นั้นให้เขาด้วย ถึงจะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเหตุการที่เกิดขึ้น เขาก็ไม่อาจปฏิเสธองค์หญิงทั้งสองได้ เดิมทีก็ไม่มีอะไรแค่รับผิดชอบสตรีอีกคนในฐานะฮูหยินรอง แต่เรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อองค์หญิงสิบสามผู้นั้นบุกเข้าค่ายทหาร ยืนกรานไม่ยอมแต่งงานกับเขาโดยเด็ดขาด
"องค์หญิงรู้หรือไม่ว่าการฝ่าฝืนราชโองการมีโทษตายสถานเดียว กระหม่อมยังอยากมีชึวิตอยู่ เห็นทีเรื่องนี้ต้องลำบากองค์หญิงแล้ว"
"หยางเอ้อหลาง เจ้าคนมักมากคิดแต่งองค์หญิงพร้อมกันที่แท้เป็นแผนชั่วเพื่ออำนาจของเจ้าใช่หรือไม่"
นางชี้หน้าพร้อมก่นด่าเขาออกมา