เหลี่ยมร้ายกามเทพ
9
ตอน
1.54K
เข้าชม
4
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
12
เพิ่มลงคลัง

เหลี่ยมร้ายกามเทพ 

โดย...กันตินันท์ 

 

“คุณเอมยังไม่กลับมาเลยค่ะ”  

 ป้านุชชิงบอกขึ้นก่อนเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้าบ้านมาในเวลาทุ่มเศษๆ เพราะรู้ดีว่าเขาจะต้องถามคำถามแรกว่าอย่างอะไร 

           อนิรุทธ์ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาในห้องรับแขกที่จัดแต่งไว้ด้วยสีเรียบขรึมคล้ายบุคลิกของเขาด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจ ลำพังเหนื่อยกายต่อให้มันหนักมากกว่านี้กี่เท่าเขาก็ทนได้ แต่สำหรับความเหนื่อยใจนี้พอมันเริ่มหนักเข้าเขาก็รู้สึกท้อ เอมอรไม่เคยเชื่อฟังเขาเลย ต้องเป็นเพราะไอ้เด็กหนุ่มหน้าหวานคนนั้นแน่ๆที่มันคอยเป่าหูอยู่ ไม่อย่างนั้นน้องสาวคงไม่ดื้อกับเขาถึงเพียงนี้แน่ๆ 

           “ผมควรจะทำอย่างไรดีครับป้านุช”  

ชายหนุ่มถามเมื่อไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใครดีเขาไม่สนิทกับพ่อ ลุงกับป้าที่เลี้ยงดูเขามาก็เสียไปหมดแล้ว ตอนนี้เขารู้สึกว่ามีป้านุชคนเดียวที่เป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ เพราะแกอยู่กับเขามาตั้งแต่เขายังเด็ก แกรู้ถึงความเป็นไปในชีวิตของเขาดี 

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐ 

            ร่างสูงโปร่งแต่กำยำของอนิรุทธ์เดินเข้าไปข้างในซึ่งถูกกั้นไว้ด้วยประตูไม้บานพับฉลุลายสวยคลาสสิค ข้างในมีส่วนที่สำหรับนั่งเล่นมีวัยรุ่นทั้งชายหญิงนั่งอยู่ราวสามสี่คน อีกส่วนหนึ่งถูกแบ่งเป็นครัว 

           “ใครเป็นเจ้าของที่นี่”  

เขาถามเสียงก้อง วัยรุ่นในที่นั้นต่างหันมามองเขาเป็นตาเดียว 

           “มีธุระอะไรครับพี่”  

หนึ่งในนั้นถาม 

           “ฉันถามว่าใครเป็นเจ้าของที่นี่”  

เสียงของชายหนุ่มเข้มขึ้นไปอีก ทำให้พวกวัยรุ่นทั้งหมดที่ได้ฟังลุกขึ้นทันทีอย่างไม่พอใจ แต่ก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้นต่อจากนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางในครัว 

           “ใครมีปัญหาอะไรไม่ทราบ” 

           อนิรุทธ์หันขวับไปทันที จากเสียงใสใสที่ได้ยินตอนแรกเขาคิดว่าน่าจะเป็นผู้หญิง แต่ที่เขาหันไปเห็นก็คือเด็กหนุ่มตัวผอม สูงราวหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซ็นฯ สวมเสื้อและกางเกงสีเข้มมีผ้ากันเปื้อนสีขาวคาดอยู่ที่เอวทรงผมซอยหรอมแหรมยาวปรกต้นคอใบหน้าหวาน แต่ท่าทางยียวน แววตาถือดี 

           “ฉันต้องการพบเจ้าของร้านนี้ที่ชื่อพัด”  

อนิรุทธ์ตอบด้วยน้ำเสียงดุจเดิม ชายหนุ่มเคยได้ยินเอมอรเรียกรุ่นพี่คนนั้นว่าพี่พัด พี่พัด แต่เขาไม่เคยรู้เลยว่าหมอนั้นชื่อจริงๆว่าอย่างไร 

           “ฉันนี่แหละชื่อพัช เป็นเจ้าของที่นี่ มีอะไรว่ามา”  

เด็กหนุ่มคนนั้นเชิดหน้าใส่เขาอย่างนักเลงเต็มตัว พลางเดินอาดๆเข้ามาหา 

           “แกเอาน้องสาวของฉันไปไว้ไหน”  

อนิรุทธ์ถามขณะยืนเผชิญหน้ากันในระยะห่างราวสองเมตร 

           “พี่รุท เมื่อไหร่พี่จะเลิกยุ่งกับชีวิตของเอมเสียที”  

เอมอรที่ก่อนนี้คงจะอยู่ในครัวเมื่อได้ยินเสียงของพี่ชายจึงเดินออกมากล่าวอย่างไม่พอใจ 

           “เราพูดกับพี่อย่างนั้นได้ยังไงยัยเอม เราเป็นน้องสาวของพี่น่ะ”  

อนิรุทธ์ดุน้องสาวเสียงเข้ม 

           “แต่เอมเบื่อ ความจริงเราก็ไม่ใช่พี่น้องแม่เดียวกันสักหน่อย พี่รุทไม่จำเป็นต้องมาวุ่นวายกับชีวิตของเอมขนาดนี้ก็ได้”  

เด็กสาวเถียงกับพี่ชายด้วยท่าทางอวดดี 

           “ไม่ต้องยุ่งวุ่นวายแล้วก็ปล่อยให้เรามาขลุกอยู่กับเพื่อนพวกนี้นะเหรอ”   

อนิรุทธ์ตวัดสายตาไม่พอใจไปทางพวกวัยรุ่นทั้งหมดที่ยืนมุงดูอยู่ 

           “เป็นไง เพื่อนอย่างพวกฉันมันเป็นไง พูดให้ดีนะเว้ย”  

คนที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของร้านโวยวายออกมา 

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐ 

กลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำอบไทยผสานกับกลิ่นกายสาวลอยเข้ามารบกวนคนที่นอนอยู่ก่อนแล้วแต่ยังไม่ได้หลับนั้นจนได้ อนิรุทธ์สร่างจากอาการไข้จนเกือบเป็นปกติแล้ว แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสูตรยาต้มให้ลุกออกไปไหนๆได้ จนกว่าจะถึงพรุ่งนี้ 

           “ขยับเข้ามาอีกหน่อยก็ได้ นอนชิดริมอย่างนั้นเดียวก็ตกลงไปพอดี”  

ชายหนุ่มกล่าวขึ้นเมื่อแสงเรืองๆจากตะเกียงที่ยังไม่ถูกดับส่องให้เขาเห็นหญิงสาวนอนขดอยู่ริมแคร่สุดๆอย่างที่น่ากลัวว่าจะตกลงไปจริงๆ แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับจากหญิงสาว เธอไม่ยอมพูดกับเขามาตั้งแต่ตอนเถียงกันเมื่อช่วงเช้าแล้ว และเขาก็รู้สึกไม่ชอบความนิ่งเงียบแบบนี้เอาเสียเลย เขาจึงเอื้อมมือไปรั้งร่างของเธอเข้ามากอดไว้ทำให้คนแสนงอนไม่อาจจะทนเงียบอยู่ต่อไปได้อีก 

           “เอ๊ะ นี่คุณจะมากอดฉันไว้ทำไม”  

เธอเอ็ดเขา แต่ไม่กล้าใช้เสียงที่ดังนัก กลัวว่าลุงกับป้าจะตกใจ สองมือบางยันอกเขาไว้ไม่ให้ถูกรั้งเข้าไปชิดอกกว้างได้ง่ายๆ 

           “ก็อยากกอด”  

เขาตอบหน้าเป็น 

           “อย่ามาทำอย่างนี้กับฉันน่ะ”  

หญิงสาวขู่ฟ่อ ทั้งพยายามเอียงแก้มหลบลมหายใจอุ่นๆของเขาเป่ารดอยู่ 

           “ก็ทีเมื่อคืนยังยอมให้กอด แล้วทำไมคืนนี้ถึงจะกอดไม่ได้”  

ตาคมที่มีแววเจ้าชู้กรุ่มกริ่มผิดแผกไปจากในยามปกติจ้องมองลึกลงไปในดวงตาคู่สวยที่มีแววตื่นตระหนกระคนเขินอายของคนในอ้อมแขน 

           “นี่ เมื่อคืนคุณรู้ตัวด้วยเหรอ”  

พัชญารีบถาม รู้สึกว่าผิวแก้มจะร้อนผ่าวไปหมดด้วยความอายและเมื่อเขาพยักหน้าตอบอย่างยืนยัน กำปั้นเล็กๆของเธอก็รัวใส่เขาอย่างไม่นับทันที 

           “โอ๊ยๆ นี่ทำร้ายผมทำไม”  

ชายหนุ่มร้องเอะอะ พยายามจะรวบมือของเธอเอาไว้ให้ได้ ก่อนที่ตัวเองจะบอบช้ำไปมากกว่านี้ 

           “คนฉวยโอกาส นิสัยไม่ดี ไม่เป็นสุภาพบุรุษ เลวที่สุดเลย”  

เธอด่าเขาเป็นชุด ชายหนุ่มใช้ความพยายามขึ้นอีกนิดเดียวก็สามารถรวบมือของเธอเอาไว้ได้ทั้งสองข้างด้วยมือเพียงข้างเดียวของเขา ส่วนอีกข้างหนึ่งนั้นเขายังใช้มันกอดเอวบางเอาไว้แน่น 

           “ไม่น่าเชื่อว่าท่าทางทอมบอยอย่างนี้จะด่าเก่งยิ่งกว่าผู้หญิง”    

------------------ 

มีอีบุ๊ควางขายแล้วนะคะ ติดตามรายละเอียดได้ที่ 

เพจ กานติณัฎฐ,กันตินันท์ หรือเฟสบุค กันตินันท์,กานติณัฎฐ นะคะ 

งานเขียนเรื่องนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติกฎหมายลิขสิทธิ์ทุกประการ ห้ามมิให้ผู้ใดทำการคัดลอกหรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของงานเขียนเล่มนี้เพื่อนำออกเผยแพร่ไม่ว่างช่องทางใดก็ตามโดยไม่ได้รับอนุญาต มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และถูกดำเนินคดีการตามกฎหมาย 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว