“ชาตินี้ มีวาสนาได้พบ แต่ไม่มีวาสนาได้เคียงคู่ ดูท่าเราสองคนคงติดหนี้สวรรค์เสียแล้ว ชาตินี้จึงต้องชดใช้ด้วยการจากลา แต่ชาติหน้าหรือไม่ว่าจะชาติไหนๆ ต่อให้เราอยู่ไกลแสนไกลพี่ก็จักตามไปเคียงคู่กับเจ้า หรือหากพี่มิอาจตามไปได้พี่ก็จักทำให้เจ้าตามมาเคียงคู่กับพี่”
เพราะคำมั่นสัญญาแต่กาลก่อน นำพาให้คนที่อยู่คนละฟากฟ้า คนละห้วงเวลา ข้ามมาพาลพบ เพียงครั้งแรกที่ได้สบตาใจดวงน้อยก็สั่นไหว ผูกผันคล้ายรู้จักมานานนับปี เพราะเหตุใดกัน....เพราะตกหลุมรักแรกเห็นหรือเป็นใจที่ผูกผันมาแต่ชาติปางไหน
.
.
"คุณแม่อย่างยังไงนะเจ้าคะ ลูกต้องแต่งงาน"
"อืม! เจ้าฟังมิผิดดอก"
'ใครหรือเจ้าคะ'
"พ่อฤทธิ์"
"
"
แต่ข้า...ไม่รู้จักไม่เคยเห็นหน้าเขาเลยนะ
"คุณฤทธิ์นั้นดำรงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ของทัพหลวง แม่ทัพผู้เก่งกาจเป็นที่เกรงขามของศัตรู เด็ดขาด ไร้ความปราณี"
ฉลั้วะ!
ศีรษะกลิ้งกระเด็นไปตามพื้น เลือดสาดกระเซ็นออกจากลำคอที่ไร้หัว ภาพนั้นสร้างความผวาแก่เหล่าโจรจนขวัญเสีย เพียงแม่ทัพใหญ่ส่งสายตาเหล่าทหารก็เข้าจัดการฝ่ายศัตรูไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียว
โหดร้าย ป่าเถื่อน
.
.
"เก่งการรบ การเมืองการปกครองก็ไม่ด้อยกว่าผู้ใด ที่สำคัญ หน้าตาหล่อเหล่า รูปร่างองอาจ แม่หญิงทั่วพระนครต่างหมายตาหมายใจเจ้าคุณพี่ฤทธิ์ของคุณหนูทั้งนั้นเจ้าค่ะ"
"จะหล่อขนาดไหนเชียว"
"ก็ขนาดที่....."
"ที่...."
"องค์หญิงในวังยังหวั่นไหวอย่างไรเล่าเจ้าค่ะ"
.
.
.
“ท่านแม่ทัพนั้น....ร้อนแรงยิ่งนัก ขั้นที่ว่าหญิงนางโคมเขียวที่เคยอุ่นเตียงให้ท่านแม่ทัพถึงกับเพ้อละเมอหาไม่หยุด”
"แล้ว......"
"แล้วเสียงร้องน่าอายของแม่หญิงคนนั้นก็ดังไม่หยุด พร้อมเสียงคำรามสุขสมของท่านแม่ทัพ"
"เย็นชา ไร้หัวใจ ทั้งเก่งอาจ องอาจ ร้อนแรง นี่คือบุรุษในฝันของแม่หญิงทุกคนเลยนะเจ้าคะ คุณหนูของบ่าวโชคดีจนใครต้องอิจฉา"
"เหอะ! โชคร้ายสิไม่ว่า ไม่ใช่ว่าขัดใจแล้วตวัดดาบปาดคอฉันนะ อึ่ย! แค่คิดยังขนลุก"
.
.
..................คำว่ารักที่เอ่ยออกไป ฉันให้เธอเพียงเท่านั้น รักที่มีจะคงไว้ชั่วกาล
ตลอดไปจนนิรันดร์ ขอให้เธอเชื่อในความรัก ไม่ต้องกลัวจะเปลี่ยนไป
รักของเราอยู่ในลมหายใจ ไม่มีใครจะมาพรากมันไปได้เลย แม้ว่ามันจะนานเท่าใด
หัวใจฉันจะมีแต่เธอสัญญา ใจดวงนี้ไม่ยอมให้ใครเข้ามา ปรารถนาเธอเพียงผู้เดียว..........................
ปล. เพลงสัญญากาสะลอง