สี่ทิศ อัครวินทร์ (สี่)
พิมพ์มาดา พรรณพิพัฒน์ (พลู)
สำหรับเธอ... รักที่มีต่อเขามันยิ่งใหญ่กว่าชีวิต
สำหรับเขา... รักที่ยิ่งใหญ่กว่าชีวิตดันมอบให้กับหญิงสาวที่มีเจ้าของแล้ว
“มึงคิดว่ากูเอาน้องจูนฟรีเหรอวะ กูจ่ายเงินนะเว้ย กูไม่ได้หลอกมาฟัน น้องมันเองก็เต็มใจ”
“กูเสียเงินไปไม่ใช่น้อยๆ น้องมันอยากได้อะไรก็ซื้อให้ อยากได้กระเป๋าใบละแสนกูก็ซื้อให้ โทรศัพท์เครื่องละห้าหมื่นกูก็ซื้อให้ ค่ากินค่าอยู่กูก็ให้ ไม่ใช่น้อยๆนะเว้ยเดือนละสองหมื่น มึงคิดว่าเจ้าของบ่อน้ำมันจะให้ได้เท่ากูเหรอ”
“กูไม่ชอบเด็กมาตั้งแต่แรกแล้ว กูคนชอบคนอายุเท่ากันไม่ก็แก่กว่า ที่ผ่านมาก็ชัดเจนแล้วว่าอยู่ในสถานะอะไร จะมาเรียกร้องมากกว่านั้นกูก็ไม่มีให้เหมือนกัน”
“กูให้ได้ทุกอย่างนั่นแหละ ยกเว้นแต่เรื่องนั้น”
“มึงก็รู้ว่าใจกูมีไว้ให้พี่สาวมึงคนเดียว ความรักของกูก็เหมือนกัน”
“ถ้าไม่ใช่พี่สาวมึง กูก็ไม่มีวันรักใคร”
“พี่ทำบ้าอะไรเนี่ย” ต่อให้เป็นเด็กหัวสมัยใหม่แต่เธอก็เชื่อเรื่องทำบุตรร่วมชาติตักบาตรร่วมขัน ว่าหากทำบุญด้วยกันชาติหน้าจะได้กลับมาเจอกันอีก
“พี่ขี้เกียจไปต่อแถวคนมันเยอะ ขอตักพร้อมเธอด้วยแล้วกัน” เขาพูดพลางมองหางแถวที่มีคนยืนอยู่หลังเขาเพียงแค่สองคนเท่านั้น
“คนเยอะตรงไหน มีแค่สองสามคน”
“ไหนๆก็ตักด้วยกันแล้ว ก็ตักไปให้ครบนั่นแหละ” เขาบอกแล้วจึงดันตัวเธอให้เดินไปด้านหน้าเพราะคนด้านหลังก็รอใส่บาตรเหมือนกัน มือก็ยังไม่ยอมปล่อยจากมือเล็กง่ายๆ
“จะเรียนจบแล้วนี่ ทำไมไม่เห็นมาทำงานกับพี่เหมือนที่บอกไว้” เขาหาเรื่องชวนเธอคุย
“ได้งานทำแล้ว”
“ทำงานที่ไหน คู่แข่งพี่หรือเปล่า”
คนตัวเล็กไม่ได้ตอบคำถามเขาเพราะตอนที่เขาพูดจบข้าวทัพพีสุดท้ายก็ลงบาตรใบที่เจ็ดใบสุดท้ายพอดี เธอยื้อมือของตนเองกลับจนเขาต้องยอมปล่อย
“ขอบใจนะที่ให้พี่ตักบาตรด้วย” เขาเอื้อมมือไปลูบหัวเธอและขยี้เบาๆ ทำเหมือนที่เคยทำราวกับลืมไปว่าเขาและเธอไม่ได้ข้องเกี่ยวกันอีกแล้ว
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงการสมมติขึ้นมา ชื่อบุคคล เนื้อเรื่อง สถานที่ที่กล่าวถึงเป็นการสมมติเพื่อความสมจริงนะคะ หากเนื้อเรื่องหรือชื่อตัวละครไปซ้ำกับนักเขียนท่านใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ