มาถึงคิวของหนูเกรท กับ ท่านประธานขี้ลืมกันแล้วนะคะ นิยายเรื่องนี้ไรท์จะทำการปรับปรุงเนื้อหา แต่ยังคงไว้ซึ่งเค้าโครงเดิม ฝากติดตามด้วยนะคะ
พอลงเรื่องนี้จบ ไรท์ขอคิดดูก่อนว่าจะลงนิยายใหม่หรือว่า จะตัวนายบรัช มาลงให้อ่านก่อนดี อิอิ ติดตามกันต่อไปนะคะ
แกลลี่ โกลบอล์ อายุ 35 ปี
หนุ่มนักบริหารเจ้าของธุรกิจนำเข้าและส่งออกรถยนต์ขนาดใหญ่ทั้งผลิตและตัวแทนจำหน่ายความทรงจำที่ขาดหายในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นั้น เหมือนได้พรากบางสิ่งไปจากเขา มันคืออะไรแต่เมื่อเจอเธอสาวน้อยแสนธรรมดา เขากลับหลงใหลแม้กระทั่งพยายามเอาตัวเองเข้าไปใกล้วนเวียนอยู่ข้างกายเธออย่างมิอาจห้ามใจตัวเองไว้ได้
เกรท เกริกา วอค์ท อายุ 23 ปี
สาวน้อยลูกครึ่งผู้อาภัพกำพร้าบุพการีตั้งแต่วัยรุ่น ต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังในเมืองที่กว้างใหญ่คนเดียวเสมอมา เมื่อเจอชายหนุ่มที่คอยปกป้องและห่วงใยให้ความรัก แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ... มันคือรักแรกพบ... แต่ความสุขมักจะอยู่กับคนเราไม่นานนัก กับเธอก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน มันโบยบินจากไป พร้อมชายคนรักที่ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตัวตนที่แท้จริงของเขาคือใคร
บทนำ
ดวงตากลมโตขยับเขยื้อนขึ้นช้า ๆ หญิงสาวเงยหน้ามองคนตัวโตที่นอนกอดเธออยู่อย่างกระอักกระอ่วน จึงขยับตัวเพื่อจะปลุกเขา แต่แกลลี่ที่นอนข้าง ๆ กลับลืมตาขึ้นมาก่อน
“ตื่นแล้วเหรอยาหยี”
ร่างสูงส่งยิ้มทักทาย พลางก้มศีรษะจนหน้าผากแตะหน้าผากนูนของเกรทเพื่อวัดไข้ ด้านหญิงสาวตกใจขยับจะถอยหนี
“ไม่มีไข้แล้ว ลุกไหวไหม”แกลลี่ขยับนั่งพลางพยุงร่างเล็กขึ้นนั่งพิงอกกว้าง
“ขอบคุณนะคะคุณแกลลี่ แต่ไม่น่าลำบากมานอนเฝ้าฉันเลย”
“ไม่ลำบากเลย อีกอย่างเมียกับลูกไม่สบายก็ต้องมาดูแลอย่างใกล้ชิดสิถึงจะถูก”เสียงทุ้มเอ่ย เกรทตาโตหันมามองหน้าเขาอย่างตกใจ
“คุณพูดอะไร ไหนเมีย ไหนลูก”เกรทรีบพูดกลบเกลื่อนก่อนหันหน้าหนีหลบตาเขา แกลลี่ยิ้ม
“นี่เมีย และนี่ก็ลูก คิดจะปิดกันไปนานแค่ไหน”มือหนาชี้ไปที่เกรทและหน้าท้องเล็ก ๆ ของเธอที่ตอนนี้มันนูนเด่นชัดขึ้นมากทีเดียว
และคู่รอง จะมาในช่วงท้าย
จาค็อป มองส์บลัวเซ่ อายุ 35 ปี
เพื่อนสนิทของแกลลี่ หนุ่มหล่อพ่อหม้ายเรือพ่วง เจ้าเสน่ห์ ครองความโดดเดี่ยวมาหลายปี พอเจอคนถูกใจจึงรีบคว้าไว้ในกรงรักทันที
ลิลลี่ บลองซลัว อายุ 23 ปี
ค่ำคืนของการเปลี่ยนแปลงชีวิตในวัยสาวของเธอ เมื่อต้องมารักษาอาการบาดเจ็บของสุนัขตัวโปรดในบ้านของผู้ทรงอิทธิพลของเมืองนี้ เพียงชั่วข้ามคืนชีวิต แสนธรรมดาของเธอต้องพลิกผันเพราะความซื่อ(บื้อ)ของตัวเองเป็นเหตุแท้ ๆ เชียว
จัสติน มองส์บลัวเซ่ อายุ7ขวบ
ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของหม้ายหนุ่ม จาค็อป ฉลาด ขี้อ้อนรู้จักพูดเป็นผู้ใหญ่เกินไว
......................................
บทนำ
“ซื่อบื้อจริง สู้ไม่ได้ก็ไม่ยอมหนีจะบ้าหรือไง”
จาค็อบได้แต่ส่งเสียงในลำคออย่างโมโห ผู้คนเริ่มแตกตื่นเมื่ออยู่ ๆ เจ้าของงานก็บังคับม้าออกมานอกสนามอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“เป็นยังไงบ้างลิลลี่”
มือหนาจับไหล่ทั้งสองข้างให้คนตัวเล็กหันหน้ามา ปรากฎว่าหน้าผากเล็กแตกเป็นรอยยาวจนเกือบถึงขมับแถมเลือดยังไหลไม่หยุด เขาขบกรามแน่น พร้อมทั่งยังบีบไหล่เธออย่างแรงด้วยความลืมตัวเพราะโมโหไมลี่อย่างมาก
“โอ้ยคุณ ฉันเจ็บ”เสียงหวานประท้วงพร้อมกับพยายาบสะบัดไหล่เล็กออกจากอุ้งมือเขา
“ผมขอโทษ ไปทำแผลกัน”น้ำเสียงร้อนรนพร้อมกับพยุงร่างเล็กให้ลุกขึ้น
“ฉันไม่เป็นไร ไปดูเลดี้ก่อนดีกว่าไม่รู้ว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า”
ลิลลี่เป็นคนรักสัตว์จึงห่วงเลดี้จนลืมความเจ็บของตัวเอง อีกอย่างตอนนี้เธอแค่รู้สึกชาบริเวณหน้าผากจึงไม่ทราบว่าตัวเองหัวแตก
“ห่วงตัวเองก่อนเถอะ ดูสิเลือดไหลไม่หยุดแล้วเอาผ้ากดไว้ก่อน”
จาค็อบกรอกตาไปมา เมื่อได้ฟังที่เธอพูดจบ
..ตัวเองเลือดไหลจนหมดตัวก็คงไม่เป็นอะไรสินะ ยายขี้ใจอ่อนเอ้ย.. เขาต่อว่าเธอในใจพร้อมกับล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดออกมากดปากแผลแต่คนตัวเล็กเบี่ยงหน้าหนีเพราะกลัวผ้าเขาเบื้อน แต่เมื่อเห็นสายตาดุ เลยจำยอมให้เขากดผ้าสะอาดลงมา
“แต่ผ้าเช็ดหน้าคุณจะเปื้อนเอานะ”คนตัวเล็กพึมพำบอกเขา
“ยังอีก ช่างหัวผ้าเช็ดหน้าสิ”
รีดจ๋าไรท์มีแฟนเพจแล้วนะ ขอให้สำราญกับการอ่านนะเจ้าคะ