หมายเหตุ ขอเตือนว่านิยายเรื่องนี้โคตร!!! เเฟนตาซี
นิยายเรื่องนี้ได้รับเเรงบันดาลใจจากตำนานของกรีก เรื่องราวให้ตอนนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นมาที่มาที่ไปของเรื่องที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ อาจจะยาวมากไปเสียหน่อยเเต่รับรองว่าอ่านตอนหลังๆจะไม่มีนั่งงงอย่างเเน่นอนคะ อาจมีชื่อ , สถานที่ ,สิ่งของที่เกี่ยวของกับตำนานกรีกโบราณ คำที่ถูกขีดเส้นใต้ไว้จะมีความหมายเเปลให้สำหรับท่านที่ไม่รู้ ความหมายของคำนั้นๆ ท้ายบทความ ถ้ารำคาญเพลงปิดได้ด้านบนนะ
ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ!!
--------------------------------------------------------------------------------------
chapter 0
Begin of Darkness
ณ ดินเเดนอเวจีอันมืดมิดที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานของวิญญาณบาปนับล้านๆดวง เปลวไฟสีเเดงฉานเเละลาวาร้อนไหลรวมเป็นทางยาวราวกับเเม่น้ำสายใหญ่ ดวงวิญณาณที่ทุกข์ทรมานตะเกียกตะกายทับถมกัน เสียงกรีดร้องที่ดังโหยหวนในทุกหนทุกเเห่ง ไม่ว่าจะกี่ร้อยปีภาพเหล่านี้ก็ยังไม่เคยชินตาสักที
.
.
"ว่าไงละ!? วิวสวยเหมาะเเก่การพักผ่อนว่าไหม?"ผมที่ขณะนี้กำลังมองลงมาเบื่องล่างจากสะพานใหญ่ที่ข้ามเเม่น้ำลาวา เสียงของพี่สาวตัวดีของผมก็ดังขึ้นจากอีกฝั่งหนึ่งของสะพาน
"ไม่ตลกสักนิด อมาเรนทา" ผมตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์กับคำถามเชิงหยอกล้อขอเธอมากนัก
"หือๆๆ เจ้านี้นะ~ ยังวางท่าไม่เคยเปลี่ยนจริงๆ"
"เราไม่มีเวลามาคุยเล่นกันอยู่หรอกนะ ท่านพ่ออยู่ไหน?"ผมตัดบทก่อนที่จะเสียเวลาไปมากกว่านี้
"อยู่ในท้องพระโรง คนที่เหลือก็มากันครบเเล้ว เหลือเจ้ากับ. . "สีหน้าของอมาเรนทาดูเคร่งเครียดทันทีขณะตอบคำถามของผม ซึ่งต่างจากไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้ลิบลับ
"รู้หรือปล่าวว่าท่านพ่อเรียกเรามารวมกันทำไม?"ผมถามด้วยความสงสัย ก็เเน่อยู่เเล้วร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นสนใจลูกเลยนิหน่า
"ข้าก็ไม่รู้ ข้าก็สงสัยเช่นเดียวกับเจ้านั้นละ"อมาเรนทาตอบด้วยสีหน้าครุ่นคิด เเต่ถ้าดูจากที่ท่านพ่อเรียกพวกเรามารวมกันด่วนขนาดนี้ คงไม่ใช่เรื่องของหมอนั้น. . หรอกนะ
"หวังว่าเซอเบียสคงไม่ได้ก่อเรื่องอีกนะ"อมาเรนทาเอ่ยขึ้นราวกับอ่านใจผมได้
". . .หวังว่างั้น"
"เอาเถอะๆ นี้ก็จวนจะได้เวลาเเล้ว ไปกันเถอะน้องข้า"อมาเรนทาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเริงร่ากับใบหน้าเปื้อนยิ้มที่เปลี่ยนเป็นคนละคนกับเมื่อครู่ ก่อนจะเดินนำหน้าไป ผมละตามผู้หญิงคนนี้ไม่ทันจริงๆ
ผมเดินตามอมาเรนทาเข้ามายังตัวปราสาทหลังใหญ่สีดำที่ตกเเต่งด้วยรูปปั้นปีศาจที่ดูน่าขนลุก ภายในทางที่ทอดยาวในตัวปราสาทซ้ายขวาถูกประดับด้วยตะเกียงสีดำที่มีเปลวไฟลุกโฉนอยู่ตลอดเวลาไม่เคยดับเเละกระโหลกมนุษย์มากมายอยู่ตามกำเเพง
.
ที่นี้ไม่เปลี่ยนไปจากตอนที่เรามาครั้งเเรกเลยสักนิด
.
เมื่อเดินมาจนสุดทางก็พบกับประตูเหล็กกล้าขนาดมหึมา อมาเรนทาหยุดเดินก่อนจะร่ายมนต์คาถาเป็นภาษาเก่าเเก่ที่ผมไม่สามารถเข้าใจได้ ก่อนที่ประตูเหล็กจะเลื่อนเปิดออกอย่างช้าๆ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเเปลกอะไรสำหรับที่นี้ ภายในเป็นท้องพระโรงโอ่อ่าสถาปัตยกรรมเเบบกรีกโบราณ ผมเดินเข้ามาโดยที่อมาเรนทานำหน้าผมไปก่อน ก่อนที่พวกเราจะอยู่ยืนอยู่ตรงกลางของท้องพระโรงตรงจุดที่ ดราเคน พี่น้องอีกคนของเรายืนรออยู่ซึ่งเขาก็คงถูกเรียกตัวมาเช่นเดียวกับผมเเละอมาเรนทา
เบื่องหน้าของผมปรากฏร่างของชายร่างสูงดวงตาสีเเดงเพลิงที่กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์สูงพร้อมกับจับจ้องมาที่พวกเราด้วยสีหน้าเรียบเฉย นั้นคือ ฮาเดส เทพเจ้าผู้ปกครองอเวจี หรืออีกนัยหนึ่ง คือพ่อของผมเอง ทางด้านขวาปรากฏร่างของหญิงผู้งดงามในชุดราตรียาวสีเเดงยืนอยู่เคียงข้างบัลลังก์ที่ฮาเดสนั่งอยู่ เธอคือ "เพอร์เซโฟนี" เทพีเเห่งฤดูใบไม้ผลิหรือราชินีเเห่งอเวจี
.
"เซอเบียสไม่มางั้นหรือ?"เทพีเพอร์เซโฟนีเอ่ยถามด้วยสีน่าวิตกอย่างเห็นได้ชัด
"ข้ายังไม่พบเขาเลยท่านเเม่"อมาเรนทาคำนับลงก่อนจะตอบ
"หึ! หมอนั้นไม่มาหรอก!ก็รู้ๆกันอยู่"ดราเคนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงยียวน
"หุบปากซะดราเคน!!"อมาเรนทาตะหวาดดราเคนผู้เป็นน้อง
"อะไร!? หรือไม่จริง? "
"นี้เจ้--"
"เงียบ!!!!"
ขณะที่สองพี่น้องกำลังปะทะคารมกันอยู่นั้นเสียงทุ่มต่ำของฮาเดสก็ดังก้องขึ้นเปรียบเสมือนระฆังหมดยกที่ทำให้ทั้งคู่ต้องหยุดสงบอารมณ์
.
.
"ที่ข้าเรียกพวกเจ้าทุกคนมาในวันนี้ เพราะมีงานที่จะมอบหมายให้พวกเจ้าทุกคน"หลังจากที่ทุกคนต่างสงบเงียบ ฮาเดสก็เอ่ยขึ้น
"งานอะไรที่ท่านถึงกับต้องให้พวกเรามารวมกั-"
"ก็ต้องเป็นงานสำคัญมากอยู่เเล้วละ"อมาเรนทาเอ่ยขึ้นมาตัดบทของดราเคนทำให้เขาดูไม่พอใจอย่างมาก
"งานที่ท่านว่ามาคืองานอะไร?"ผมเอ่ยถามผู้เป็นพ่อ
"ที่ผ่านมาพวกเจ้าคงรู้ว่าเซอเบียสก่อเรื่องมากมายที่ทำให้ที่นี้รวมถึงโอลิมปัสต้องเดือนร้อน เเต่ข้าก็ทำเป็นปิดหูปิดตามาตลอด ถึงซุสจะส่งให้ข้าลงโทษเขาอย่างเด็ดขาด เเต่ข้าก็ไม่ได้ทำเพราะเห็นเเก่เพอร์เซโพนี"
"เฮ้ย~ ก็อีกเเบบนี้ทั้งปี โอ๊ย!!"ดราเคนบ่นลอยๆก่อนที่อมาเรนทาจะตีเข้าที่เเขนของเขาอย่างเเรง
"เเต่เมื่อไม่นานมานี้เซอเบียสคิดจะทำเรื่องที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อทั้งสามโลก ฉะนั้นนี้เป็นหน้าที่ของพวกเจ้า ตามล่าตัวเซอเบียสเเละสังหารเขาซะ"
เมื่อสิ้นประโยคนั้นผมถึงกับผงะกับสิ่งที่ได้ยิน อมาเรนทาเองก็เช่นกัน มีเเต่ดราเคนที่ยังดูเรียบเฉยอยู่ได้
"ท่านพ่อ!ถ้าท่านจะให้เราจัดการเซอเบียสท่านควรบอกเหตุผลพวกเรา"อมาเรนทาเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
"ก็อย่างที่ได้ยิน หมอนั้นคงไปเตะจมูกใครบนโอลิมปัสเข้าละมั้ง"
"ดราเคน!!!"
"พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ เเค่ทำตามที่ข้าสั่งก็พอ หาตัวเขาให้พบเเละจัดการเขาซะ!!"
ฮาเดสพูดก่อนจะลุกจะบัลลังก์เเละเดินของจากไปท้องพระโลงโดยที่ไม่พูดอะไร ทิ้งพวกเราไว้กับความสับสนในคำสั่งนั้น
.
.
"หาตัวเเล้วฆ่าทิ้ง! ง่ายๆ"ดราเคนเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินออกไปอีกคน ยังไงดราเคนก็ไม่ชอบหน้าเซอเบียสอยู่เเล้วงานนี้คงเป็นงานง่ายสำหรับเขา
.
"ข้าละเกลียดหมอนี้จริงๆ"อมาเรนทาเอ่ยขึ้น
"เเล้วท่านคิดว่าเซอเบียสคิดจะทำอะไร?"ผมเอ่ยถามความเห็นของอมาเรนทา
"ถ้าข้ารู้คงไม่มายืนคิดมากอยู่หรอกนะ! เเล้วเจ้าละจะทำอย่างไรต่อ?"
". . คงต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าเซอเบียสจะทำอะไร"
ขณะที่ผมกับพี่สาวกำลังปรึกษากันอยู่นั้นเทพีเพอร์เซโฟนีที่ผมเพิ่งสังเกตว่าเธอยืนมองพวกเราคุยกันอยู่ตั้งเเต่ต้น ก่อนจะเดินเขามาหาพวกเรา
"ข้าขอคุยกับเจ้าเป็นการส่วนตัวได้หรือไม่? อมาเรนทาเจ้าออกไปก่อน "
เพอร์เซโฟนีถามผมก่อนจะหันไปบอกกับอมาเรนทา
"คือ..ท่านเเม่"
"เเม่ขอคุยกับน้องเจ้า "เป็นการส่วนตัว" "
เพอร์เซโฟนีตอบกลับอย่างตอบย่ำ ทำให้อมาเรนทาต้องเดินออกจากห้องนี้ไปอย่างขัดไม่ได้ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยเเละอยากรู้อยากเห็น ไม่ใช่เเค่เธอที่สบสนตอนนี้ผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่ามันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น เเต่ดูจากสีหน้าของหญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าของผมที่ปกติเธอมักจะยิ้มเเย้มถึงเเม้จะฝืนใจเเต่วันนี้กลับไม่มีเเม้เเต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากเเน่ๆ
". .ท่านมีอะไรจะคุยกับผมหรอครับ?"
.
.
ตุบ!!
ร่างของหญิงงามตรงหน้าผมจู่ก็ทรุดลงคุกเข่าตรงหน้าของผมพร้อมน้ำตาที่ทะลักออกมาจากดวงตาสีครามไหลนองอาบทั่วใบหน้า ผมที่ยืนอยู่ตอนนี้ทำอะไรเเทบไม่ถูก นี้มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น!!
"ฮือๆ ขอร้อง!! เจ้าเป็นคนเดียวที่ช่วยได้ ได้โปรดละ ฮือๆๆ "เพอร์เซโฟนีเอ่ยขอร้องผมพลางร้องไห้ราวกับคนเสียสติ
"พระนาง!ได้โปรดลุกขึ้นก่อนเถอะครับ"ผมค่อยๆประคองร่างของเธอขึ้นก่อนที่เธอจะพยายามเช็ดน้ำตาที่อาบใบหน้า ตอนนี้ดูเหมือนเริ่มจะสงบใจได้เเล้ว
"ขอโทษจริงๆที่ต้องให้เจ้ามาเห็นข้าในสภาพที่น่าสมเพชเช่นนี้"เพอร์เซโฟนีเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่ราวกับมีความนัยบางอย่างจะบอกกับผม
". . .พระนางมีอะไรอยากจะขอให้ผมช่วยสินะครับ"
"งานนี้เป็นงานที่เจ้าเท่านั้นจะทำได้ ข้าไม่ไว้ใจใครทั้งนั้นนอกจากเจ้า"คำตอบของ
เพอร์เซโฟนียิ่งทำให้ความสงสัยของผมเพิ่มพูนขึ้น
"งานนั้นคือ. . ."
"เซอเบียส. .ลูกของข้า. . .เขามีเเผนที่ปลดปล่อยพวกไททันกับไซครอปที่ถูกจองจำที่ ทาทารัส เพื่อสร้างกองทัพขึ้นทำสงครามกับสามภพ "
". . . ." ผมเเทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เซอเบียสถึงเขาจะเกลียดเทพบนโอลิมปัสเเต่ผมไม่เคยคิดว่าเขาจะมีเเผนที่บ้าบิ่นถึงขนาดคิดปล่อยฝูงตัวทำลายล้างอย่างพวกยักย์ตาเดียวกับพวกเทพดึกดำบรรพ์มาเป็นพวก
"หลายวันก่อนเซอเบียสขอเข้าพบฮาเดสเรื่องที่เขาอยากจะครองอเวจี เขาขอให้ฮาเดสยกบัลลังก์ให้ เจ้าคงรู้ว่าอย่างฮาเดสคงไม่มีทางยกอำนาจให้ใคร เซอเบียสไม่พอใจมากข้าพยายามปลอบใจเขาเเต่เขาไม่ฟังข้าเลย ตอนนั้นละที่เขาหลุดปากเกี่ยวกับเเผนการนั้นออกมา เขาผู้ว่า "ข้าจะสร้างกองทัพเเล้วครอบครองสามโลก เเล้ววันนั้นพวกเจ้าทุกคนต้องเสียใจ" "
"เเล้วท่านเเน่ใจได้ยังไงว่าเซอเบียสคิดจะทำจริงๆไม่ใช่เเค่พูดด้วยความโมโห"
" ทีเเรกข้าก็คิดเช่นนั้น เเต่ข้ารู้จักลูกของข้าดีเซอเบียสไม่ใช่คนที่จะพูดอะไรลอยๆถึงเเม้จะเป็นในยามโกรธ ข้าเลยตัดสินใจไปขอความช่วยเหลือจาก สามเทพพยากรณ์โมราย เเต่พวกนางไม่ยอมบอกข้า มีทางเดียวคือให้ฮาเดสเป็นคนขอร้องให้ พวกนางถึงยอมบอก "
"เเล้วพวกนางว่ายังไง?"
"พวกนางว่า หลังจากวันที่เกิดเรื่องเซอเบียสได้ขอคำพยากรณ์จาก เฮคคะที นางบอกเซอเบียสว่าจะมี วิญญาณอวตารของ พระเเม่ไกอา ถูกส่งลงมาจุติอยู่บนโลกมนุษย์ซึ่งวิญญาณคนผู้นั้นจะสามารถปลดปล่อยไททันกับไซครอปในทาทารัสนี้ออกไปได้ พอฮาเดสรู้เช่นนั้นเขาก็เอาความไปบอกซุสกับพวกบนโอลิมปัสทันที ตอนนี้ซุสส่งเทพลงมาจัดการทั้งเคอเบียสเเละมนุษย์ผู้นั้น รวมทั้งเจ้าก็ถูกสั่งให้ต้องฆ่าพี่ชายของตนเอง!! ซึ่งข้าไม่มีวันยอมเเน่!! โชคดีที่เซอเบียสไม่มาในวันนี้ไม่งั้นละก็เขาคง. . ฮือ ฮือๆ"
เทพีผู้งดงามกล่าวก่อนน้ำตาที่คลออยู่ก่อนหน้านี้จะไหลลงมาอีกครั้ง ผมเริ่มจะเข้าใจเเล้ว ที่พวกเราถูกเรียกตัวมารวมกันลงเป็นเเผนของฮาเดสที่จะให้พวกเราจัดการเซอเบียสที่นี้ เเต่เซอเบียสเองก็คงจะไหวตัวทันเเล้ว เเล้วทำไม. .
"เเล้วทำไมฮาเดสไม่จัดการเซอเบียสซะเองถ้าฮาเดสคิดจะฆ่าก็คงง่ายราวกับพลิกฝามือ"ผมเอ่ยถามด้วยความสงสัย
"หลังจากที่ฮาเดสบอกเรื่องนี้กับซุส พวกบนโอลิปัสลงมติให้ซุสยืดพลังเขาไว้ชั่วคราวเพราะพวกรู้ว่าข้าไม่มีทางให้ฮาเดสทำเช่นนั้นเเน่" คำตอบของเธอทำให้ผมคลายความสงสัยไปได้เรื่องหนึ่ง นี้สินะคือเหตุผลที่ให้ลูกคนอื่นๆตามล่าเขาเเทน
". . .เเล้วพระนางจะให้ผมช่วยอะไรละครับ?"
" หน้าที่ของเจ้าคือตามหาร่างอวตารนั้นก่อนที่เซอเบียสกับคนของซุสจะหาเจอพาเขามาที่นี้ เราต้องทำพิธีเเยกวิญญาณของเขากับจิตวิญญาณของไกอาออกจากกันก่อนจะคือจิตนั้นกลับสู่ผืนดิน "
"ท่านก็รู้ว่าผมเป็นเเค่มนุษย์ครึ่งเทพ ผมไม่ได้เป็นอมตะ พลังของผมยังสู้อมาเรนทาไม่ได้ด้วยซ้ำ เเล้วผมจะสามารถตามหาคนๆนั้นได้ยังไง?" ผมเอ่ยก่อนที่เทพีเพอร์เซโฟนีจะเดินเข้ามาใกล้ผม มือเรียวของเธอค่อยเอื้อมมาจับที่หน้าอกข้างซ้ายของผมอย่างเเผ่วเบาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม
"เพราะอีกครึ่งที่เจ้าได้รับมากจากสายเลือดของฮาเดสคือเสียวพลังเเห่ง มหาเทพอูรานอส อีกด้านหนึ่งที่หลับไหลอยู่ในกายเนื้อนี้คือพลังอันลึกลับเช่นเดียวกับที่เซอเบียสพี่ของเจ้ามี พลังเเห่งอูรานอสจะนำทางเจ้าไปหาเขาผู้นั้น นอกจากเจ้าและเซอเบียสไม่มีใครสามารถตามหามนุษย์ผู้นั้นพบ
ฉะนั้นตามหาคนผู้นั้นก่อนเซอเบียสหรือซุสได้ตัวเขาไป รีบพาเขามาที่นี้ทำพิธีซะ เเน่นอนว่าคนของซุสรวมถึงเขาลงมายังอเวจีนี้ไม่ได้ ส่วนเซอเบียสถ้าเขาสัมผัสได้ถึงพลังเขาต้องลงมาที่นี้ ถึงตอนนั้นข้ามีวิธีรับมือเขาไว้เเล้ว
ข้าของย้ำ อย่าให้มนุษย์เป็นอันตรายก่อนถึงพิธีไม่เช่นนั้นวิญญาณเเห่งไกอาในตัวเขาจะต้องพิโรธ เมื่อถึงตอนนั้นสามภพจะต้องเกิดหายนะเป็นเเน่ จำไว้!เรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเจ้ากับข้า ระหว่างนี้ข้าจะส่งคนไปเฝ้าปากทางเข้าทาทารัชไว้จนกว่าเจ้านะได้ตัวเขามา"
เมื่อเข้าใจเรื่องทั้งหมดเเล้วผมพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการตอบตกลง ก่อนจะหันหลังเดินไปยังประตูทางออก ถึงจะมีบางเรื่องที่ยังคาใจอยู่เล็กน้อย เเต่เกมส์เเมวจับหนูระหว่างเทพกับมนุษย์เริ่มต้นขึ้นเเล้ว ผมคงต้องเดินเกมส์เร็วเพราะตอนนี้เซอเบียสกับซุสนำผมไปเเล้วก้าวหนึ่ง
.
.
เมื่อเดินออกมาจากท้องพระโรงจนถึงทางเดินยาว ตรงสุดทางเดินตรงประตูทางออกจากปราสาทผมสังเกตเห็นหญิงสาวในชุดสีดำที่ยืนพิงกำเเพงอยู่หน้าประตู เเน่นอนว่าเป็นอมาเรนทา เพราะที่นี้มีผู้หญิงเเค่สองคน เธอมองหน้าผมพร้อมกับส่งยิ้มให้ผมเล็กน้อยอย่างมีเลศนัย นั้นทำให้ผมใจไม่ดีนัก ผมพยายามเดินมองตรงไม่ใส่ใจเธอจนมาถึงหน้าประตูทางออกจุดที่ยัยพี่สาวตัวดีของผมยืนดักอยู่นั้นละ ผมจึงทำเป็นไม่สนใจก่อนจะพยายามเดินออกไปอย่างเร็วที่สุดเพราะอมาเรนทามีความสามารถในการอ่านใจคนถึงผมจะไม่ใช่คนร้องเปอร์เซ็นเเต่ก็ไม่ขอเสี่ยง
"เพิ่งสังเกตว่าวันนี้สูทที่เจ้าใส่ เข้ากับผมสีเงินของเจ้าดีนะ"เสียงของหญิงสาวเอ่ยไล่หลังผมมา
"ขอบใจ!"
"เดินทางกลับจากนรก ก็ระวังตัวให้ดีละ อเล็กซ์น้องรัก "
ผมเดินต่อไปโดยไม่ได้ตอบกลับ
ก่อนจะรู้สึกได้ว่า
"คงไม่ใช่ความลับของเราสองคนอีกต่อไปเเล้วละ"
to be continued. . .
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คำศัพย์ขีดเส้นใต้
(ตามตำนานจริงนะจ๊ะ!)
โอลิมปัส - เป็นชื่อของภูเขาเเห่งทวยเทพ หรือ สวรรค์นั้นเเหละคะ
ซุส - ราชาเเห่งทวยเทพเเละท้องนภา มีสายฟ้าเป็นอาวุธ เป็นน้องของฮาเดส เป็นหลานของอูรานอส
ไททัน - เผ่าพันธุ์ที่กำเนิดจาก พระเเม่ไกอากับเทพอูรานอส ร่างสูงใหญ่ เทพในโอลิมปัสส่วนใหญ่ก็เป็นเผ่าไททัน เเต่มี ส่วนหนึ่งที่โดนจับขังอยู่ที่ทาทารัส
ไซครอป - หรือยักษ์ตาเดียว เผ่านี้กำเนิดโดยขุ่นเเม่ไกอากับขุ่นพ่ออูรานอสเจ้าเก่า เเต่เพราะอันตรายเเละน่าเกลียด
เลยถูกอูรานอสขังไว้ที่ทาทารัส(ถ้าจำไม่ผิดนะคะ)
ทาทารัส - ดินเเดนใต้ของใต้ของนรกที่มืดมิดที่สุด เป็นที่ขังปีศาจเเละตัวประหลาดต่างๆข้างต้น
สามเทพพยากรณ์โมราย - หญิงสามพี่น้องผู้ปั่นเส้นใยเเห่งโชคชะตา ทั้งมนุษย์เเละเทพ
เฮคคะที - เทพธิดาเเห่งมนต์ดำเเละเเม่มด
พระเเม่ไกอา - พระเเม่เเห่งผืนเเผ่นดิน พระเเม่เเห่งเทพทั้งปวง รวมไปถึงปีศาจเเละตัวอะไรประหลาดๆอีกมากมาย ลูกๆตัวใหม่ของเธอช่วงหลังๆมักเกิดมาสร้างความเดือนร้อนให้เทพบนโอลิมปัสเเบบสุดๆ
มหาเทพอูรานอส - อูรานอส หรือ ยูเรนัส เป็นทั้งลูกเเละสามีของบร๊ะเเม่ไกอา เขามักจับลูกที่เกิดมาไม่ได้ดังใจ ขังไว้ที่ทาทารัส ทำให้บร๊ะเเม่ไม่พอใจ จึงขอให้ลูกไททันจัดการพ่อของตนซะ คนที่อาสาคือ โครนอส (หรือพ่อของเทพบนโอลิมปัสปัจจุบัน เช่น ซุส ,โพไซดอล,ฮาเดล เป็นต้น) โครนอสวางเเผนอัน
ชาญฉลาดโดยการเข้าห้องพ่อในยามดึกเเล้วใช้มีดตัดหรรมของพ่อตัวเองเเล้วโยนทิ้งทำให้อูรานอสถึงเเก่ ความตายตายหรรมอันนั้นได้ ตกลงสู่ทะเล น้ำขาวๆจากหรรมผสมกับฟองคลื่น กำเนิดเป็น วีนัส เทพเเห่ง ความงาม(เเน่นอนว่าอธิบายยาวยันกำเนิดวีนัสต้องมีเรื่องของนางเเน่นอน)
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุยกันท้ายบทจ๊ะ!!
เห้ย~~เธอออ นี้นิยายเรื่องเเรกของเราเลยนะ ขอฝากผลงานเราด้วยนะคะขาดตกอะไรยังไงเเนะนำกันมาได้นร้าา ไม่กัดคะ หรือจะเเชร์ความรู้เกี่ยวกับตำนานกรีกมาเพิ่มเติมได้เลยนะ
เเนะนำตัวละครที่ออกใน
chapter 0
อเล็กซ์ (Alex)
บุตรคนที่ 4 ของเทพเจ้าเเห่งอเวจี ฮาเดส กับ มนุษย์
สุขุม เป็นผู้นำ มีเหตุผล เยือกเย็น ถึงภายนอกของเขาอาจจะดูเป็นมนุษย์ธรรมดายกเว้นสีผมที่เป็นสีเงินโดยกำเนิน เขายังมีพลังด้านมืดลึกลับที่ได้สืบทอดมาจากอูรานอสที่หลับไหลอยู่ภายใน
อมาเรนทา (Amarenta)
ธิดาคนที่ 2 ของเทพเจ้าเเห่งอเวจี ฮาเดล กับ เทพีเพอร์เซโฟนี
เทพีเเห่งจิตวิญญาณ มีเมตตา งดงาม ลึกล้ำ
เธอมีความสามารถในการอ่านใจมนุษย์เเต่ไม่สามารถอ่านใจเทพด้วยกันได้
นอกจากนี้เธอยังมีความสามารถในด้านเวทมนต์อีกด้วย
ดราเคน(Draken)
บุตรคนที่ 3 ของเทพเจ้าเเห่งอเวจี ฮาเดส กับ ปีศาจ
ก้าวร้าว มุทะลุ ไร้เมตตา
เขาเป็นบุตรที่เกิดจากเทพเเละปีศาจจึงมีพละพลังมาก มีความเป็นอมตะ
เช่นเดียวกับเทพ เขามักมีปากเสียงกับพี่น้องของตนเสมอโดยเฉพาะกับ
เซอเบียสเเละอมาเรนทา
เซอเบียส(Cerbeius)
บุตรคนเเรก ของเทพเจ้าเเห่งอเวจี ฮาเดล กับ เทพีเพอร์เซโฟนี
เทพเเห่งการทำลายล้าง โหดเหี้ยม มุ่งมั่น กระหายสงคราม
เซอเบียสเป็นเทพที่เเข็งเเกร่งที่สุดในบรรดาเทพกำเนิดใหม่ในช่วง500ปีที่ผ่านมา ด้วยนิสัยที่กระหายการต่อสู่เเละอำนาจ เขามักว่างตนเป็นศัตรูกับเทพ
บนโอลิมปัส โดยเฉพาะ แอรีส เอเธนน่า สองเทพเจ้าเเห่งสงคราม
หรือเเม้กระทั้งมหาเทพซุส
ฮาเดส(Hades)
เทพเจ้าผู้ปกครองยมโลกเเละโลกใต้บาดาล
เเข็งเเกร่ง เยือกเย็น โหดเหี้ยม ไร้ปรานี
ฮาเดสคือเทพเผ่าไททันหลานของอูรานอสเเละพี่ชายเเท้ๆของซุส
ฮาเดสเป็นเทพที่รักสันโดษส่วนใหญ่มักอยู่เเต่ที่ยมโลก
ฮาเดสมักให้ลูกๆของตนทำภารกิจบนโลกหรือโอลิมปัสเเทนเขาเสมอ
เพอร์เซโฟนี(Persephone)
เทพีเเห่งฤดูใบไม้ผลิ หรือ ราชินีเเห่งยมโลก
งดงาม อ่อนหวาน เฉลียวฉลาด
เธอคือธิดาของพระเเม่ ดีมีเตอร์ เทพีเเห่งพืชผลซึ่งเป็นน้องสาวเเท้ๆของฮาเดส ถึงเเม้เธอจะเป็นหลานสาวเเท้เเต่ด้วยความงามที่ทำให้
ฮาเดสหลงรักจนถอนตัวไม่ขึ้น ฮาเดสจึงฉุดเพอร์เซโฟนีไปเป็นชายา
เเละขังตัวเธอไว้ที่นั้นมีเพียงเวลาไม่กี่เดือนของทุกปีที่เธอจะได้กลับขึ้นมา
นั้นคือในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ถึงจะมีทายาทด้วยกันถึง2คน เเม้ว่าฮาเดสจะรักเธอมากเพียงใด
เธอก็ยังคงเย็นชากับฮาเดสอยู่ตลอด
------------------------------------------------------------------------------