ค.ศ. 2009
' 2. สารัช อยู่เย็น สโมสร SCG เมืองทอง ยูไนเต็ด '
' 3.....
' 4.....
ชีวิตของผมคือฟุตบอล ผมเติบโตมากับสิ่งๆนี้ ลูกกลมๆ กีฬาที่ผมรัก... ' ฟุตบอล ' ความฝันของนักฟุตบอลอาชีพทุกคนคือการติดทีมชาติใช่มั้ยครับ ผมก็เช่นกัน และในตอนนี้ความฝันของผมก็เป็นจริง เมื่อทางสมาคมประกาศรายชื่อ U-19 หรือรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี จริงๆแล้วผมเคยติดในชุด U-14 มาแล้ว แต่ฟุตบอลมันก็มีขึ้นมีลง เมื่อเราทำผลงานได้ดีก็มีแต่คนยกย่อง...ดีใจ แต่พอเราทำผลงานไม่ดี ก็มีคนด่าคนว่า...เสียใจ ผมก็หลุด จนผมตั้งใจฝึกฝนเพื่อกลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง จนมาถึงตอนนี้
" จับฉลากรูมเมทเลยนะครับ เสร็จแล้วก็ลงมาทานอาหารตอนเที่ยงตรงนะครับ "
ตอนนี้ผมอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่เก็บตัวชุด U-19 ทุกคนในห้องประชุมนี้หน้าตาไม่คุ้นเลย ในสโมสรของผมก็มีติดอยู่แค่ 2-3 คน แต่ผมก็ไม่สนิท ผมมองทุกคนที่ล้วงมือเข้าไปหยิบกระดาษในถ้วยในทางทีมงานถือจนวนมาถึงผมคนสุดท้าย ผมหยิบกระดาษม้วนสุดท้ายออกมา ' เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ '
" ใครว่ะ ? "
ผมพึมพำออกมาเบาๆ
" เอาล่ะ ได้รายชื่อกันครบแล้วก็เดินหาคู่รูมเมทของตัวเองนะครับแล้วมารับกุญแจห้องขึ้นไปจัดของแล้วลงมาตามนัดนะครับ "
ผมมองผู้คนที่เริ่มเดินออกหารูมเมทของตัวเอง คงมีแต่ผม ที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
จนเพื่อนร่วมแคมป์ทุกคนได้คู่กันไปกันหมดแล้วเหลือแค่ผมคนเดียวที่ห้องประชุม แล้ว เกริกฤทธิ์นี่ใครว่ะ? ผมจะรู้จักมั้ยเนี่ย ไม่มีใครเหลือในห้องแล้ว -///- จนสายตาผมเหลือบกลับไปเห็น
" พี่บอล!!!! "
พี่ชายคนสนิทของผมเอง เค้าอาจจะเป็นคนเดียวที่ผมรู้จักในแคมป์นี้แล้วก็ได้นะบางที
" ว่า? "
พี่แกเดินเข้ามาตามเสียงเรียกของผม
" ผมหาเมทไม่เจอ TT "
" เมทเอ็งชื่ออะไรล่ะ? "
" นี่อ่ะ เกริกฤทธิ์ "
ผมคลี่กระดาษพร้อมชูให้พี่บอลดู
" อ่อ ไอก้อง เอ็งโชคดีนะที่ได้ไอก้องเป็นเมท "
" อ่าวแล้วพี่เค้าหายหัวไปไหนอ่ะครับ? "
ผมถามอีกคนออกไป จริงๆนะผมว่าคนในห้องก็ไปหมดแล้ว
" อ่อ ก้องมันอยู่ในห้องสัมภาษณ์นู้นแหละ "
" ห้ะ? สัมภาษณ์อะไรอ่ะพี่ "
" ก็เมทเองเค้าได้ไปฝึกประสบการณ์ถึงบาเซโลน่าเลยนะเว้ย "
" เห้ยจริงดิพี่! "
ผมไม่อยากจะอวด เมทผมโคตรเจ๋งอ่ะ พี่เค้าต้องเก่งมากแน่ๆ
" เอ็งไปหาเอาล่ะกันมันอยู่ห้องตรงนั้นแหละ "
ผมมองตามห้องที่พี่บอลชี้ไป
" ขอบคุณครับพี่! "
" เออๆ "
ผมเดินตามทางจนมาถึงห้องสัมภาษณ์ พร้อมกับประตูที่เปิดออก ผมเห็นผู้ชายตัวสูงหรือผมตัวเตี้ย TT คนนึงเดินออกมา
" พี่ชื่อก้องรึเปล่าครับ ? "
ผมถามอีกคนออกไป
" ใช่ ทำไม "
อีกคนตอบแบบปัดๆมาให้ผม
" พี่เป็นเมทผมอ่ะครับ "
ผมยิ้มตาหยีออกไปให้อีกคน เค้าบอกว่าต้องชนะคนพูดไม่เพราะด้วยการพูดเพราะ
" ก็ไปเอากุญแจสิ้ "
==' ห้ะะ มาถึงก็สั่งกันเลยหรอว่ะ
" หะ..ห้ะ ผมหรอ? "
" เออ! "
ผมเดินอย่างคอตกไปล็อบบี้เพื่อรับกุญแจ คนบ้าอะไรว่ะ แม่งโคตรหยิ่งเลย ไม่รู้จักกันแล้วยังมาสั่งกันอีก :(
ผมเดินเข้าลิฟต์พร้อมคิดแผนดีๆออก เมื่อผมเป็นคนไปเอากุญแจ ผมรู้เลขห้อง แต่อีกคนไม่รู้ หลงหาไปล่ะกันนะพี่ :)
' ตึงๆๆๆ '
มันเป็นเสียงของผมเองแหละครับที่กระหน่ำปิดลิฟต์ กลัวอีกคนจะตามทัน
เมื่อลิฟต์กำลังจะปิดลง....
' กึก '
ผมเห็นเหมือนกระป๋าเดินทางมาขวางไว้ ผมรู้ แน่นอว่าต้องเป็นเค้า ไม่สนใจครับ หันหน้าเข้าแผงควบคุมแม่งเลย ช้าจังว่ะ แบกอะไรมาตั้งเยอะแยะ แต่ผมไม่สนไง ไม่ได้ดู :)
" ไม่คิดจะรอกันหน่อยรึไง "
" .... "
ผมไม่ตอบ ในลิฟต์ถูกความเงียบเข้าปกคลุม เราทั้งสองคนต่างเงียบ
จนมาถึงชั้นจุดหมายของเรา
' ติ๊ง '
ผมรีบเดินออกมาจากลิฟต์ทันทีโดยที่ไม่สนใจอีกคนแม้แต่นิดเดียว แต่เดี๋ยวนะ ผมมาแคมป์หนิ แล้วทำไมมันดูว่างๆ ผมต้องลืมอะไรสักอย่างแน่ๆ ผมเดินมาเรื่อยๆจนนึกได้ ' เหี้ย! กระเป๋าเดินทางกู '
ผมรีบหันหลังกลับไปทันทีหวังจะเดินกลับไปที่ลิฟต์ ลงไปเอากระเป๋าที่ลืมอยู่ข้างล่างๆ TT
. . .
ผมเห็นอีกคนที่แบกของมาเยอะแยะ เห้ยแต่นั่น
" กระเป๋าเดินทางผมหนิ!!! " ผมตะโกนใส่อีกคน แต่อีกคนดูไม่กระทบกระเทือนอะไรเลย ยังมายิ้มอะไรอีก!
" ก็กูเห็นมีคนลืมไว้ข้างล่าง เลยเอาขึ้นมาให้ "
ห้ะ! คนอย่างพี่เนี่ยนะ ผมคว้าออกไปหวังจะเอากระเป๋าของตัวเอง อีกคนดึงกระเป๋าหนี แถมเดินไปหน้าตาเฉย
=_= คือพี่ครับ?
" เดี๋ยว-ถือ-ให้ " อีกคนที่เดินไปไกลแล้วหันหลังกลับมาพูดอย่างเน้นพยางค์ที่ล่ะคำ พร้อมขยิบตาให้
มันเป็นคำธรรมดานะ แต่มันทำให้ผมยิ้มได้ :)
- ความห่วงใยคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ -