ตราบฟ้าไร้ดาว
Remembrance
โดย
กันเกรา
พี่หิน หนุ่มน้อยนิรนาม
ผู้มามอบโลกใบใหม่ที่สดใสสวยงามให้น้องเอ๋ย
และจากไปพร้อมกับโลกใบนั้น
ทิ้งไว้แต่โลกมืด โลกไร้สุขและสิ้นหวังเอาไว้ให้
น้องสาวที่เขาเองก็รักปานดวงใจ
‘พี่รักเอ๋ยนะจ๊ะ สามสี่วันที่ออกเรือ พี่คงจะต้องเป็นบ้าแน่ๆ เพราะคิดถึงเอ๋ย แล้วเอ๋ยล่ะ รักพี่และจะคิดถึงพี่หรือเปล่า’
‘ไหนบอกให้พี่ชื่นใจหน่อยสิจ๊ะคนดี’
‘บอกให้พี่ได้ยินหน่อยสิจ๊ะคนดีของพี่ เดี๋ยวเราต้องรีบกลับเข้าบ้านกันแล้วนะ’
‘ถ้าเอ๋ยไม่บอก พี่ต้องตายเพราะอยากรู้แน่ๆ เลย นะนะ บอกพี่ที’
‘ถ้าเอ๋ยไม่บอก พี่ต้องตายเพราะอยากรู้แน่ๆ เลย นะนะ บอกพี่ที’
‘ถ้าเอ๋ยไม่บอก พี่ต้องตายเพราะอยากรู้แน่ๆ เลย นะนะ บอกพี่ที’
วรินรำไพ หรือ เอ๋ย
หญิงสาวผู้ไม่หลงเหลือหัวใจให้ใครได้แล้ว
นอกจาก 'พี่หิน' คนเดียวเท่านั้น
“พี่หินจ๋า! เอ๋ยมารับพี่หินแล้ว พี่หินอยู่ไหนจ๊ะ พี่หินกลับมาหาเอ๋ยสิจ๊ะ”
น้ำตาที่ไม่เคยเหือดแห้งนั้น หลั่งไหลลงมาอีกมากมาย เมื่อภาพในค่ำคืนนั้นลอยมาอยู่ตรงหน้าสาวน้อยที่กำลังเจ็บเสียด แน่นที่อกเพราะความเสียใจ
“เอ๋ยรักพี่หินจ๊ะ พี่หินได้ยินมั้ยจ๊ะ ว่าเอ๋ยรักพี่หิน”
“เอ๋ยจะรักเพียงพี่หินคนเดียวเท่านั้น พี่หินต้องกลับมาหาเอ๋ยนะจ๊ะ เอ๋ยรู้ว่าพี่หินยังไม่ตาย”
ร่างเล็กยกเสื้อผ้าพี่ชายขึ้นมากอดไว้ ก่อนจะแนบแก้มลงไปหา ปล่อยให้หยาดหยดน้ำตาไหลรินลงไปใส่ ประหนึ่งอยากให้พี่ชายที่แสนดีมาซับน้ำตาที่หลั่งรินออกมาเพราะความเสียใจอย่างสุดซึ้งก็ไม่ปาน
“เอ๋ยจะรอพี่หินอยู่ตรงนี้ตลอดไป พี่หินได้ยินมั้ยจ๊ะ ว่าเอ๋ยจะรอพี่หินคนเดียว และจะรักพี่หินคนเดียวเท่านั้น”
ประโยคอ้อนวอนของพี่ ตกย้ำซ้ำเติมให้น้ำตาน้องหลั่งรินออกมามากมายแล้วแทบจะกลายเป็นสายเลือด เพราะความเสียดายที่ไม่ได้บอกคำที่พี่อยากได้ยินออกไป ถ้าเพียงแต่น้องคนนี้ล่วงรู้ว่าความตายจะมาพรากพี่ไปจากน้องในรวดเร็วขนาดนี้
“เอ๋ยรักพี่หินจ๊ะ รักและจะรอให้พี่หินกลับมาหาเอ๋ยอีก กลับมาสร้างบ้านในฝันของเรา กลับมาอยู่กับเอ๋ย มีลูกตัวเล็กๆ กับเอ๋ย แล้วเราจะจูงลูกไปส่งโรงเรียน เหมือนที่พี่หินบอกไว้ไงจ๊ะพี่หินจ๋า”
กายเล็กๆ และยังกอดเสื้อผ้าพี่หินอยู่นั้น ค่อยๆ รูดเลื่อนไปตามผนังเก๋งเรือลงไปหาพื้น เมื่อมีประโยคอ้อนวอนของพี่ลอยมาตอกย้ำความผิดพลาดไม่ขาดหาย
และถ้าเพียงเลือกได้อีกครั้ง ถ้าเพียงย้อนเวลากลับมาได้อีกครั้ง ถ้าเพียงมีพี่ชายที่แสนดีอยู่ข้างกายอีกครั้ง ถ้าเพียงค่ำคืนสุดท้ายที่ได้อยู่กับพี่ชายแบบนั้นอีกครั้ง
“เอ๋ยรักพี่หินจ๊ะ รักมาก รักมากยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก และพี่หินจะอยู่ในใจเอ๋ยตลอดไปจ๊ะ แล้วเอ๋ยก็จะรอ รอวันที่พี่หินกลับมาหาเอ๋ย กลับมาฟังคำบอกรักจากเอ๋ย กลับมาทำความฝันที่เรามีด้วยกัน เอ๋ยจะรอพี่หินจ๊ะ ต่อให้เอ๋ยจะต้องไปตลอดชีวิต เอ๋ยก็จะรอพี่หินคนเดียว จะรักและจะรอพี่หินของเอ๋ยคนเดียว ไม่ว่าจะนานแค่ไหน เอ๋ยก็จะรอ”
ชลธิป จิระธนานนท์ หรือ คุณร๊อค
ผู้บริหารหนุ่มเจ้าของ‘ตาเบบูญา บางปูปาร์ค รีโซเทล แอนด์ สปา’
ผู้ที่หวนกลับมาทำร้ายคนที่เขารักปานดวงใจ
โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว กระทั่งวินาทีสุดท้าย
“นรกสำหรับคุณไง!”
เขาคว้าแขนเล็กๆ ไว้แล้วกระชากตามตัวไปอย่างแรง
“เงียบทำไม! ถึงเวลาที่คุณจะต้องอธิบายให้ผมฟังได้แล้ว ว่าคุณทำยังไงถึงได้รอดจากการติดคุกทั้งๆ ที่ฆ่าเมียผมตายอย่างเลือดเย็นขนาดนั้น เมียผมไปทำอะไรให้คุณนักหนา คุณถึงได้เอาให้ถึงตายด้วย! ถ้าเหตุผลเพียงเพราะคุณอยากได้ตัวผม เงินผม คุณก็บอกมาดีๆ สิ ผมจะจัดให้!”
“...”
“เงียบทำไม! คุณบอกผมมาสิว่าทำไม! ตอบผมมาให้ได้! ไม่อย่างนั้นคุณจะต้องเสียใจกับการกระทำของคุณเอง! ตอบผมมา!!!”
ประตูห้องเปิดออกได้ ร่างผอมบางก็ถูกกระชากแขนอย่างแรงเข้าไปในห้องจนกระแทกกับตู้เสื้อผ้า ทว่าวริญรำไพก็ไม่คิดจะพูดอะไรออกมา นอกจากมีน้ำตาไหลรินอาบสองแก้มเท่านั้น
“คุณพูดไม่ออกเหรอ! หรือบอกผมไม่ถูกว่าคุณใช้วิธีไหน ถึงได้รอดคุกมา!”
“ฉันเปล่า ฉันไม่ได้ทำอะไร คุณก็รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ”
“ผมไม่โง่พอที่จะเชื่อคำของคุณ เหมือนพ่อผม เหมือนพ่อตาผม เหมือนทนายนั่น หรือเหมือนไอ้หน้าโง่คนไหนทั้งนั้น เพราะผมรู้ดีว่าคุณมันแผนสูง คุณมันเก่งเรื่องมารยาสาไถจนผมเกือบจะหลงเชื่ออยู่แล้ว บอกผมมาสิ ว่าคุณไปทำอีท่าไหนทุกคนถึงได้เชื่อคุณนัก คุณลงทุนเอาตัวไปประเคนให้ถึงเตียง เหมือนที่ประเคนให้ไอ้ล่ำนั่นหรือเปล่า!!!”
“ฉันเปล่า คุณกำลังเข้าในฉันผิด”
“ใช่! ผมเข้าใจคุณผิด ผิดมาโดยตลอดที่คิดว่าคุณมันเป็นคนดี! คนซื่อ คนสะอาดบริสุทธิ์! แต่ตอนนี้ผมเข้าใจถูกต้องแล้ว ว่าคุณมันเลวยังไง! คดยังไง! สปรกแค่ไหน! ในตัวคุณมันเต็มไปด้วยคราบคาวของผู้ชายรวยๆ กี่สิบคนแล้ว หรือกี่เที่ยวแล้วล่ะ คุณถึงได้พ้นผิด คุณไปแบให้ตั้งแต่ร้อยเวรที่โรงพักยันไอ้ทนายมือหนึ่งนั่นเลยหรือเปล่า! พวกเขาถึงได้เชื่อ จนปล่อยให้คุณออกมายืนหน้าตาเฉยแบบนี้ได้ ทีนี้ก็ถึงเวลาที่คุณจะทำให้ผมเชื่อเหมือนคนพวกนั้นบ้างแล้วล่ะ”
“ไม่จริง! ฉันไม่เคยทำอะไร คุณกำลังเข้าใจผิดค่ะ ฉันไม่เคยทำแบบนั้น!”
“ผมไม่เชื่อ!!! หรือถ้าคุณอยากให้ผมเชื่อ ก็ให้ผมพิสูจน์สิ! ว่าคุณมันบริสุทธิ์จริง! อย่าดีแต่เสแสร้ง!” เขาเข้าไปจับสองไหล่เหวี่ยงไปหาเตียง
“โอ๊ย!!!”
จนร่างผอมๆ ร้องด้วยความจุก “คุณเจ็บเหรอ! แค่นี้มันยังน้อยไป! มันยังไม่สาสมที่คุณทำให้ผมเจ็บ! ยังไม่ได้เศษเสี้ยวกับชีวิตเมียผม! ต่อไปนี้คุณก็เชิญมีชีวิตอยู่ในขุมนรกกับผมก็แล้วกัน!”
ร่างเล็กๆ ถูกร่างใหญ่ๆ ล็อกไว้กับเตียงทันที ปากก็ร้องขอ อ้อนวอนต่อเขาทั้งน้ำตา “อย่า!!! ได้โปรด!!! อย่า!!!”
“นี่เป็นคือคำพิพากษาสูงสุดจากผมสำหรับผู้หญิงชั่วอย่างคุณ!!!”
“อย่า!!! ได้โปรดอย่าทำ...”
เรี่ยวแรงในกายที่เคยมีตอนนี้หดหายไปหมดแล้ว เมื่อถูกอีกกายตรึงไว้กับเตียงใหญ่ แล้วระดมจูบอย่างรุนแรง ไร้ซึ่งความปรานีใดๆ จนเดาได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเอง เมื่อเขายื่นความจำนงค์ให้รู้อย่างโจ่งแจ้ง
“อย่า!!! ได้โปรด!!! อย่าทำอย่างนี้กับฉัน!!!”
“อย่ามาขอชีวิตจากยมบาลอย่างผม! เพราะไม่มีทางที่ผมจะปล่อยให้คุณลอยนวลอยู่ได้โดยไม่ต้องชดใช้อะไรแน่!!! ชีวิตเมียของผมที่ต้องจากไป คุณต้องตาย! ตายตามเมียผมไป และต้องตายทั้งเป็นด้วย!!!”
ดลยา
นิติพงษ์พาณิชย์ หรือ คุณย่า
สาวผู้เกิดมามีทุกอย่างพร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็นรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ
และมีเป็นที่รักของผู้คนรอบข้าง เพราะเธอนั้นแสนดีจนเป็นที่เลื่องชื่อ
จนได้หัวใจของชลธิปไปครอบครอง
“มาแล้วตากล้องมือดีที่คุณย่าจองตัวไว้ เอ๋ยมารู้จักคุณย่าเร็วๆ เข้า”
พอไปถึงซุ้มเรือนไทยที่ใช้เป็นที่ตระเตรียมข้าวของ เจ้านายสาวก็รีบลากแขนให้เดินตรงไปหาว่าที่เจ้าสาวที่อยู่ในชุดขาวสะอาดตา สวยงามราวเทพธิดาจำแลงกายมาก็ไม่ปาน
“สวัสดีค่ะคุณเอ๋ย ได้เจอตัวกันสักทีนะคะ หลังจากที่คาดกันมาสองสามรอบแล้ว”
ดลยาเป็นฝ่ายเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสก่อน วริญรำไพที่ยกมือไหว้ดวงกมลแล้วถึงได้หันไปหาลูกค้าซุปเปอร์วีไอพี “สวัสดีค่ะคุณย่า ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
แล้วก็ยกมือไหว้ทักทายพร้อมส่งยิ้มบางๆ เพียงเล็กน้อยให้ตามสไตล์ที่ทุกคนมักจะคุ้นเคย “เช่นกันค่ะ ยังไงก็ต้องใช้ฝีมือถ่ายภาพย่าออกมาให้สวยที่สุดเลยนะคะ”
“ค่ะ งั้นเอ๋ยขอตัวไปเตรียมกล้องก่อนนะคะ”
ดลยาหันไปหาดวงกมลกับสุภาภรณ์แล้วยิ้มให้อย่างรู้กัน เพราะตอนที่แต่งตัวอยู่บนห้อง ทั้งสองบอกไว้แล้วว่าตากล้องสาวผมยาวถึงเอวเป็นคนพูดน้อย เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ค่อยสังสรรหรือสุงสิงกับใครมากนอกจากจะเกี่ยวข้องกันในเนื้องาน
อติรัตน์ จิระธนานนท์
ผู้หญิงที่กุมชะตากรรมทุกคนไว้ในมือ
ผู้หญิงที่เห็นแก่ตัว ไม่สนใจใครหรืออะไรทั้งสิ้น
นอกจากหน้าตาทางสังคม ความเหมาะสม และผลประโยชน์
“ไม่ต้องมาสำบัดสำนวนกับฉันให้มากความหรอก!! เท่าไหร่บอกมา!!!”
“ห้าล้านพอมั้ย!!!” อติรัตน์รีบยื่นข้อเสนอ
“ถ้าน้อยไปก็สิบล้าน!!! แล้วเธอก็ต้องปิดปากให้เงียบ!!! อย่าบอกเรื่องนี้กับใคร!!!”
“งั้นก็ยี่สิบล้าน! ค่าช่วยชีวิตลูกฉัน อีกสิบล้าน! สำหรับเธอที่ต้องปิดปากเงียบ อีกสิบล้าน! สำหรับการเดินไปจากชีวิตลูกฉันซะ และอีกสิบล้าน! สำหรับการไปแล้วไม่ต้องหวนกลับมาหาลูกฉันอีก ทั้งหมดห้าสิบล้าน!!! ฉันว่าเธอรวมคนทั้งเกาะหาไปตลอดชาติก็ไม่มีทางได้เห็นเงินก้อนนี้ด้วยซ้ำ”
“ว่าไง!! จะเอาหรือไม่เอา! อย่ามาลีลาเพื่อจะขึ้นค่าปิดปากนะฉันไม่ชอบ! หรืออยากได้เท่าไหร่ก็บอกมา! ฉันจะชดใช้ให้!!!”
“อย่ามาเล่นลิ้นกับฉันนะ! บอกมาอยากได้เท่าไหร่ฉันจะจ่าย!!!”
“อย่ามาตีฝีปากกับฉัน!!! เธออยากได้อะไรฉันจะชดใช้ให้!!!”
“บอกมาว่าต้องการเท่าไหร่! ฉันจะจ่ายให้!!! แล้วรีบไสหัวออกไปจากชีวิตพวกฉันสักที!!! ฉันเบื่อที่จะต้องตามแก้ปัญหาที่เธอคอยตามสร้างให้เต็มทีแล้ว!!!”
“ทำไมฉันต้องสนด้วย!!!”
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย
หนึ่งคอมเม้นต์คือหนึ่งแรกผลักดันและกำลังใจของคนเขียนนะคะ
แต่ยินดีต้อนรับนักอ่านเงาทุกท่านค่ะ
นิยายของกันเกราเรื่องไหนที่ยังไม่ได้ทำสัญญากับ สนพ. ยินดีจะลงให้อ่านจนจบเรื่องค่ะ แต่ถ้าเรื่องไหนทำสัญญาแล้ว ขออนุญาตลงแค่ครึ่งเดียวนะคะ
ขอบคุณค่ะ สำหรับทุกๆ กำลังใจที่มีให้เรื่อยมา
ยิ้มมมมมมมมมมมมมมมมม