ตอนที่ 1 จุดกำเนิด
‘พระนาย’ อาร์ทิสต์หนุ่มไฟแรงที่ตอนนี้ภาพวาดของเขาจัดว่าหายากและมีราคาแพงหูดับ ทำให้ผลงานของเขาเป็นที่ต้องการของบรรดานักสะสมภาพ พระนายจัดว่าเป็นศิลปินขนานแท้ เขาจะรังสรรค์ผลงานก็ต่อเมื่อร่างกายได้หลั่งสารเอนดอร์ฟินหรือที่เรียกกันว่าสารแห่งความสุขออกมาเท่านั้นภาพถึงจะมีชีวิต ไม่มีการเค้นอารมณ์อย่างเด็ดขาด
ตอนนี้เขากำลังหัวเสียสุดขีดเมื่อลูกน้องที่อาสาไปรับของจากท่าเรือ มาส่งของให้ไม่ตรงตามที่นัดหมาย นี่ก็เลยเวลานัดมาเป็นชั่วโมงแล้วแต่ทำไมยังมาไม่ถึงกันอีก
‘ตู้ไม้โบราณ’ที่เขาเจอในเว็บไซต์ขายของในต่าง ประเทศเห็นแล้วหลงรักจนทำทุกวิถีทางที่จะซื้อมาให้ได้ ซึ่งทางเจ้าของเดิมนำมาขายให้กับร้านขายของเก่า แล้วร้านก็นำมาประกาศขายอีกต่อหนึ่ง กว่าเขาจะตกลงราคาซื้อขายกับทางร้านได้ก็ลุ้นเสียแทบแย่ ความจริงแล้วราคาไม่เคยมีผลต่อการตัดสินใจ แพงเท่าไหร่ไม่ว่าหากใจเขาต้องการ เขามันเป็นพวกคลั่งของเก่าของโบราณทุกชนิด
“พวกแกถึงไหนแล้ว ทำอะไรกันอยู่ ฉันคอยตั้งแต่เช้าแล้วนะโว้ย ตู้ไม้โบราณเป็นไงบ้าง”
“ใกล้ถึงแล้วครับลูกพี่ มีปัญหากันนิดหน่อย เด็กมันกลัวตู้โบราณของลูกพี่ พวกมันบอกว่าตู้มีผีเลยไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ผมต้องวิ่งหาคนงานใหม่มาช่วยขนย้าย”
“อยากจะบ้า แค่ตู้ไม้โบราณจากยุโรป เรื่องภูตผีปีศาจเป็นความเชื่อนี่อยู่คู่กับสังคมไทยจริงๆ ดูแลตู้ของฉันให้ดีๆ อย่าให้ชำรุดเสียหาย ของเก่าโบราณอย่างนี้หายากมากด้วย”
“ครับลูกพี่ ไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้วครับ”
ในที่สุดตู้ไม้โบราณก็มาถึงบ้านสวนของพระนายจนได้ พอรถมาจอดตรงหน้าบ้าน พวกคนงานก็กรูกันลงจากรถมาทำการขนย้ายด้วยท่าทีแหยงๆ มองดูก็รู้ว่ากลัวกันจริงๆ
พระนายมองตู้ไม้ที่เขาซื้อมาด้วยราคาสูงลิบลิ่วอย่าง ชื่นชม มันสวยงามสมราคาและการรอคอย…
“ลูกพี่ครับ ตู้ของลูกพี่มีผีนะครับ ตอนที่ผมไปรับของมา บังเอิญเจอเด็กบนเรือบริษัทขนส่ง เด็กมันเล่าเป็นเสียงเดียวกันว่าลูกเรือเจอดีกันทุกคน”
เจริญหันมากระซิบชายหนุ่มเบาๆ ด้วยสีหน้าหวาดกลัวจริงๆ ไม่ได้ล้อเล่น
“เออ...ขอบใจที่บอก แล้วรู้ไหมว่าผีผู้หญิงหรือผู้ชาย”
พระนายแกล้งถามกลับด้วยความระอาพวกกลัวผีขึ้นสมอง
“โธ่! ลูกพี่ ไม่ทราบหรอกครับ ผมไม่ได้ถาม แต่ตู้ลูกพี่มีผีจริงๆ นะครับ พวกบนเรือจับไข้หัวโกร๋นไปตามๆ กันขนาดพวกผมขนของมาพักแค่คืนเดียวยังโดนกันเลย ตู้เปิดออกได้เองงี้ มีเศษผลไม้ตกอยู่ในตู้งี้ ลูกพี่คิดว่ามันปกติหรือครับ ของแปลก, ของมือสอง, ของเก่านี่ คนเขาถือกันมากนะครับ เจ้าของคนเก่าเขาอาจหวงของ ดีไม่ดีเดี๋ยวก็ได้เป็นเรื่องนะครับ”
เจริญทำงานสนิทคุ้นเคยกับพระนายมานานจึงเตือนอย่างเป็นห่วง ก็เขาเจอมากับตัวเอง ถ้าหากประสาทไม่แข็งจริงหรือไม่เห็นแก่คุณพระนาย เขาทิ้งงานหนีไปนานแล้ว ไม่ขนมาส่งจนถึงที่หรอก หรือไม่อย่างนั้นก็ให้เจ้าของไปรับเอาเอง
“เฮ้ย! อย่าปอดแหกไปเลยน่าเจริญ ฉันชอบงานศิลปะ...ตู้นี้มีมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นงานฝีมือประณีตของช่างฝั่งยุโรป กว่าจะข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงฉันได้ มูลค่าทางใจมันมากเหลือเกิน
แกอย่ากลัววิตกไม่เข้าเรื่องไปเลย ผีก็เหมือนกับคนเรานั่นแหละ แค่เขาอยู่คนละมิติและเป็นเพียงพลังงานรูปแบบหนึ่ง...ต่างคนต่างอยู่ อย่ามากวนหรือสร้างความวุ่นวายให้กันก็พอแล้ว ฉันอยู่ได้ ไม่เป็นไร พวกแกก็ไม่ต้องเป็นห่วง”
“ลูกพี่อย่าทำเป็นเล่นไป ผมเป็นห่วงจริงๆ นะครับ ของ ลี้ลับที่เรามองไม่เห็นไม่ได้หมายความว่ามันไม่มี ก็แค่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ พวกศิลปินนี่ติสต์แตกจริงๆ ผมยอมรับเลย...ยังไงก็ตามใจลูกพี่ก็แล้วกันครับ ผมแค่เป็นห่วง อย่างน้อยก็กันไว้ดีกว่าแก้ เราอย่าไปลองของเลยครับ เจอกันมาเยอะแล้ว เดี๋ยวผมจัดตู้เข้าที่เข้าทางให้เรียบร้อยก่อนก็แล้วกัน ไม่อยู่กวนแล้ว พูดไปลูกพี่ก็คงไม่เชื่ออยู่ดี”
“ขอบใจมากเจริญ ฉันมันไม่ใช่พวกกลัวผีก็แค่นั้นเอง ไม่ได้ลองของหรืออะไรหรอก”
พระนายตบไหล่เจริญอย่างขอบใจที่เป็นห่วง เจริญกับลูกน้องสนิทสนมกับเขามานาน เจ้าพวกนี้เป็นลิ่วล้อ วิ่งเล่นกับเขามาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก บ้านหรือก็อยู่ในละแวกเดียวกันทั้งนั้น
“จะให้วางไว้ตรงไหนดีครับลูกพี่”
คนงานที่ช่วยกันขนย้ายถามเมื่อหยุดพักจนหายเหนื่อยกันแล้ว
“เอาเข้าไปในห้องนอนฉันเลย แล้วก็ขอบใจมากที่ช่วยดูแลและจัดการจนเรียบร้อย พวกแกนี่มืออาชีพจริงๆ ทำงานไม่เคยพลาด ขนาดเจอผียังไม่ยอมทิ้งงานเลย หึๆๆ”
“โธ่! ลูกพี่ ขอบคุณที่ยังชมกัน ถ้าหากเป็นของคนอื่นผมทิ้งให้ไปเอาเองแล้วนะ เอ้า...พวกเราระวังของหน่อยวางเรียบร้อยเข้าที่เข้าทางแล้วจะได้กลับกัน ลูกพี่เขาจะได้ทำงานต่อ”
ทุกคนรู้ดีว่าเวลาของพระนายเป็นเงินเป็นทอง ภาพวาดของพระนายมีมูลค่าสูงมาก แล้วถ้าชายหนุ่มวาดตามใบสั่งราคาค่าจ้างก็จะสูงมากขึ้นเป็นหลายเท่าตัว ฉะนั้นหากเงินไม่ถึงก็อดที่จะได้ผลงานของพระนายไปประดับฝาบ้าน
เมื่อทุกคนกลับกันหมดแล้ว พระนายก็เริ่มสำรวจความเสียหายของตู้โบราณ เขากลัวว่าระหว่างการขนส่งตู้มาที่นี่จะทำให้ตู้เกิดความเสียหาย ของเก่าหายากนอกจากจะมีมูลค่าสูงแล้ว ของเก่าพวกนี้ยังมีมูลค่าทางจิตใจสูงมากเช่นกัน แต่ก็อีกนั่นแหละ ของแบบนี้พูดยาก หากคนไม่ชอบก็จะมองไม่เห็นมูลค่าของมัน
เฮ้อ...โล่งอก ยังดีที่ทุกอย่างอยู่ในสภาพสมบูรณ์ 100%พระนายเปิดตู้โบราณแล้วเริ่มย้ายข้าวของเข้าไปเก็บข้างใน ตู้ใบนี้มีขนาดใหญ่มาก มีประตูถึง 6 บาน และประตูแต่ละบานก็แกะสลักลวดลายงดงาม
ย้ายของเข้ามาถึงมุมด้านในสุดของตู้ เขาได้กลิ่นหอมแปลกๆ เหมือนกลิ่นดอกไม้สด อาจจะเป็นกลิ่นของ ดอกอะไรสักชนิดที่ติดตู้มา พระนายทำจมูกฟุดฟิดแล้วยื่นหน้าเข้าไปในตู้ เขาหันซ้ายแลขวา ดมหาที่มาของกลิ่น ยิ่งเข้าใกล้ซอกมุมตู้เขาก็ยิ่งรู้สึกหอมสดชื่น แปลกดีเหมือนกัน คงจะเป็นอย่างที่พวกนั้นว่า สงสัยเขาจะได้นางไม้เป็นของแถมมากับตู้ด้วย
พระนายคิดพร้อมกับยิ้มมุมปากอย่างสบายใจ ดีเหมือนกัน ปกติเขาอยู่คนเดียว มีผีเป็นเพื่อนก็คงสนุกดี น้อยคนนักที่จะโชคดีแบบเขาได้ มีเพื่อนอยู่ร่วมบ้านแล้วงานนี้ หึๆๆ ชายหนุ่มหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“หากมีใครหรืออะไรติดมาด้วยจริงๆ จะอยู่เป็นเพื่อนร่วมบ้านกันก็ได้ แต่มาอยู่แล้วต้องช่วยเหลือกัน อย่าสร้างความวุ่นวาย อย่านิ่งดูดาย จะบอกหวยหรือช่วยทำงานบ้านก็ได้”
พระนายเปรยเสียงดังก่อนจะหัวเราะร่า
“ฮ่าๆๆๆ ท่าจะบ้าแล้วฉัน พูดคนเดียวก็ได้”
วันนี้เขามีความสุขมาก การได้ของที่ต้องการมาไว้ในครอบครองทำให้เขาอารมณ์ดีเหลือประมาณ ก่อนจะเดินหันหลังออกห่างจากตู้ใบนั้น พระนายรู้สึกเหมือนมีลมหายใจมากระทบตรงต้นคอ และเขาก็ได้ยินเสียงถอนหายใจดังข้างหู
“เฮ้อ...ชัดเจนขนาดนี้ ฉันยังคิดอีกหรือว่าผีไม่มีอยู่จริง” สัมผัสที่มากระทบตัวจากสิ่งที่มองไม่เห็นทำให้พระนายหมดความสงสัยว่าสิ่งลี้ลับมีจริงหรือไม่
“เอ่อ...ฉันได้ของแถมมา งานนี้ซื้อตู้แถมผีมาให้ด้วย อืม...เจริญละไอ้พระนาย โชคดีจริงๆ แล้วจะเอายังไงกับไอ้คุณผีที่มากับตู้ไม้โบราณนี้ดี เอาอย่างนี้ก็แล้วกันขอให้คุณผีอยู่ด้วยกันอย่างสงบ อย่าวุ่นวายหรือก่อกวนให้คนอื่นแตกตื่น อย่าทำให้ฉันอารมณ์เสีย อย่าทำตัวไม่ดีเป็นผีนิสัยเสีย ไม่อย่างนั้นจะนิมนต์พระมาไล่ไม่ให้อยู่ด้วยอีก
หากเป็นผีผู้หญิงสวยๆ ละก็ ถ้าโผล่มาพ่อจับปล้ำทำเมียแน่ แล้วอย่าริอ่านมาหลอกฉันละ นอกจากไม่กลัวแล้วยังรำคาญ ถ้าฉันโมโหมากๆ อาจฆ่าผีให้ตายอีกรอบก็ได้ เพราะฉะนั้นอนุญาตให้อยู่ด้วยกันได้ตามสบาย
แต่ต้องอยู่ในโอวาทฉันเท่านั้น ถ้ามีปัญหาหรือไม่โอเค. ตามข้อเสนอที่ฉันพูดไปก็เชิญออกจากบ้านนี้ไปได้เลย”
พระนายพูดเองเออเองแล้วกวาดตามองรอบๆ ด้านในตู้อีกครั้ง เขาพยายามบอกตัวเองว่าไม่สนใจ แต่กระนั้นก็อดที่จะอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ ก่อนที่จะตัดใจปิดประตูตู้ลงเมื่อมองหาเท่าไหร่ก็ไม่เห็นอะไร เขาถอดเสื้อกางเกงแล้วไปหยิบผ้าเช็ดตัว เดินเนื้อตัวเปล่าเปลือยเข้าห้องน้ำไป
สิ่งที่ชายหนุ่มไม่เห็นเมื่อครู่ เริ่มปรากฏเป็นรูปร่างเมื่อเขาเข้าไปอาบน้ำ ภาพที่ปรากฏเป็นสาวน้อยน่ารักวัยใส นัยน์ตาโต จมูกโด่งเชิดแสดงถึงความหัวรั้นของเจ้าตัว แก้มอิ่ม ปากเล็กเป็นรูปกระจับอย่างเด็กแสนงอน ผิวบางใส หน้าตาเหมือนเด็กสาวฝรั่ง หากแต่สวยเหมือนภาพวาด
สาวน้อยกวาดตามองไปรอบๆ ห้องแล้วชูแขนเรียวทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัวก่อนจะบิดซ้ายทีขวาทีอย่างต้องการไล่ความเมื่อยขบ...ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน แต่คงไกลจากบ้านที่เธอเคยอาศัยอยู่มาก สำเนียงภาษาหรือก็ไม่เคยได้ยิน ไม่รู้ว่าเมืองนี้อยู่ส่วนไหนของโลกกันละนี่
‘เฮ้อ...ตอนนี้เธอเหนื่อยมาก อีกทั้งยังหิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังตื่นเต้นที่ได้มาอยู่ในดินแดนใหม่กับการผจญภัยที่สนุกสุดๆ ก่อนหน้านี้เธอแกล้งพวกบนเรือ เล่นเอาพวกนั้นหัวโกร๋นกันไปหมด วิ่งหนีเกือบตกทะเลตายไปก็หลายคน หากไม่คิดว่าเป็นบาปกรรมจะแกล้งให้หนักกว่านั้นอีก’
สาวน้อยนามว่า ‘อาบิเกล’ ที่ติดมากับตู้ไม้โบราณคิด ขณะเดินสำรวจบ้านใหม่ที่เธอมาอยู่อาศัย ตอนนี้เธอหิวสุดๆ ขอหาอะไรใส่ท้องก่อนดีกว่า ขอเข้าไปในครัวหาของกินหน่อยนะคะพี่สุดหล่อขาโหด
เจ้าของบ้านนี้ชื่อพระนาย เขาก็หล่อดี เห็นแล้วแทบละลายกับหุ่นกำยำที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ไหนจะเดินแก้ผ้าโทงๆ ร่อนไปทั่วอย่างไม่อายผีสางนางไม้ เสียดายนิดเดียวตรงที่หน้าดุแล้วก็ดูเถื่อนเหมือนพวกขาโหดไปหน่อย
ทีแรกเธอกะจะแกล้งให้นอนไม่หลับ เอาให้ขน เอ๊ย! ผมร่วง แต่พี่แกดันรู้ทัน เล่นดักคอเบรกเธอเสียหัวทิ่ม ไหนจะขู่ไม่ให้อยู่ร่วมบ้านกันอีกด้วย เชอะ... สาวน้อยแสนซนลงบันไดจากห้องนอนมายังห้องครัวด้านล่าง พี่พระนายคงยังไม่ออกจากห้องน้ำ สบายเธอละงานนี้
“ไหน...เปิดตู้เย็นดูหน่อยซิว่ามีอะไรให้กินบ้าง หิวไส้จะขาดอยู่แล้ว ขอของกินหน่อยนะคะพี่พระนายอ๊าย! หล่อแล้วยังโคตรน่ารักอะ มีของกินเต็มตู้เลย ลาภปากยายอาบิเกลละงานนี้”
ปากสวยพูดงึมงำ ยิ้มกว้างอวดเรียวฟันขาวเหมือนไข่มุกอยู่คนเดียว ก่อนจะหยิบผลไม้และของกินอื่นๆ อีกมากมายออกมาวางบนโต๊ะทานข้าว ระหว่างนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย หญิงสาวหันมองสำรวจไปรอบๆ บ้านอย่างไม่ให้เสียเวลา
อาหารทุกอย่างที่วางบนโต๊ะหายไปในชั่วพริบตาเดียว ก็เธอกินมันจนหมดเกลี้ยง เหลือแค่แอปเปิลสองผลที่เธอนั่งแทะเล่นอยู่ ตอนนี้กินเยอะจนแน่นเหมือนท้องจะแตก
“โอยยย...ทรมานจัง สมน้ำหน้ายายอาบิเกลจอมตะกละ ว่าแต่บ้านพี่พระนายเงียบจังเลย ไม่มีเมียมีลูกหรือไง ออกจะหล่อบาดใจสาวขนาดนั้น แล้วคนร่วมบ้านหายไปไหนกันหมด”
หญิงสาวชะเง้อชะแง้ หันดูทางโน้นทีทางนี้ทีก็ไม่เห็นใคร สาวน้อยอาบิเกลถึงกับส่ายหัวจนผมกระจาย...เงียบเหงาตายเลย แบบนี้จะไปสนุกอะไร
สาวน้อยมองผ่านหน้าต่างห้องครัวออกไปนอกบ้าน ว่างๆ ค่อยออกไปสำรวจดูรอบๆ ดีกว่า ขณะที่นั่งเล่นลอยชายแทะแอปเปิลเพลินๆ อยู่นั้น เสียงประตูห้องน้ำก็เปิดและปิดดังปัง สงสัยพี่พระนายจะอาบน้ำเรียบร้อย คิดแล้วก็อยากอาบน้ำบ้างจัง
เมืองนี้ร้อนอย่างกับทะเลทราย ร้อนจนตัวเธอแดงเหมือนกุ้งต้มไปแล้ว เหนียวตัวไปหมด เหงื่อออกอย่างกับน้ำก๊อก ดีหน่อยที่มีต้นไม้รอบบริเวณบ้าน มองออกไปทางไหนก็เห็นแต่ต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวดูร่มรื่นเย็นสบาย ว่างๆ ต้องออกไปปีนต้นไม้เล่นเสียหน่อย เธอเห็นผ่านตาแวบๆ ว่ามีต้นไม้ออกผลให้เก็บกินหลายชนิด แต่ไปตอนนี้ขอไปอาบน้ำบ้างดีกว่า
อาบิเกลเดินขึ้นไปยังชั้นบน ไม่สนใจเก็บร่องรอยของกินบนโต๊ะที่มีแอปเปิลเหลืออีกลูกวางอยู่ เมื่อขึ้นมาด้านบน อาบิเกลถึงกับยืนตัวแข็ง รีบยกมือปิดตา...คุณพระ! พี่พระนายเดินไปเดินมาไม่ยอมใส่เสื้อผ้า หุ่นล่ำ กล้ามเป็นมัดๆ นี่มันนายแบบ เพลย์บอยชัดๆ พระเจ้าจอร์จ มันยอดจริงๆ
ด้วยสุดห้ามใจในความอยากรู้อาบิเกลอดที่จะลืมตามองลอดง่ามนิ้วไม่ได้ ก็เธอไม่เคยเห็นหุ่นผู้ชายจะๆ คาตาอย่างนี้มาก่อนนี่นา งานนี้ขอเดินชมหน่อยนะคะ หัวใจสาวน้อยสั่นระทึกแล้วเดินวนรอบๆ ตัวพระนายอย่างสำรวจตรวจตราด้วยความอยากรู้ ซิกซ์แพ็กหน้าท้องมันเป็นแบบนี้นี่เอง เคยเห็นของพวกนายแบบในแมกกาซีน เพิ่งจะเคยเห็นของจริงก็วันนี้เอง
ก้นเป็นลอน กล้ามเนื้อจับเป็นก้อนแข็งแรง อ๊าย...อยากลองจับก้นดูบ้างจัง แต่ถ้าลองจับพี่พระนายแกจะรู้ไหม อาบิเกลกัดปากล่างอย่างมันเขี้ยวขณะชั่งใจตัวเอง มือเรียวกำแน่นสั่นระริกด้วยความตื่นเต้นและอยากรู้อยากลองจับเนื้อตัวผู้ชายที่เธอยืนจ้องตาไม่กระพริบอยู่ในตอนนี้ ขอจับดูหน่อยเถอะ เกินห้ามใจจริงๆ
พี่สุดหล่อแกก็มองไม่เห็นสักหน่อย อยากทำอะไรก็ทำเถอะยายอาบิเกล ตอนนี้เป็นโอกาสของเราแล้ว...ตัดสินใจได้อย่างนั้น เธอก็ยื่นมือเรียวไปที่ก้นแน่นตึงไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งทันที จับหมับพร้อมกับบีบสุดแรงไปหนึ่งครั้งอย่างทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แล้วเธอก็โดนตีมือกลับมาอย่างรวดเร็วแถมยังแรงจนเสียงตีดัง ‘เผียะ’
พระนายสะดุ้งโหยงเมื่อรู้สึกมีอะไรมาจับและบีบที่ก้นเต็มแรง ชายหนุ่มหันขวับไปมองแต่ก็ไม่เห็นอะไร ทว่าปฏิกิริยาโต้ตอบกลับไปทันทีคือ การเหวี่ยงมือหนาแข็งแรงปัดไปที่ก้นจนกระทบกับสิ่งที่มองไม่เห็นเต็มแรง...แรงจนได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่น พร้อมกับเสียงร้องที่แสดงถึงความเจ็บปวด
“โอ๊ยยย...” นั่นไงมีเสียงผู้หญิงดังตามมาด้วย
“เธอเป็นใคร”
พระนายหันขวับไปมองรอบตัว ถึงมองไม่เห็นแต่เขาก็รู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างอยู่ร่วมบ้านกับเขาอย่างแน่นอน จากครั้งแรกที่เคยไว้ว่าถ้าทำตัวไม่ดีจะไล่ออกจากบ้านไปนั้น ตอนนั้นเขายังไม่ปักใจเชื่อเต็ม 100% แต่มาตอนนี้เขารู้แน่ชัดยิ่งกว่า 1000% ว่ามีบางอย่างอยู่ร่วมบ้านกับเขาจริงแท้แน่นอน ก็เสียงคมชัดออกขนาดนี้
“ผีทะลึ่ง ฉันขอเตือนเป็นครั้งสุดท้ายนะ ให้เธออยู่ในส่วนของเธอ อย่ามากวนหรือสร้างความวุ่นวายกับฉันเด็ดขาด”
ชายหนุ่มพูดสำทับไปอีกรอบอย่างอารมณ์เสีย ขณะเดินไปแต่งตัวนัยน์ตาคมยังส่ายมองไปทั่วห้องเผื่อจะพบเจออะไรบ้าง อย่างน้อยเห็นเป็นเงาวูบวาบก็ยังดี
ส่วนอาบิเกลถึงกับยืนงง มองตามร่างพี่พระนายไปอย่างเอ๋อๆ นี่เขาไม่มีอารมณ์กลัวสิ่งลี้ลับมองไม่เห็นบ้างเลยหรือไง แกล้งทำเป็นกลัวเธอหน่อยก็ไม่ได้ ใจร้ายที่สุด เธอหลอกคนมาก็เยอะแล้ว น้อยนักที่จะเจอคนแบบพี่พระนาย
งานนี้ยอมไม่ได้แล้ว อาบิเกลต้องจัดชุดใหญ่ให้พี่ พระนายเสียหน่อยแล้ว หึๆๆ...สาวน้อยอาบิเกลคิดอย่าง หมายมาดขณะเดินตามหลังชายหนุ่มไม่ห่าง...ลองหอมแก้ม พี่พระนายดูน่าจะดีชอบหน้าขี้เก๊กของเขาจังเลย ชอบๆๆ
พระนายรู้ตัวดีว่ามีอะไรบางอย่างเดินตามเขาในระยะประชิด นอกจากจะได้กลิ่นหอมสดชื่นเหมือนที่เคยได้กลิ่นที่ติดมากับตู้โบราณแล้ว มิหนำซ้ำแก้มซ้ายยังเหมือนโดนอะไรเย็นๆ นุ่มๆ มากระทบจนแก้มเขาบุ๋มไป นี่เขาเจอเรื่องบ้าเข้าแล้วจริง ๆ ใช่ไหม เฮ้อ...ผีทะลึ่ง เดี๋ยวจับก้น เดี๋ยวหอมแก้มอยากจะบ้าตาย
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ บอกว่าอย่ามากวน ให้ต่างคนต่างอยู่” ชายหนุ่มตะคอกใส่อย่างหัวเสีย หันรีหันขวางมองหา แต่เมื่อมองไม่เห็นอะไรเขาก็ได้แต่ฮึดฮัดทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มก็เดินลงมายังห้องทำงาน กลิ่นหอมของดอกไม้สดก็ยังติดตามมาอีก
พระนายพยายามสงบสติอารมณ์แล้วเริ่มร่างงานที่ค้างคาอยู่ตรงหน้า อาบิเกลมองดูพี่พระนายอย่างสนใจ เธอเพิ่งถึงบางอ้อ พี่แกเป็นพวกศิลปินเขียนภาพนี่เอง มิน่าล่ะ...ถึงว่าทำไมขวางโลกเสียขนาดนี้ เหมือนพวกติสต์แตกที่เธอเคยเห็นในทีวี
สาวน้อยเดินจับนู่นนี่นั่นไปเรื่อย ทำเป็นไม่สนใจ ชายหนุ่มบ้างเหมือนกัน ก็ในเมื่อตอนนี้มีอย่างอื่นที่น่าตื่นเต้นกว่า พี่พระนายนี่นา นอกจากตอนที่พี่พระนายแก้ผ้านั่นละที่เธอไม่ยอมพลาด ต้องตามไปดูแน่ เวลานี้ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องราวแปลกใหม่สำหรับเธอ สิ่งของบางอย่างก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
ขณะเดียวกันพระนายก็เห็นของในห้องลอยขึ้นทีละชิ้นๆ พอชิ้นนั้นวางลงเดี๋ยวชิ้นใหม่ก็ลอยขึ้นอีก เป็นอยู่อย่างนี้จนชักรำคาญเริ่มหมดความอดทนขึ้นมาอีก อะไรนักหนา กวนกันอยู่ได้ บอกให้ต่างคนต่างอยู่ ชายหนุ่มเขวี้ยงดินสอสเก็ตช์ภาพในมือทิ้งอย่างสุดกลั้น
“นี่...ฉันจะทำงาน กรุณาอยู่นิ่งๆ สงบๆ หรือไม่ก็ออกไปจากห้อง อย่ามากวน เข้าใจที่ฉันพูดไหม”
พระนายเสียงดังอย่างหมดความอดทน เขาจ้องเขม็งไปยังจุดที่ของลอยขึ้นลงไม่หยุดอย่างพยายามระงับอารมณ์เต็มที่
“ก็อยากอยู่ด้วย”
ครั้งนี้มีเสียงใสตอบกลับมา พระนายถึงกับนิ่งอึ้ง ไม่คิดว่าจะได้ยินเสียงโต้ตอบกลับมาอย่างนี้ หึๆๆ...งานนี้มาพร้อมกลิ่น เสียง ขาดแต่ภาพเท่านั้น
“เป็นใคร มาจากไหน ชื่ออะไร” เสียงเข้มดุย้อนถามกลับไป
“มากับตู้ไม้โบราณที่คุณซื้อมานั่นละค่ะ ฉันชื่ออาบิเกลแต่ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวฉันเป็นอะไร? พวกมนุษย์อย่างคุณเรียก สิ่งที่มองไม่เห็นแบบฉันว่าอะไรคะ”
“พลังงานอีกรูปแบบหนึ่ง...ว่าแต่มีรูปร่างไหม? ทำไมไม่ปรากฏตัวให้เห็นไปเลยละ”
พระนายตอบอย่างไม่ต้องคิดอะไรมาก
“ทำไมพี่พระนายไม่กลัวผีหน่อยละ ปกติคนทั่วไปจับไข้หัวโกร๋นไปแล้วถ้าหากเจอขนาดนี้ แค่เห็นของย้ายที่ก็จะตายกันเสียให้ได้ เฮอะ...แต่ละคน พี่พระนายทำเสียเซลฟ์เลย ขาดความมั่นใจนะคะแบบนี้ กลัวเค้าหน่อยก็ไม่ได้”
“ฉันไม่กลัวหรอกนะแม่คุณ จะกลัวทำไม เธอก็แค่พลังงานรูปแบบหนึ่ง นอกจากจะไม่กลัวแล้วยังรำคาญเธอมากด้วย และฉันก็มีสิทธิ์ที่จะไล่เธอออกไปจากบ้านถ้าหากเธอยังก่อกวนไม่เลิก ฉันทำงานอยู่ บอกไปแล้วนะตั้งแต่บนห้องว่ามาอยู่ด้วยกันได้ แต่อย่ามาสร้างความเดือดร้อนรำคาญใจให้กัน ไม่เข้าใจหรือไง”
“พูดซะผีเสียความมั่นใจเลยพี่พระนายน่ะ”
“อย่ามากวน ฉันจะทำงาน มันทำให้ไม่มีสมาธิหากเธอมาวนเวียนอยู่อย่างนี้”
“เจ้าค่ะพี่พระนาย ไปเที่ยวข้างนอกดีกว่า ฉันยังไม่เคยมาที่เมืองนี้เลยค่ะ”
อาบิเกลบอกอย่างหมดสนุก ก็พี่พระนายเล่นไม่กลัวเธอเลยนี่นา ไม่เห็นจะสนุกตรงไหน มีดีอย่างเดียวก็ตรงที่หล่อนั่นละ อาบิเกลออกจากห้องทำงานพระนายแล้วไปเที่ยวเล่นข้างนอก