เราสองคนเป็นเหมือนเส้นขนานของกันและกัน
ถ้าเขาเป็นแสงสว่าง....ผมก็คือความมืดมิด
ถ้าเขาคือเทพเจ้าผู้สูงส่ง....ผมก็คือปีศาจที่แสนจะต่ำทราม
ถ้าเขาเป็นภูเขาสูงใหญ่....ผมก็คือก้นทะเลที่แสนจะดำมืด
เขามีชีวิตเพื่อปกป้อง....
ในขณะที่ผมใช้ทั้งชีวิตเพื่อ 'ทำลาย'
เขาเป็นเหมือนเส้นขนาน
ที่ถึงแม้จะอยู่ใกล้ แต่ก็อยู่ฝั่งตรงข้ามกับผม
“ผมคงทนไม่ได้ถ้าเห็นพี่ตายก่อน อย่างน้อยพี่ก็ยังมีที่ให้กลับ แต่ผมไม่มี”
“ถ้าต้องมีใครสักคนมาตาย ผมภาวนาให้คนๆ นั้นเป็นผม ไม่ใช่พี่”
“ที่ที่เราจะอยู่ด้วยกันได้มันไม่ใช่โลกนี้ แต่คือโลกหน้าตะวัน”
“เป็น....ตอนจบที่น่าเศร้าจังเนอะ”
“น่าแปลกนะที่เราพูดเรื่องหดหู่พวกนี้ได้ทั้งที่ยังยิ้มแบบนี้”
“ถ้าโลกหน้าที่นายว่ามีจริง... กลับมาหาพี่อีกนะอีวาน”
“คุณเป็นคนๆ เดียวที่ผมจะปล่อยให้ตายไม่ได้”
“....”
“แค่คุณคนเดียว...ตะวัน” ชื่อของผมถูกเอ่ยออกมาพร้อมกับเรียวปากอุ่นของเขาที่ประทับลงมากับริมฝีปากของผมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้ยอมให้เขาจูบง่ายๆ เหมือนคราวก่อน พยายามที่จะเบือนหน้าหนีแต่เขาก็บังคับให้ผมหันกลับมารับจูบของเขาแต่โดยดี
กลิ่นคาวของเลือดติดอยู่ที่ปลายลิ้นเมื่อผมกัดกับเรียวปากของคนตรงหน้าหนักๆ จนเขาได้แผล ทั้งอย่างนั้นเขาก็ไม่แม้แต่จะสนใจ ยังคงพร่ำจูบผมอยู่อย่างนั้นไม่ยอมปล่อยไปไหน
ปลายลิ้นอุ่นแทรกเข้ามาในโพรงปากของผมอีกครั้ง ก่อนจะกวาดต้อนทุกอย่างราวกับกลัวว่าคนอื่นจะมาแย่งไป จากที่เคยดิ้นรนขัดขืนเขาในตอนแรกกลายเป็นว่าตอนนี้ผมกลับอยู่นิ่งๆ ให้เขาพร่ำจูบแต่โดยดี กลิ่นอายบางอย่างจากเขาทำให้ผมเลิกขัดขืน มันเป็นกลิ่นอายที่ผมรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด เมื่อเห็นว่าผมเลิกขัดขืนสัมผัสหนักๆ ในตอนแรกก็แปรเปลี่ยนไป มันถูกแทนที่ด้วยความอ่อนโยนอย่างที่ผมก็ไม่เข้าใจ
กลิ่นอายที่แสนจะคุ้นเคยนั่นมันทำให้ผมค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงทั้งที่ฝ่ามือของคนตรงหน้ายังคงทาบทับดวงตาผมเอาไว้ ไม่รู้ทำไมผมถึงเลือกที่จะเปิดปากรับจูบของเขาแทนที่จะเบนหน้าหนี จูบแสนหวานที่เขามอบให้ทำเอาผมถอนตัวไม่ได้ เลือกที่จะอยู่นิ่งๆ สูดกลิ่นอายที่ชวนทำให้หัวใจอบอุ่นนี้ในอ้อมกอดของเขา
ผมจำได้แล้วว่าเคยได้กลิ่นอายแบบนี้มาจากที่ไหน...
มันคล้ายกับกลิ่นอายของอีวาน...
Credit photo :: www.pinterest.com