จุดเริ่มต้น ของชีวิตต่างถิ่น เวลานี้เริ่มเปลี่ยนเเปลงไปหลากหลาย เรารู้ได้จากช่วงเวลาที่ผกผันเเปลเปลี่ยน ไอ้หนุ่มเอ่ย อย่าใช้ชีวิตให้สูญเปล่าไปกับเวลาเลย สิ่งหนึ่งที่ดำเนินในจังหวัดสกลนคร อันเเสน สงบเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวเราเองมีความคิดเเปลกเเยก เเม่น้ำโขงอยู่เบิ่งหน้าไม่หยุดนิ่ง เป็นเหมือนกับเรื่องราวเหมือนดั่งสายน้ำไหล ช้าบ้าง เร็วบ้าง สลับซับซ้อนกันไปตามช่วงเวลา " มันก็เหมือนชีวิตคนเรานี่ละหนา "
ตาเฒ่าลุกจากม้านั่งบริเวณริมฝั่งโขง สายตาทอดมองไกล หวนรำลึกถึงยุคสมัยของตนเองจาก กรุงเทพเมืองฟ้าสิวิไร สวยงาม เมืองแห่งความสวยงาม แสงสีแห่งความสดใจ มือขาวเขายังสั่นอยู่ตลอดเวลาสิ่งนี้ยังติดตัวเขาอยู่ เหมือนโรคร้ายที่ใกล้ชิดเขาตลอดเวลาความทรงจำของเขายังคงอยู่ในเมืองหลวงอันสิวิไร การย้ายถิ่นฐานหางานทำเลี้ยงชีวิตตนเอง จากชนบทถิ่นฐานทุระกันดาน เงินเพียง 500 บาทขึ้นรถมาเพื่อแสวงหาโชค สิ่งหนึ่งที่สามารถยืนยังการมีตัวตนของเขาเองคงเป็นแค่จดหมายฉบับเล็กๆจำนวนหนึ่ง “แม่ครับผมอยู่ที่กรุงเทพสบายดีครับ อาหารการกินที่นี่สบาย เหมือนบ้านเรา ผมจะเก็บเงินแล้วรีบส่งไปให้แม่นะครับ น้องเป็นยังไงบ้าง สบายดีรึกันนะครับ” มือที่ดำและหนาของเขาหยุดลงดินสอ วางทิ้งไว้ข้างกระดาษและซองจดหมาย เวลาร่วงเลยมาถึงเวลาทำงาน กระดาษยังคงตั้งไว้ที่โต๊ะ มีโครมไฟตัวเล็กตั้งไว้ขอบโต๊ะ มองดูแล้วเป็นสิ่งที่สวนทางกับยุคสมัยที่การสื่อสารเปลี่ยนแปลงไป การทำงานในเมืองหลวง สำหรับคนความรู้น้อยจบ ป.4 ก็ถือว่าดีมากแล้ว ก็คงมีแค่อาชีพขายแรงยกของแบกของใช่พละกำลังแลกกับเงินไม่กี่บาท ข้าวสาร 1 กระสอบ แบกได้โดยไม่รู้จักความเหนื่อยล้า เจ้าของโรงสีมีข้าวให้กินวันละ 3 มื้อ และค่าจ้างวันละ 50 บาทก็ถือว่าคุ้มค่ามาก
ร่างกายคนเราไม่เหมือนเครื่องจักร หากเจ็บปวดมาคงยากจะแก้ไขให้คงเดิม เวลาผ่านไปได้ 6 เดือน ความเปลี่ยนได้เตือนให้เขารู้ว่าร่างกายเริ่มรับสภาพการทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำได้อีกต่อไป เพื่อนๆที่รู้จักกันมา เคยทำงานด้วยกันทยอยหายห่างกันไป บ้างก็ป่วยตายหายจากไป ตอนค่ำยังเจอหน้าพูดคุยกันอยู่ รุ่งเช้าก็พบว่าไม่หายใจเสียแล้ว บางคนป่วยเป็นไข้บ้างหนีกลับไปทำนา อายุเป็นสิ่งที่จำกัดความสามารถในการทำงานของคน เราไม่สามารถหลีกหนีมันได้ สิ่งนี้ย้ำเตือนให้เขาคิดอยู่ตลอดเวลา คงอีกแค่ 2 ปี คงกลับไปใช่ชีวิตที่บ้านนอก ซื้อที่นาเพิ่มอีกหาควายมาเลี้ยงไถนา ความรู้มีน้อยจะไปทำงานอะไรให้มันหาเงินได้มากขึ้นละ
ภายในเวลา 4 ปี เงินที่หามาได้ส่งกลับบ้านทุกเดือนพร้อมกับจดหมายอีก 1 ซอง เหมือนสิ่งที่ยืนยันการมีตัวตน พร้อมทั้งบอกเล่าเรื่องราวการทำงานความเป็นอยู่ของเขาเอง ความเจ็บปวดทางกายเป็นเรื่องเล็กน้อย ถ้าแรกกับปลาท้องคนในครอบครัวทางกลับกันเพื่อนฝูงที่ทำงานด้วยกันต่างแยกย้ายทยอยกันหายไปทีละคน ด้วยโรคภัยไข้เจ็บที่รุมเล้า เวลาหมุนเปลี่ยนไปความแก่เท่ากับมาเยือนตัวเขา สิ่งนี้เป็นสิ่งที่บั่นทอนกำลังใจของเขา
สิ่งหนึ่งในจิตใจของมนุษย์ในโลก มุ่งหาแต่ความสบาย ความสุขสวยงาม หากมีสิ่งความทุกข์ยากเข้ามาเกี่ยวข้อง ปัจจัยที่เป็นส่วนสำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้น คือ ปัญหาความยากจนในชนบท ความเข้าถึงของการศึกษา ในสังคมของการดิ้นรนเอาตัวลอด ในรุ่งเช้าของวันความเจ็บป่วยก็จู่โจมตัวเขา มันมาเยือนเขาไม่บอกกล่าว แต่กลับเตือนเขาด้วยความเย็นชา ผ่านความปวดร้าวของร่างกาย ที่เข้าไม่สนใจ เขารู้สติอีกครั้งร่างของเขาอยู่บนเตียงสายน้ำเกลือเจาะเข้าเส้นเลือด หมอบอกเข้าว่าหลังของได้รับน้ำหนักจากการแบกของหนักจนเกินไป ร่างกายของแทบจะทำอะไรไม่ได้ เวลาแสวงหา เงิน ทองเลี้ยงดูครอบครัวจบลง พร้อมกับคำบอกเลิกของเจ้าของโรงสีพร้อมกับยื่นเงินให้จำนวนหนึ่ง เขาใช่เวลา 1เดือน รักษาตัวเองวันที่เขาจากบ้านมายาวนานกว่า 5 ปี สิ่งต่างๆที่ชนบทบ้านของเขา คงมีพัฒนาในทางที่ดีขึ้น ถนนหนทางคงดีขึ้น ความเจริญคงเข้ามาสร้างความสวยงามให้จังหวัดมากขึ้น เขาเดินทางกลับบ้านพร้อมความหวังที่สดใสความเป็นอยู่ของบ้านเขาพัฒนามาขึ้น ความคิดทุกสิ่งหยุดอยู่หน้าบ้านของเขาเอง เมื่อเห็นหญิงชรานั่งซาวข้าวอยู่หน้าบ้าน
สิ่งที่สวยงามของเขาคือการได้อยู่กับคนที่รักและบรรยากาศเก่า อำลากรุงเทพเมืองสวรรค์ ช่วงเวลาที่ผ่านมาคือสิ่งใด ความสุขในเมืองกรุงคงเทียบไม่ได้เท่า ชนบทที่เป็นถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเอง เส้นทางนั้นยังคงยาวไกลชีวิตของคนเราก็เช่นกันหายังไม่สิ้นลมหายใจ