อาญาแค้นบำเรอรัก
https://www.google.com/search?q=จางฮยอก&sxsrf
ปราการ อัครเหมันต์บดินษ์
เพราะรักน้องจึงจำต้องทำทุกวิธีทางเพื่อให้คนผิดมารับกรรม ในเมื่อนรกไม่ยอมเปิดประตูรับเธอ เขาจึงเปิดศาลเตี้ยขึ้นและกลายร่างเป็นยมฑูตเสียเองเพื่อลงทัณผู้หญิงสาวร้ายกาจ คนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องเลวร้ายทั้งหมดในชีวิตน้องสาวของเขา
httpswww.pinterest.compin511510470177013414
ทรายแก้ว ชิราธรทราพงษ์
เมื่อความรักที่เคยได้จากหนึ่งเดียวในครอบครัวกำลังจะถูกแบ่งปันให้คนอื่น หญิงสาวผู้มีปมเรื่องครอบครัวในชีวิตจึงทำใจยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ ใครคิดจะมาแย้งความรักจากเธอ เธอจะจองล้างจองผลาญมันให้หมด เอาไม่ให้ผุดให้เกิดกันไปข้าง ทว่าผลของการกระทำของเธอ กลับทำให้ตัวเธอเองมิเหลืออะไรสักอย่างในชีวิต แม้กระทั่งครอบครัวเพียงคนเดียวที่เธอรักสุดหัวใจ
https://www.google.com/search?q=ยุนอึนเฮ&sxsrf
ลลิตา อัครเหมันต์บดินษ์
ความรักทำให้หญิงสาวต่อสู้และฟันฝ่าเพื่อเอาชนะใจน้องสาวของเขาให้ได้ แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายเกลียดเธอเข้ากระดูกดำ ลลิตาก็มิเคยท้อ หวังว่าสักวันจะสามารถพิสูจน์ตัวเองให้น้องสาวของเขายอมรับตัวเธอให้ได้
https://www.google.com/search?biw=911&bih=405&tbm=isch&sxsrf
ทัชพล ชิราธรทราพงษ์
แม้จะเกลียดในสิ่งที่น้องสาวกระทำต่อคนรัก แต่เพื่อปกป้องน้องน้อย ชายหนุ่มจึงเลือกเอาชีวิตตัวเองซื้อหลักฐานชิ้นสำคัญที่สามารถเอาผิดน้องสาวตัวเอง ต่อให้ใครจะว่าเขาเห็นแก่ตัว ทว่ายังไง เลือดมันก็ข้นกว่าน้ำอยู่วันยังค่ำ
"ต้องเลวขนาดไหนถึงกล้าฆ่าหลานในไส้ของตัวเองลง" ปราการเค้นเสียงถาม
"ก็บอกแล้วไงว่ามันเป็นอุบัติเหตุ...ถึงฉันจะเกลียดน้องสาวคุณ แต่ฉันก็ไม่ใจดำฆ่าหลานตัวเองหรอกนะ!"
"ใครจะไปรู้...คนอย่างคุณน่าจะทำได้ทุกอย่าง ใครๆ เขาก็รู้"
"อย่ามาใส่ร้ายฉัน!"
"ถ้าลิตาเป็นอะไรขึ้นมา ผมไม่เอาคุณไว้แน่" ทรายแก้วรับรู้ได้ว่ามันไม่ใช่แค่คำขู่ แต่เขาพูดจริง แววตาที่จงเกลียดจงชังของปราการมองมายังเธอราวกับจะฆ่าเธอให้ตาซะตรงนั้น
"คุณจะคิดยังไงก็เรื่องของคุณ อยากเอาผิดฉัน ก็ไปหาหลักฐานมา คนอย่างฉันไม่ยอมให้ใครมาใส่ความหรอก"
"นอกจากจะไม่รู้สึกรู้สาอะไร คุณมันยังใจดำอำมหิตอีก ถ้าคนที่นอนอยู่ในห้องนั้นเป็นคุณ คงจะดี อาจจะไม่มครเสียใจเลยด้วยซำ้ถ้าเป็นคุณที่เจ็บเจียดตาย!" ปราการชี้นิ้วไปทางห้องฉุนเฉินที่เขาพึ่งจะลากเธอออกมา คำพูดของปราการทำให้ทรายแก้วสะอึก ภาพแววตาของทัชพลที่มองมายังเธออย่างตัดพ้อเสียใจ ประกอบกับภาพที่เธอโดยพลักออกจากอ้อมอกของพี่ชายทำให้ดวงตากลมโตสั่นระริกขึ้นมา
"ทำไมฉันต้องรู้สึกผิดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ!" ทรายแก้วเสียงสั่นถามกลับ เริ่มไม่แน่ใจว่าทัชพลยังจะเข้าใจเธออยู่
"เดี๋ยวก็คงรู้ว่าใครจะผิดใครจะถูก"
"อย่าทำตัวเป็นศาลเตี้ยตัดสินคนอื่นเลย ถึงฉันจะอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง แต่ฉันไม่ได้ผลักลลิตา"
"เก็บคำแก้ตัวของคุณไว้อธิบายในศาลเถอะ ผมฟ้องคุณแน่ รอให้หลักฐานครบเมื่อไรเราค่อยไปคุยกันในศาล ข้อแก้ตัวของคุณอาจเลือกคะแนนสงสารจากลูกขุนได้" เขาแสยะยิ้มเย้อส่งให้
"หลีก! ฉันไม่อย่างพูดกับคุณ ฉันจะไปเยี่ยมลลิตา"
"คุณไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเดินผ่านห้องนั่นด้วยซ้ำ กลับไปซะก่อนที่ผมจะให้ตำรวจมาลากคอคุณเข้าตาราง"
"คิดว่ากลัวหรือไง!" หญิงสาวถามเสียงเครือ เมื่อเหลือบไปเห็นร่างสูงของทัชพลนั่งหน้าซีดหน้าห้องฉุดเฉินแววตากังกัล
"กลับกันเถอะทราย..." อริสราที่ยืนอยยู่ข้างๆ กระตุกเเขนเรียวเบาๆ
"อย่าปล่อยให้ผู้หญิงคนหนีมาเพ่นพ่านแถวนี้ให้ฉันเห็นอีก" ปราการสั่งลูกน้องคนสนิทที่ยืนดูสถานการณ์มิห่างเสียงดัง หวังให้คนด้านหลังได้ยินด้วย ก่อนจะเดินกลับไปยังหน้าห้องฉุนเฉินเพื่อรอฟังอาการคนที่ไม่รู้จะเป็นจะตายในห้องด้วยสีหน้าตึงเคียด
"แกเชื่อฉันใช่มั้ยเดียร์ มันเป็นอุบัติเหตุ" ร่างเล็กหันไปอธิบายน้ำตาคลอเบ้ากับเพื่อนสนิทที่คอยเคียงข้างมิห่าง
"ฉันเชื่อแก ใจเย็นๆ เรากลับไปรอฟังข่าวที่บ้านกัน อยู่ตรงนี้มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น"
"แกว่าพี่ทัชจะเชื่อฉันมั้ย?" แววตาคาดหวังของทรายแก้ว ทำให้อริสราอึดอัก เพราะเธอเองก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าทัชพลยังจะเข้าใจในตัวของทรายแก้วเหมือนต่างก่อนหรือไม่
"ใจเย็นๆ นะทราย พี่ทัชต้องเชื่อแกอยู่แล้ว"
"เขาไม่แม้แต่จะมองหน้าฉันด้วยซ้ำ ฮือๆ" นำ้ตาที่กลั้นไว้ไหลอาบพร้อมเสียงที่ปล่อยโฮออกมา แม้จะพยายามเข้มแข็งต่อให้ศัตรูคู่ปรับเช่นปราการได้ ทว่าความอ่อนแอที่มิเคยปิดบังอริสราได้นั้น กลับแสดงออกมาด้วยเหนื่อยอ่อนใจ