(Rewrite) SF Erase - Ikon Junhoe Jinhwan Hanbin จบแล้ว

Y

(Rewrite)  SF  Erase - Ikon Junhoe Jinhwan Hanbin  จบแล้ว

(Rewrite) SF Erase - Ikon Junhoe Jinhwan Hanbin จบแล้ว

yohun

Y

0
ตอน
18.1K
เข้าชม
119
ถูกใจ
5
ความคิดเห็น
26
เพิ่มลงคลัง

Fiction  :  Erase

Junhoe  Jinhwan  , JunJin

 

AT  :  IKONe  Club

 

09:00 Am.

 

“แม่ง  แดกอย่างนั้น มึงคิดว่าเหล้าเป็นน้ำเปล่าหรอวะจุนฮเว  ไปอดอยากมาจากไหนกูเห็นมึงแดกทุกวัน”

 

เพื่อนๆมักจะถามคูจุนฮเว   หนุ่มหน้าตาดีประจำคณะด้วยคำถามนี้เป็นประจำ

แต่ไม่มีใครหรอกที่จะไม่โดนสวนกลับไปด้วยความหงุดหงิด …

ก็คนมันหงุดหงิด  จะแดกเหล้าเป็นน้ำเปล่าแล้วมันหนักหัวใครวะ

 

แล้วทำไมช่วงนี้ต้องดื่มหนักหนะหรอ

หงุดหงิดมั้ง

 

“เสือกไรวะไอ้ดง”

แค่พูดยังไม่พอคนถามถูกดึงให้ลงมานั่งอยู่บนตักแล้วถูกกอดเอวไว้อย่างถือวิสาสะ

“ทำอะไรวะ  มึงนี่มัน  เมื่อกี้ด่ากูไม่ใช่หรอ”

จุนฮเวเลิกคิ้วขึ้นกวนๆก่อนจะดึงอีกคนมาจูบปากโชว์คนอื่นๆในคลับ

เสียงจ๊วบจ๊าบที่ไม่เบานั้นมันทำให้หลายๆคนหันมามองแล้วหัวเราะขำ

คงจะมีแต่ร่างเล็กตรงเคาท์เตอร์บาร์ล่ะมั้งที่มองอยู่ไกลๆด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก

 

จุนฮเว ผู้ได้รับฉายาคาริสม่าของชมรมดนตรี

ตอนที่เขามาสมัครเข้าชมรมดนตรีของมหาลัยไม่มีรุ่นพี่ในชมรมคนไหนลังเลที่จะรับจุนฮเวเข้ามาอยู่ในชมรม

และเพราะการที่จุนฮเวร้องเพลงเก่ง เล่นดนตรีได้หลายชนิดจึงทำให้เด็กหนุ่มมีเสน่ห์อย่างมากมาย

ไม่ว่าใครก็ชื่นชอบบางคนถึงกับอยากจะเป็นคู่ควงของจุนฮเวขอแค่หนึ่งวันก็ยังดี

แต่พวกเขารู้ดีว่าคนอย่างจุนฮเวไม่เคยจริงจังกับใครและไม่คิดจะผูกมัดตัวเองเลยได้แต่เก็บความคิดนั้นไว้ในใจ

 

 

ในบรรดาคู่ควงทั้งหมดของจุนฮเว  คนที่จุนฮเวให้ความสนใจนานที่สุดคือ คิมดงฮยอก

แต่จะเรียกว่าคู่ควงก็ไม่ได้  “sex friend”  น่าจะถูกที่สุด

ดงฮยอกเพื่อนสมัยประถมของจุนฮเว  คนที่กำลังถูกล่วงล้ำริมฝีปากอยู่ในตอนนี้

“จะแดกปากกูหรอจุนฮเว  อายคนอื่นบ้างเหอะ  กูขอ”

หลังจากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ดงฮยอกก็ฟาดที่หน้าอกร่างสูงและลุกออกจากหน้าตักกว้างทันที

“หึ หึ กูคิดว่ามึงชอบ”

จากท่าทางที่แสดงออกคนภายนอกอาจจะมองว่าสองคนนี้เป็นแฟนกัน    แต่สำหรับเพื่อนในกลุ่มต่างรู้ดีว่ามันก็แค่เซ็กส์เฟรด์น เท่านั้น

ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้...อย่างที่บอก จุนฮเวไม่เคยจริงจังและไม่อยากผูกมัดกับใคร

 

 

ดงฮยอกไม่เหมือนคู่นอนหลายๆคนของจุนฮเว

คงเพราะพ่วงสถานะเพื่อนไว้ด้วย

ไม่แสดงอาการหึงหวง เพราะรู้สถานะตัวเองดี

แต่ทุกอย่างมันก็ต้องมีเงื่อนไข

เงื่อนไขที่ว่าก็คือ  เมื่ออีกฝ่ายมีแฟน ความสัมพันธ์แบบนี้จะหยุดลงทันที

ดงฮยอกคือคนที่จุนฮเวเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้ฟัง

รวมถึงเรื่องแฟนคนแรกของจุนฮเว

 

...คิม จินฮวาน...

ผู้ชายร่างเล็กแต่ดันเป็นรุ่นพี่และเป็นพี่ชายของดงฮยอก เป็นแฟนคนแรกของจุนฮเว

ผู้ชายคนแรกที่จุนฮเวเป็นคนเข้าไปขอคบ

 

 

“ดงฮยอกจะกลับรึยัง?  จะอยู่อีกนานไหม ขี้เกียจรอแล้ว”

หลังจากที่จินฮวานนั่งดื่มได้ซักพักจึงลุกมาถามน้องชาย

ดงฮยอกหันไปมองจินฮวานที่เดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะของตน

คิมจินฮวานกับคิมดงฮยอกเป็นพี่น้องกัน

“พี่จิน  คือเค้ามีนัดกับบาบิฮยองต่ออ่ะ  เค้าไม่ได้บอกตัวหรอ  ขอโทษน้าาาาาาา  ตัวจะกลับแล้วหรอ?”

ดงฮยอกบอกพี่ชายด้วยท่าทีน่ารัก

 

“อีกซักพักหนะ”

 

 

พูดจบจินฮวานก็หันหลังกำลังจะเดินกลับโต๊ะแต่ดันโดนจุนฮเวเรียกไว้

ไม่สิ  ต้องเรียกว่ากระชากถึงจะถูก

 

 

“มีอะไร?”

 

“มาขัดทำไม? หึงรึไง?”

 

จินฮวานมองจุนฮเวด้วยสายตารำคาญแล้วหันกลับไปทางเดิม

การกระทำแบบนั้นกำลังทำให้จุนฮเวเริ่มหงุดหงิดมากขึ้น

 

“ฉันไม่ใช่เด็กหรือคู่ควงของนาย  อย่าสำคัญตัวผิดว่าใครๆก็ต้องตามหึงหวงนายไปหมดทุกคนสิ  และถ้านายกำลังคิดแบบนั้น เว้นฉันไว้คนนึงนะ เพราะฉันไม่รู้สึกอะไรเลยซักนิด ”

 

“หึ  จริงอยู่ที่ว่าตอนนี้นายไม่ได้เป็นเด็กของฉัน แต่ลืมไปแล้วหรอช่วงเวลาที่มีความสุขของเราหนะ

ครั้งนึง  เอ  น่าจะมากกว่านั้นนะเราเคยมีความสุขกันมากแค่ไหน และนายเองก็เคยปรารถนาในตัวฉันนี่นา”

 

จินฮวานจ้องตาจุนฮเวอย่าเครียดแค้นก่อนจะสะบัดแขนตัวเองให้หลุดจากการจับกุมของจุนฮเวแล้วรีบเดินกลับไปที่โต๊ะ

 

Junhoe’s part

 

วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมใช้ชีวิตแบบปกติของผม

สุราเคล้านารี บุรุษก็ดีนะ

คงเพราะช่วงนี้ผมหงุดหงิดล่ะมั้งก็ไอ่ดง ดงฮยอกนั่นแหละ มันไปมีแฟนซะแล้ว

ความอัดอั้นของผมก็เลยไม่ได้ปลดปล่อยซักที  จะไปทำกับคนอื่นก็ทำไม่ลง

ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

 

“ไรมึง กูเห็นนะมึงกระชากแขนพี่กูอ่ะ เสียดายพี่กูอ่ะดิ๊  กูบอกแล้วให้มึงเลิกชั่ว ไม่ฟังกู สม”

“พี่มึงมีไรให้กูเสียดายวะ  มึงเห็นเด็กคนล่าสุดกูรึยัง?”

“พี่จินอูอ่ะนะ  กูขอให้ไอ่ซึงยูนมันมาแหกอกมึง ของรักมันหนิ”

“เค้าเสนอมากูแค่สนอง  กูผิดอะไรวะ”

 

ผมยักไหล่แบบคนไม่แคร์  ก็จะให้ทำยังไง ผมไม่ได้ไปแย่งหรือไปหลอกล่อให้เขาเข้ามาหาผมซักหน่อย  เข้ามาหาเองต่างหาก

 

“แล้วพี่มึงเป็นไงบ้างวะ”

 

ถามเป็นมารยาทเท่านั้นแหละครับ ใครจะไปสนใจ

 

“ถามทำไม  ห่วงหรอ? รึหวง”

“งั้นกูไม่อยากรู้แล้วก็ได้เห็นเหมือนผอมลง เดี๋ยวมึงก็ด่ากูใจดำ”

“เชี่ยยยยย   ปากแข็งจังนะมึง แฟนพี่กูเป็นคนดีมาก  หน้าตาก็ดี ดีกว่ามึงทุกอย่างอ่ะ”

 

ถ้าเขาไปเจอคนที่ดีผมก็ดีใจด้วย

แต่ก็แอบคิดนะว่าถ้าจินฮวานยังตัดใจจากผมไม่ได้ คงจะดี

 

“เงียบเลย  มึงจะกลับพร้อมกูไหม  กูจะแวะไปหาพี่บ๊อบ”

“ยัง มึงไปเถอะ อย่าหักโหมนะ พรุ่งนี้มึงมีเรียน”

“ไอ่เชี่ยยยยยยยยย ”

 

ทิ้งกูอีกแล้ว คงจะเห็นแก่ตัวเกินไปถ้าจะรั้งดงฮยอกไว้กับตัว

ถึงแม้ในคลับจะมีคนมากมาย

แต่ไอ่ความรู้สึกที่เหมือนตัวคนเดียวนี่มันคืออะไรกันนะ

เหงาหรอ? เป็นไปไม่ได้หรอก

 

เพลงในคลับยังคงเปิดคลอไปกับบรรยากาศนั่งดื่มชิวๆ ไม่รู้ว่าฤทธิ์จากแอลกอฮอล์หรือเพราะความต้องการลึกๆในใจตัวเองกันแน่  ผมย้ายตัวเองไปที่เคาท์เตอร์บาร์ข้างๆคนตัวเล็ก  แต่ก็เว้นระยะห่างไว้พอสมควรไม่ให้คนตัวเล็กที่มองมาอึดอัด

“น้องเตกีล่า 3ชอต”

คนตัวเล็กเหลือบหางตามามองที่ผมแวบนึง แต่ก็ยังรักษาหน้าที่ปั้นนิ่ง เฉยชาต่อการมาของผม

 

ไม่มีเสียงพูดคุยระหว่างผมกับจินฮวาน

 

ผมไม่รู้ว่าตัวเล็กกำลังคิดอะไรอยู่แต่ผมกำลังคิดถึงอดีต

อดีตที่มีคนตัวเล็ก

อดีตที่มีแค่เรา

อดีตที่สวยงาม

อดีตที่เกิดขึ้นเพราะผมและจบลงที่ผม

 

 

 

 

คนตัวเล็กในวันนี้ดูเปลี่ยนไปมาก

(Hello) 많이바뀌었네짧아진헤어스타일도
เธอเปลี่ยนไปมากนะ ทั้งทรงผมที่ดูสั้นลง
(Hello) 짙은화장도딴사람같은데
เมคอัพหนาๆนั่น ทำให้เธอเปลี่ยนไปเป็นคนอื่น
(Hello) 이제알아나란사람네겐의미없단걸느껴느껴
ฉันรู้ว่าฉันไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไปแล้ว ฉันรู้ดี

ตัวก็ผอมลง

เซ็กซี่ขึ้น?

ผมทรงใหม่

น่ารักขึ้น

ดูเปลี่ยนไปมากจริงๆ  หรือบางทีอาจจะเป็นผมรึเปล่านะที่ไม่เคยสังเกตคนตัวเล็กดีๆเลยซักครั้ง

คงเพราะไม่ได้เจอกันนานหละมั้ง

 

ย้อนไปตอนที่ผมกับจินฮวานคบกัน สำหรับผมจินฮวานในตอนแรกก็เป็นแค่คนที่ผมบังเอิญถูกใจ

เพราะรูปลักษณ์ภายนอก

แต่เมื่อได้รู้จักมากขึ้น

ผมมั่นใจเลยแหละ  ว่าผมชอบจินฮวาน

ชอบเพราะดวงตาหยีเวลายิ้มมันทำให้ผมเผลอยิ้มไปด้วย

ชอบเพราะเสียงด่าทอเวลาที่ผมหยิบช๊อกโกแลตของเขามากิน

ชอบเพราะสายตามาดร้ายเวลาที่ผมแตะเนื้อต้องตัวน้องชายสุดที่รัก

ชอบเพราะอะไรหลายๆอย่างที่เป็น  คิม จินฮวาน

 

จินฮวานไม่เหมือนคนอื่นที่ผมเคยรู้จัก  เขาไม่พยายามเข้าหาผม ออกแนวเลี่ยงได้เลี่ยงอีกต่างหาก

เพราะอะไรแบบนั้นถึงทำให้ตัวผมโดนดูดเข้าไปหาจินฮวานซะเอง

ผมตามจีบจินฮวานอยู่หนึ่งเดือนเต็มๆ  กว่าผมจะทำให้จินฮวานยอมรับและคบกับผมไม่ใช่เรื่องง่าย

จินฮวานเป็นคนใจแข็งและคงไม่ค่อยชอบผมอยู่ด้วยเรื่องจีบเลยยากเข้าไปอีก

แต่พอคบกันแล้ว

เดือนนึงที่ผมพยายามจีบจินฮวาน  มันคุ้มครับ  คุ้มมากๆสำหรับทุกอย่างที่จินฮวานให้ผม

แต่ก็ใช่ว่าความรักของผมจะสมหวังไปทุกอย่างหรอกนะ

มารตัวแรกเลยก็ไอ่เพื่อนสุดแสบสุดสวาทของผมและยังพ่วงตำแหน่งน้องชายของจินฮวานอีก

ออกโรงกีดกันผมเต็มที่

มันถึงกับมาหาผมที่หอแล้วคุกเข่าขอร้องให้ผมเลิกยุ่งกับพี่มันเพราะกลัวพี่มันเสียใจ

ก็แบบที่คนอื่นเขาพูดกัน  ผมไม่เคยคบใครจริงจัง  ไม่อยากผูกมัดกับใคร

คนที่รู้จักผมดีก็คือ ดงฮยอก

มันรักพี่มันมาก  ผมยังจำคำมั่นที่ผมให้มันในวันนั้นได้อยู่เลย

....กูอยากมีความรัก และตอนนี้กูมั่นใจว่ากูรักพี่มึง ขอเถอะนะดงฮยอกให้กูลองหน่อย ไอ้ความรักที่เขาบอกว่าทำให้มีความสุขมันเป็นยังไง

แค่ซักครั้งนะ กูไม่รู้ว่ากูจะทำให้พี่มึงเสียใจไหม แต่มึงรู้ไว้นะตอนนี้กูรักพี่มึงจริงๆ ...

 

ดงฮยอกเงียบก่อนจะถอนหายใจแล้วบอกผมว่า

...ถ้าพี่กูเสียใจเพราะมึง กูเอามึงตาย จำไว้นะจุนฮเว...

 

ตอนแรกมันก็โกรธผมเป็นฟืนเป็นไฟ  ไม่ใช่แค่คำพูดของผมหรอกที่ทำให้ดงฮยอกเปิดใจยอมรับ คงเป็นเพราะคำพูดของจินฮวาน

 

 

 

สำหรับผมความทรงจำในช่วงเวลาเหล่านั้นชัดเจนและสวยงามเพราะผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการคบกับคนตัวเล็ก

 

                เสียงเจื้อยแจ้วที่ชอบเล่าเรื่องต่างๆในแต่ละวัน

“จุนๆ วันนี้นะเค้ากำลังจะไปหอแต่ว่าตอนออกลิฟต์อ่ะ  ไม่ได้ดูชั้น เลยลงชั้นผิด แค่นั้นไม่พอนะเค้ายังไปไขกุญแจผิดห้องอีกต่างหาก ห้องแทฮยอนมันอยู่ชั้น 6 ห้อง 1622 ใช่ไหมล่าาาา แต่เค้าดัน   ลงชั้น 3 แล้วไปไขห้อง 1322  ทีนี้มีคนเดินมาหยุดหน้าห้อง ละเค้าก็ไขอยู่ไง ไขไม่ได้ซักที คนนั้นเลยบอกเดี๋ยวไขให้นะครับ ละก็ไขได้  หูยยยยย  เค้านี่อายมากอ่ะ เลยหันกลับไปขอโทษใหญ่เลยตลกเนาะ”

 

คนตัวเล็กบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผมฟัง  พร้อมกับหัวเราะเบาๆ  ผมค่อยๆดึงร่างเล็กที่กำลังยืน หันหลังอยู่ให้มานั่งบนตักแล้วรวบกอดคนตัวเล็กอย่าหมั่นเขี้ยว

 

“มัวแต่ก้มเล่นโทรศัพท์อยู่ใช่ไหมหืม  ทำไมถึงเหม่อ?”

“แหะ แหะ ป่าวน้าาาา  เค้าไม่ได้ดูแค่นั้นเอ๊งงง”

“เสียงสูงจังนะตัวเล็ก”

                “รักนะจุนฮเว”

                “ ^___^ ”

ทุกๆวันจินฮวานก็จะมีเรื่องมาเล่าให้ผมฟัง  แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่าอายของตัวเองแต่เขาก็ไม่เคยปิดบังอะไรผมเลย

คงทีแต่ผมหละมั้ง ที่ไม่ค่อยได้พูดอะไร

 

 

                คำพูดปลอบประโลมยามผมท้อ

“ไม่เป็นไรนะจุนฮเว  รายการนี้มีประกวดทุกปี ปีนี้ไม่ได้คงเพราะไม่ใช่ปีของเรา  ปีหน้ามาด้วยกันอีกนะ เดี๋ยวพี่จินคนนี้จะมาเป็นแฟนอีกปี        เลย ^^ ”

                “นี่ๆ คูจุนฮเว  รักนะ”

                “ ^___^ ”

 

                คำพูดยินดีเมื่อผมประสบความสำเร็จ

“ดีใจด้วยนะ  ตัวโตของเค้านี่เก่งที่สุดเลย”

                “จินฮวานรักจุนฮเวนะ”

                “ ^___^ ”

 

 

                คอยดูแลยามไม่สบาย

“เอาอะไรอีกไหมจุน?”

“อยากกินอะไรไหม?”

“ปวดหัวหรือเปล่า?”

“เช็ดตัวให้นะ”

“ดีขึ้นแล้ว ดีจัง”

                 “รักนะ รีบๆหายนะ อยากนอนกอดแล้ว”

                “ ^___^ ”

                ดูแลเรื่องเล็กๆน้อยๆให้กับผม

                “ รักมากนะรู้ไหม ”

                “ ^___^ ”

                จูบเบาๆก่อนนอน

                “รัก”

                “ ^___^ ”

                คำพูดหวานๆที่คอยอ้อน

                “ รักจริงๆเลย ”

                “ ^___^ ”

                คำว่า “รัก” ที่คอยพร่ำบอกผมเสมอ

                คำวา “รัก” ที่มาพร้อมกับกอดที่อบอุ่น

 

ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยบอกรักจินฮวานนะ  รึว่าไม่เคย?

 

너도알잖아원래그런
เธอก็รู้ ว่าฉันเป็นผู้ชายแบบนี้
순진한뒤에선더럽지
พยายามทำตัวใสซื่อ ทั้งๆที่เบื้องหลังมีแต่ความมืดมัว
결혼사이도아닌데무슨사랑
เราไม่เคยคิดจะแต่งงานกันเลยด้วยซ้ำ ความรักอะไรล่ะ
그저내게지난장난감
เธอมันก็เป็นแค่ของเล่นชิ้นเก่าๆนั่นแหละ
밤새마시고여자랑놀고
ฉันดื่มตลอดคืน ปาร์ตี้กับผู้หญิงคนอื่นๆ
아침이되면토해내사진, 기억도
และในตอนเช้าฉันก็จะโยนมันทิ้งไป ทั้งรูปภาพและความทรงจำของเธอ
이렇게버려가겠지
เลือกที่จะลืมเธอไปด้วยวิธีนี้
다른놈과사랑하겠지
แล้วเธอก็จะตกหลุมรักผู้ชายคนอื่นเอง

 

ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเท่าไรนัก  พอคบกันไประยะนึง สันดานเดิมผมมันก็เริ่มออก

เบื่อกับอะไรเดิมๆ

รำคาญเสียงแจ้วๆที่คอยบ่นนู่นนี่นั่นในชีวิตให้ฟัง

ผมเริ่มออกเที่ยวกลางคืนอีกครั้ง ข้อดีของผมก็คือไม่โกหก

เมื่อคนตัวเล็กถามว่าไปไหน ผมก็เลือกที่จะบอกความจริงไป

ไปเที่ยวกับเพื่อน  ไม่รู้จะกลับตอนไหน ไม่ต้องรอนะ

นานวันเข้าจินฮวานก็ไม่เอ่ยถามอะไรผมอีก  ตอนนั้นผมลืมไปเลยว่ามีจินฮวานเป็นแฟน

พอกลับมาถึงห้องก็เกือบเช้า

และจนดงฮยอกมันมาอาละวาดกับผมและพาจินฮวานกลับบ้าน

เป็นครั้งแรกที่ผมกับดงฮยอกทะเลาะกันจริงจัง

 

“มึงใจร้ายมากนะจุนฮเว กูบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำพี่กูเสียใจ”

ดงฮยอกตะโกนด้วยความโกรธ พร้อมพุ่งตรงมาซัดหมัดใส่ผมไม่ยั้งมือ

ผมจะทำอะไรได้  ก็ผมทำผิด

“กูขอโทษ”

“ไอ้เลว มึงบอกใคร บอกกูหรอ เอาตีนกูไปกินเหอะ”

ไม่พูดเปล่าดงฮยอกระดมตีนใส่หน้าท้องผมแบบไม่ยั้งจนผมตัวงอ

“พอแล้วดงฮยอก  กลับบ้านเถอะ พี่อยากกลับแล้ว”

 

จินฮวานพูดขึ้น

ไม่มีน้ำตา

ไม่มีแววตาสดใส

ผมจ้องลึกลงไปในดวงตาที่ผมเคยหลงใหล  มองใบหน้าเล็กที่ซูบผอมลงอย่าเห็นได้ชัด

เพราะผม เพราะผมใช่ไหมที่ทำให้คนตัวเล็กเป็นแบบนี้

ผมไม่กล้าสบตากับคนตัวเล็กอีกจึงเบนสายตามองที่พื้น

ขอโทษ

ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากหลังจากที่ทั้งสองเดินออกไปแล้ว

ในตอนนั้นผมคิดแค่ว่าจะต้องทำยังไงดี

หรือผมอาจจะไม่ได้รักจินฮวานแล้ว

แต่ผมก็ยังไม่อยากปล่อยจินฮวานไป

ผูกพันธ์  ?

ผมก็ได้แต่ถามตัวเอง

 

ผ่านไปอาทิตย์นึงที่ในชีวิตผมไม่มีคิม จินฮวาน

เหงา

คิดถึง

รู้สึกผิด

คือความรู้สึกที่ผมกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้

วันนี้ผมก็เลยเลือกที่จะมาคุยกับจินฮวาน มาอธิบายทุกๆอย่างให้จินฮวานฟัง

มาขอโทษ  และบอกว่าผมคิดถึงเขาขนาดไหน

ผมขับรถมาเรื่อยๆจนถึงจุดหมายปลายทางคือบ้านของคนตัวเล็กที่ผมคิดถึง  ยังไม่ทันที่ผมจะลงจากรถผมก็เห็นร่างเล็กที่ผมคุ้นเคยกำลังจูบ

จูบกับผู้ชายอีกคน

จูบโดยที่คนตัวเล็กเป็นคนคุมเกม

ผมเหมือนโดนเข็มนับพันเล่มพุ่งมาแทงที่หัวใจ  มันเจ็บจี๊ดๆ  ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมไอ้ดงฮยอกมันถึงหายโกรธผมง่าย

คนตัวเล็กที่ดูไร้เดียงสายามที่ผมกอด

ทำไมถึงต่างจากคนที่ผมเห็นในตอนนี้จัง

หลอกลวง

ทรยศ

คำไหนถึงจะเหมาะกับสิ่งที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้หรอ

ผมไม่อาจฝืนตัวเองให้เห็นภาพนั้นได้นาน  ผมค่อยๆขับรถออกมาจากที่ตรงนั้น

เอาน่า  ก็คิดว่าหายกันไง

ผมยอมรับเวลาที่ผมออกไปเที่ยวกับเพื่อนเรื่องเหล้ากับเซ็กส์มันเป็นเรื่องคู่กัน

ก็เลยมีบ้าง

เราทั้งคู่ก็คงจะรู้สึกเหมือนกันหละมั้ง  ผมคงจะไปว่าอะไรเขามากไม่ได้

 

แล้วเรื่องก็มาถึงตอนจบ

ผมนัดจินฮวานออกมาที่หน้าบ้านเพื่อมาคุยกัน ผมเลือกที่จะจบให้มันชัดเจน

“ไง  ไม่เจอกันนานเลยนะ”

เป็นผมที่เอ่ยทักร่างเล็กก่อน  หลังจากที่ร่างเล็กขึ้นมาบนรถแล้วนั่งเงียบอยู่นาน

“พูดธุระของนายมา”

ร่างเล็กไม่แม้แต่จะหันมาทางผม

“ดูเหมือนนายจะมีความสุขดี ”

“อืม ธุระมีแค่นี้ใช่ไหม”

พูดจบร่างเล็กก็ทำท่าจะเปิดประตูรถออกไป

“เรื่องของเราหนะ”

“เอาสิ  เรื่องถนัดนายหนิ  พูดออกมาสิ”

ร่างเล็กพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ  สายตาแปรเปลี่ยนเป็นเจ็บปวดแต่เพียงแค่แว่บเดียวเท่านั้น ก่อนที่จTกลายเป็นสายตาเย็นชาเหมือนเดิม

ทำไมถึงทำท่าทีแบบนั้นหละ

เจ็บปวดกับอะไรหรอ

“เลิกกันเถอะ”

“อืม”

ร่างเล็กตอบผมสั้นๆ ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วเดินเข้าบ้านไปทันที

 

“ขอโทษ”

 

อีกครั้งกับการขอโทษแล้วไม่มีผู้ฟัง  ถ้าก่อนหน้านี้ผมแคร์จินฮวานซักนิด  ห้ามใจตัวเองให้มากๆ เรื่องของผมกับจินฮวานอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้

ทุกอย่างมันเกิดที่ผม

มันเป็นเพราะผม

ผมไม่เคยบอกเขาเลยว่าผมรักเขามากแค่ไหน

ทำไมถึงพูดว่าเลิกง่ายๆ ทั้งๆที่ไม่เคยพูดคำว่ารัก

ไม่ว่าเรื่องที่ผมเห็นจินฮวานจูบกับคนอื่นหรือเรื่องที่จินฮวานไม่ได้เป็นในแบบที่ผมคิด

ผมไม่มีทางรู้ความจริง

ในเมื่อผมเลือกที่จะตัดสินมันด้วย

ตัวของผมเอง

ขอบคุณที่ดูแลมาตลอด

ขอบคุณที่คอยเป็นกำลังใจให้กัน

ขอบคุณทุกจูบหวานๆที่ให้ผม

ขอบคุณอ้อมกอดที่อบอุ่น

ขอบคุณที่มารัก คูจุนฮเว

ขอบคุณนะ คิม จินฮวาน

 

หลังจากวันนั้นผมก็เริ่มใช้ชีวิตปกติ   ชีวิตที่ไม่มีคิม จินฮวาน

หลังจากที่ดงฮยอกหายโกรธเราก็กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

ส่วนจินฮวานผมรู้จากดงฮยอกแค่ว่าจินฮวานย้ายไปอยู่กับพ่อที่ต่างประเทศ

 

ไม่ได้เจอกันอีกเลย

 

จนวันนี้

 

ได้พบอีกครั้ง

สบายดีไหม  แค่คำทักทายธรรมดาผมยังไม่มีความกล้าที่จะพูดมันออกมา

คงมีแต่เรื่องเลวๆนั่นแหละที่ผมเลือกที่จะพูด

ผมควรทำยังไงดี?

 

(Bye bye) 몰래따라걷다
เดินผ่านเธอมาอย่างเงียบๆ
까마득한뒷모습에
ขณะที่แผ่นหลังเธอค่อยๆกลืนไปกับความมืด
멀어질수록니가생각나
ระยะห่างที่มีมากขึ้น ความคิดถึงที่ยิ่งทวีคูณ
나도모르게 why 니가자꾸그리워 bye
โดยที่ไม่รู้เลยว่าทำไม ฉันถึงยังคิดถึงเธอเหลือเกิน

End  Junhoe’s part

 

AT  :  IKONe  Club

 

09:00 Am.

 

Jinhwan ‘s part

 

ผมเดินเข้ามาในคลับที่น้องชายตัวดีของผมมา

“กี่ที่ครับ”

“ที่เดียวครับ”

คลับหรูกลางกรุงโซล  ที่ๆผมไม่ชอบที่จะเข้ามาเท่าไร ผมมองหาน้องชายตัวดีที่แอบหนีที่บ้านมาเที่ยว จนแม่สั่งให้ผมมาคอยรับกลับบ้าน

เมื่อกวาดสายตาไปรอบๆก็ไปสะดุดเข้ากับร่างสูงของใครบางคนที่คุ้นเคย  กำลังโอบกอดน้องชายผมอย่างถือวิสาสะ

“คิม ดงฮยอก ไอ่น้องตัวดี”

ผมเดินผ่านโต๊ะของน้องชายโดยไม่หันไปมองอีกคนที่ร่วมโต๊ะอยู่กับดงฮยอกเดินตามบริกรไปยังเคาท์เตอร์บาร์ซึ่งไม่ไกลจากอีกโต๊ะมากนัก

และเมื่อผมมองไปยังโต๊ะน้องชายสายตาของผมก็ดันไปหยุดอยู่ที่สองร่างที่กำลังจูบกันอย่างเร่าร้อน

ดงฮยอก  จุนฮเว

 

“ดงฮยอกจะกลับรึยัง? จะอยู่อีกนานไหม ขี้เกียจรอแล้ว”

 

หลังจากนั่งดื่มคนเดียวมาได้ซักพักผมจึงลุกมาถามน้องชาย

ดงฮยอกหันไปมองผมที่เดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะของตน

ย้อนไปเมื่อตอนที่ผมเจอจุนฮเวครั้งแรกก็เพราะดงฮยอกชอบร้องเพลงถึงได้มาสมัครชมรมดนตรีซึ่งเป็นชมรมเดียวกับจุนฮเวและผมก็มีหน้าที่ รับ-ส่ง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ได้พบกับจุนฮเว

ครั้งแรกที่ได้เจอจุนฮเว  ผมก็รู้สึกหมั่นไส้นิดๆแล้ว

 

...ขี้เก๊กชะมัด...

นั่นคือความรู้สึกแรกของผมล่ะ

เด็กอะไรชอบเดินเข้าบ้านคนอื่นโดยไม่ขออนุญาต  ไหนจะชอบหยิบช๊อคโกแลตของผมไปกินหน้าตาเฉย

และอีกอย่างที่ไม่พอใจก็คือ  ทำไมชอบถึงเนื้อถึงตัวดงฮยอกนักนะ

ข้อหลังดงฮยอกอธิบายให้ฟังว่าดงฮยอกกับจุนฮเวเป็นเพื่อนกันมานาน จึงเห็นเป็นเรื่องปกติ

แต่ขนาดผมอยู่เมืองนอกมานาน ยังมองว่าแปลกเลย

แล้วตอนนี้การที่ผมเดินมาที่โต๊ะจุนฮเวก็ไม่ใช่เพราะใครทั้งนั้น...หมั่นไส้ล้วนๆ

ถึงจะเห็นฉากจูบเร่าร้อนเมื่อกี้ไปเต็มๆ  แต่จะทำอะไรได้

ก็เลิกกันไปแล้วหนิ

 

“พี่จิน  คือเค้ามีนัดกับบาบิฮยองต่ออ่ะ  เค้าไม่ได้บอกตัวหรอ  ขอโทษน้าาาาาาา  ตัวจะกลับแล้วหรอ?”

ดงฮยอกบอกผมด้วยท่าทีน่ารัก

ตลอดสิน่า

 

“อีกซักพักหนะ”

 

พูดจบผมก็หันหลังกำลังจะเดินกลับโต๊ะแต่ดันโดนจุนฮเวเรียกไว้..ไม่สิ

ต้องเรียกว่ากระชากถึงจะถูก

 

“มีอะไร?”

ผมถามเสียงขุ่น

 

“มาขัดทำไม? หึงรึไง?”

ผมมองจุนฮเวด้วยสายตารำคาญ

 

“ฉันไม่ใช่เด็กหรือคู่ควงของนาย  อย่าสำคัญตัวผิดว่าใครๆก็ต้องตามหึงหวงนายไปหมดทุกคนสิ  ถ้านายกำลังคิดแบบนั้น เว้นฉันไว้คนนึงนะ เพราะฉันไม่รู้สึกอะไรซักนิด ”

ทำไมนะ คนๆนี้กำลังต้องการอะไรจากผมหรอ   ผมบอกได้เลยว่าตอนนี้ผมไม่ได้รักจุนฮเวอีกแล้ว

คนใจร้าย

 

“หึ  จริงอยู่ที่ว่าตอนนี้นายไม่ได้เป็นเด็กของฉัน แต่ลืมไปแล้วหรอช่วงเวลาที่มีความสุขของเราหนะ   ครั้งนึง  เอน่าจะมากกว่านั้นนะ เราเคยมีความสุขกันมากแค่ไหน และนายเองก็เคยปารถนาในตัวฉันนี่นา”

จะตอกย้ำให้มันได้อะไร  ทำแบบนี้ทำไมกัน

ผมจ้องตาจุนฮเวอย่าเครียดแค้นก่อนจะสะบัดแขนตัวเองให้หลุดจากการจับกุมของจุนฮเวแล้วรีบเดินกลับไปที่โต๊ะ

 

มันไม่ใช่เรื่องน่าดีใจซักนิด...มันเป็นความผิดพลาดที่สุดในชีวิตของผมต่างหาก

 

ทุกทีเลยที่เริ่มเถียงกัน

ก็จะโดนจุนฮเวพูดเรื่องแบบนี้ใส่มาตลอด

ผมไม่ใช่เด็กของจุนฮเวเมื่อไหร่จะเลิกขุดคุ้ยเรื่องนี้ซักทีก็ไม่รู้

จริงอยู่ว่าเรื่องที่อีกฝ่ายพูดมา  ไม่ใช่เรื่องโกหก

แต่ก็น่าจะปล่อยให้มันผ่านไปได้แล้ว เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งนาน

นานซะจนฉันและนายก็ต่างมีคนใหม่ไปแล้ว

 

 

“รับอะไรดีครับ”

 

เสียงใสของบริกรถามขึ้นขัดสงครามประสาทของผมกับคนรักเก่าอย่างจุนฮเว

 

“ขอวิสกี้ครับ”

“รอสักครู่นะครับ”

 

ผมยิ้มให้กับบริกรแล้วหันไปสนใจกับบรรยากาศในร้าน

การกลับมาเกาหลีครั้งนี้   หวังว่าจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้นบ้างนะ

ผมดื่มด่ำกับบรรยากาศในคลับไปเรื่อยๆ    คิดถึงจังนะเกาหลี

หลังจากที่ผมกำลังเพลิดเพลินกับบรรยากาศในร้าน

รู้ตัวอีกทีก็ตอนร่างสูงของจุนฮเวย้ายมานั่งที่เคาท์เตอร์บาร์ข้างๆ

 

“น้องเตกีล่า 3ชอต”

 

ผมเหลือบหางตาไปมองที่ร่างสูงแวบนึง แต่ก็ยังรักษาหน้าไว้เหมือนเดิม

ทำไมใจผมถึงเต้นแรงขนาดนี้นะ

ไม่มีเสียงพูดคุยระหว่างผมและจุนฮเว

ผมไม่รู้ว่าร่างสูงกำลังคิดอะไรอยู่แต่ผมกำลังคิดถึงอดีต

 

อดีตที่มีแต่ความเจ็บปวด

อดีตที่ผิดพลาด

อดีตที่โหดร้าย

อดีตที่ผมอยากจะลบมันไปจากชีวิตที่สุด

 

ร่างสูงในวันนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเท่าไรจากครั้งล่าสุดที่เจอกัน

มีความสุขดีสินะ

คงไม่ได้เจอกันนานหละมั้ง

 

ย้อนไปตอนที่ผมกับจุนฮเวคบกัน สำหรับผมจุนฮเวคือคนที่มีเสน่ห์มากคนนึง  มีความสามารถรอบด้านเป็นคนที่ผมภูมิใจทุกครั้งที่มีคนถามว่า เป็นแฟนกัน?

ทั้งที่ตอนแรกผมไม่ค่อยชอบหน้าเขาเท่าไรและเมื่อจุนฮเวมาสารภาพว่าชอบผม ตอนแรกผมก็ปฏิเสธไป

จนเจ้าตัวตามตื๊อ ผมรู้ว่าจุนฮเวไม่เคยทำแบบนี้กับใคร นั่นแหละมั้งที่ทำให้ผมใจอ่อน

เหตุการณ์ที่เขาขอผมเป็นแฟนผมจำได้ดี

11/o7/2014

งาน open house มหาลัย

ตึก ตึก ตึก

เสียงผมและดงฮยอกวิ่งมาหน้าเวทีของชมรมดนตรี เพื่อดูการแสดงของจุนฮเว

“เสียดาย  ถ้าไม่เป็นหวัดนะ  ได้ขึ้นโชว์แล้ว”

เสียงดงฮยอกโอดครวญอยู่ข้างๆผม

“แล้วทำไมต้องลากพี่มาล่ะ”

“ก็ไอ่บ้าจุนฮเวอ่ะดิ บอกต้องลากพี่มาให้ได้”

จุนฮเวจะมีธุระอะไรกับเราได้นะ

“มีอะไรงั้นหรอ”

“ไม่รู้อ่ะ พี่ก็รอดูดิ”

“ขอบคุณผู้ชมทุกท่านนะครับที่แวะมารับชมวงดนตรีของชมรมเรา”

“ต่อไปเพลงสุดท้ายของวันนี้แล้วนะครับ”

 

ร่างสูงอยู่ในชุดมาสคอตตุ๊กตาหมีหอบดอกไม้ ลูกโป่ง และตะกร้าที่มีช๊อกโกแลตยี่ห้อที่ผมชอบเอ่ย ขึ้นบนเวที

 

“คิดว่ามันน่ารักรึไงนะ”

 

เสียงดงฮยอกยังคงบ่นร่างสูงอยู่ข้างผมเบาๆ

ก็น่ารักดีนะ

 

“ผมอยากมอบเพลงๆนี้ให้กับคนคนนึงครับ  ผมไม่รู้ว่าหลังจากฟังเพลงนี้แล้วเรื่องของเราจะเป็น ยังไง  แต่ผมก็อยากทำให้เขาเห็นว่าผมจริงจังแค่ไหน  จินฮวาน  ช่วยฟังเพลงนี้จนจบด้วยนะครับ”

“เห้ยยยยย   ตัวนี่มันอะไรทำไมจุนฮเวต้องร้องเพลงให้ตัวด้วย  บอกเค้ามานะ”

 

นั่นไง  จุนฮเวนะจุนฮเว  ที่จริงผมทำข้อตกลงกับจุนฮเวไว้นิดหน่อยว่าไม่ให้บอกดงฮยอกเรื่องที่   ตามจีบผมอยู่

ผมก็ผู้ชายนะครับ  มันน่าอายออกที่จะประกาศให้น้องรู้ว่ามีผู้ชายมาตามจีบอยู่

ผมคงต้องอธิบายยาวแน่ๆ  ไอ่เด็กแสบ

 

“ขอฟังเพลงก่อนได้ไหม  แล้วจะเล่าให้ฟัง”

“อื้ม”

ผมตอบไปแค่นั้นน้องชายตัวดีของผมมันก็ทำหน้างอซะแล้ว

 

Oh, her eyes, her eyes, make the stars look like they're not shining

โอ้ สายตาคู่นั้นของเธอ  ช่างงดงามยิ่งกว่าดวงดาวบนท้องฟ้า

Her hair, her hair, falls perfectly without her trying

She's so beautiful, and I tell her every day

เธอสวยที่สุดเลย  ฉันพร่ำบอกกับเธอทุกวัน

Yeah, I know, I know, when I compliment her she won't believe me

ฉันรู้  เมื่อฉันชื่นชมไป  เธอมักจะไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันบอก

And it's so, it's so, sad to think that she don't see what I see

และมันช่างน่าเศร้า  ที่เธอไม่เห็น(ตัวเธอเอง)ในแบบที่ฉันเห็น

But every time she asks me do I look ok, I say

แต่ทุกครั้งที่เธอถามว่า "ชั้นดูดีรึยังคะ"  ฉันบอกเธอได้เลย

When I see your face, there's not a thing that I would change

ทุกครั้งที่ฉันเห็นใบหน้าของเธอ  ฉันไม่เคยต้องการให้เธอเปลี่ยน

Because you're amazing, just the way you are

นั่นเพราะว่าเธอดูดีที่สุดอยู่แล้ว  ในแบบที่เธอเป็น

And when you smile, the whole world stops and stares for a while

และเมื่อเธอยิ้ม  โลกทั้งใบก็หยุดหมุนและจ้องมองไปที่เธอ

Because girl you're amazing, just the way you are

เพราะเธอพิเศษที่สุด  ในแบบที่เธอเป็น

Her lips, her lips, I could kiss them all day if she let me

ริมฝีปากเธอนั้น  ฉันจุมพิตได้ทั้งวันถ้าเธอยอม(ให้จุ๊บ)

Her laugh, her laugh, she hates but I think it's so sexy

เสียงหัวเราะของเธอ  เธอไม่ชอบมันแต่ฉันคิดว่าเป็นเสียงที่มีเสน่ห์มากๆ

She's so beautiful, and I tell her every day

เธอสวยที่สุดเลย  ฉันพร่ำบอกกับเธอทุกวัน

Because girl you're amazing, just the way you are

เพราะที่รัก  เธอเป็นคนพิเศษอยู่แล้ว  ในแบบที่เธอเป็น...

 

 

นายมันคนเห็นแก่ตัวจุนฮเว

 

ผมเคยคิดนะว่าถ้าผมทนได้มากกว่านั้น    วันนี้เราอาจจะยังคบกันอยู่ก็ได้

 

ผมก็แค่คิดถึงเท่านั้น

แค่คิดถึงมากเท่านั้นเอง

 

1เดือนเต็มๆที่จุนฮเวพยายามตามตื๊อ  ตามจีบผม  สำหรับผมเพราะมันเป็นเรื่องที่ต้องคิดนานนี่นา

ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบจุนฮเวหรอกนะ

แต่อะไรหลายๆอย่างที่ทำให้ผม  ไม่มั่นใจ

ใครจะไปอยากเสียใจ

ใครจะอยากเริ่มต้นใหม่บ่อยๆ

แต่สุดท้าย

 

ผมก็ยอมคบกับจุนฮเว

เพราะเพลงแสนหวานเพลงนั้น

เพราะแววตาที่มองมาอย่างสื่อความหมาย

เพราะคนนั้นคือจุนฮเว

 

ในตอนนั้นผมได้แต่คิดว่าจะไม่ทำให้จุนฮแวผิดหวังที่เค้าเลือกผม

ผมก็ต้องเป็นแฟนที่ดีของจุนฮเว

แต่ก็ใช่ว่าความรักของผมกับจุนฮเวจะไม่มีอุปสรรคเลย

อุปสรรคใหญ่ของผมก็คือน้องชายของผมเอง

จุนฮเวบอกผมว่าดงฮยอกโกรธมากและไปหาที่หอคุกเข่าขอร้องให้จุนฮเวเลิกยุ่งกับผม

ผมคงต้องอธิบายให้น้องเข้าใจ

ผมก็หนักใจเรื่องนี้นะ

ผมรักจุนฮเวหวังว่าดงฮยอกจะเข้าใจ

 

“ดงฮยอก”

 

ผมเรียกน้องเบาๆในขณะที่เจ้าตัวกำลังสนใจกับสิ่งที่อยู่ในทีวี

“ถ้าพี่จะมาพูดเรื่องจุนฮเว  อย่าเลย  ยังไงผมก็ไม่หยุดหรอก ผมจะกีดกันให้ถึงที่สุด”

 

สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้ผมอึ้งนิดๆ ก่อนที่จะเดินไปนั่งที่โซฟาใกล้ๆน้อง

 

“ทำไมล่ะ หืม”

“เพราะผมรู้จักมันดีที่สุดไง”

ดงฮยอกพูดแต่ก็ยังไม่หันหน้ามามองผม

 

“ตัวรู้ไหม  อยู่คนเดียวมันเหงานะ  ตลอด1เดือนที่ผ่านมา ชีวิตเค้าไม่เหงาเลย เค้ารู้สึกเหมือนตัวเองมีค่า มีคนมารัก มาสนใจ  จริงๆการกลับมาเกาหลีก็ดีนะทั้งได้เจอแม่เจอตัว แต่รู้ไหมพี่รู้สึกเหมือนเขา คือคนที่พี่ตามหา  ขอให้พี่ได้ลองได้ไหมดงฮยอก ลองที่จะรักใครซักคน  พี่ไม่รู้หรอกว่าต่อไปมันจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้เขาคือความสุขของพี่”

 

หลังจากผมพูดจบดงฮยอกก็เงียบไป

“รู้ใช่ไหมว่าเค้ารักตัวมาก  ถ้าตัวลองแล้วตัวเสียใจ มันไม่ใช่แบบที่ตัวหวังไว้  กลับมานะ เค้าจะไปรับตัวเอง”

“ขอบคุณะดงฮยอก”

 

ผมพูดพร้อมคว้าไอ่น้องตัวดีมากอด

ผมรู้ว่าดงฮยอกรักและห่วงผม

โชคดีจังที่มีน้องแบบนาย

 

สำหรับผมความทรงจำในช่วงเวลาเหล่านั้นชัดเจนและสวยงามเพราะผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจาDการคบกับจุนฮเว

 

                ผมมักชอบเล่าเรื่องต่างๆในแต่ละวันให้จุนฮเวฟัง

“จุนๆ วันนี้นะเค้ากำลังจะไปหอแต่ว่าตอนออกลิฟต์อ่ะ  ไม่ได้ดูชั้น เลยลงชั้นผิด แค่นั้นไม่พอนะ เค้ายังไปไขกุญแจผิดห้องอีกต่างหาก ห้องแทฮยอนมันอยู่ชั้น 6 ห้อง 1622 ใช่ไหมล่าาาา แต่เค้าดัน   ลงชั้น 3 แล้วไปไขห้อง 1322  ทีนี้มีคนเดินมาหยุดหน้าห้อง ละเค้าก็ไขอยู่ไง ไขไม่ได้ซักที คนนั้น  เลยบอก เดี๋ยวไขให้นะครับ ละก็ไขได้  หูยยยยย  เค้านี่อายมากอ่ะ เลยหันกลับไปขอโทษใหญ่เลยตลกเนาะ”

ผมบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้จุนฮเวฟัง  พร้อมกับหัวเราะเบาๆ  จุนฮเวค่อยๆดึงผมที่กำลังยืนหั หลังอยู่ให้มานั่งบนตักแล้วรวบกอด

ผมชอบอ้อมกอดของจุนฮเวที่สุดเลย

“มัวแต่ก้มเล่นโทรศัพท์อยู่ใช่ไหมหืม  ทำไมถึงเหม่อ?”

“แหะ แหะ ป่าวน้าาาา  เค้าไม่ได้ดูแค่นั้นเอ๊งงง”

“เสียงสูงจังนะตัวเล็ก”

                “รักนะจุนฮเว”

                 “ ^___^ ”

 

                พูดอะไรบ้างสิ

 

ทุกๆวันผมก็จะมีเรื่องมาเล่าให้จุนฮเวฟัง  แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่าอายของตัวเอง

ผมขอแค่ให้เค้ายิ้มหัวเราะกับเรื่องที่ผมเล่าก็พอแล้ว

แม้เขาจะไม่ค่อยพูดอะไรให้ผมฟังก็เถอะ

 

                คำพูดปลอบประโลมยามที่จุนฮเวท้อ

“ไม่เป็นไรนะจุนฮเว  รายการนี้มีประกวดทุกปี ปีนี้ไม่ได้คงเพราะไม่ใช่ปีของเรา  ปีหน้ามาด้วยกันอีกนะ เดี๋ยวพี่จินคนนี้จะมาเป็นแฟนอีกปีเลย ^^ ”

ผมไม่ชอบเลยเวลาที่จุนฮเวทำหน้าเศร้า

จะทำให้ยิ้มยังไงนะ นั่นคือสิ่งที่ผมคิด

                “นี่ๆ คูจุนฮเว  รักนะ”

                 “ ^___^ ”

                นายคงเหนื่อยสินะ ไม่เป็นไรๆ ยิ้มก็ดีแล้วล่ะ

 

                คำพูดยินดีเมื่อผมประสบความสำเร็จ

“ดีใจด้วยนะ  ตัวโตของเค้านี่เก่งที่สุดเลย”

                “จินฮวานรักจุนฮเวนะ”

                “ ^___^ ”

                เพราะไม่สบายล่ะมั้งง

 

                 คอยดูแลยามไม่สบาย

“เอาอะไรอีกไหมจุน?”

“อยากกินอะไรไหม?”

“ปวดหัวหรือเปล่า?”

“เช็ดตัวให้นะ”

“ดีขึ้นแล้ว ดีจัง”

                 “รักนะ รีบๆหายนะ อยากนอนกอดแล้ว”

                “ ^___^ ”

 

                ยิ้มแบบนั้นคือรักฉันใช่ไหม

 

                ดูแลเรื่องเล็กๆน้อยๆให้กับผม

                “ รักมากนะรู้ไหม ”

                “ ^___^ ”

                จุนพูดหน่อยได้ไหม

 

                จูบเบาๆก่อนนอน

                “รัก”

                “ ^___^ ”

 

                คำพูดหวานๆที่คอยอ้อน

                “ รักจริงๆเลย ”

                “ ^___^ ”

                ยิ้มแบบนั้นฉันไม่รู้หรอกนะว่ามันหมายความอย่างเดียวกับที่ฉันคอยบอกนายรึเปล่า

                อย่ายิ้มได้ไหม  ช่วยพูดออกมาหน่อย

                ช่วยบอกได้ไหมว่านาย  “รัก” ฉัน

                ขอร้อง

 

พอคบกันไปสองเดือน  อะไรๆก็เริ่มชัดเจน

เราสองคนเริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้น

จุนฮเวเริ่มออกเที่ยวกลางคืน

 

“จุนจะไปไหนหรอ”

 

ถามทั้งๆที่รู้   ตอกย้ำลงไปให้ตัวเองจำ

 

“ไปเที่ยวอ่ะ  ไม่รู้จะกลับตอนไหน ไม่ต้องรอนะ ไปล่ะ ^___^ ”

 

ในที่ที่ไม่มีฉันนายคงจะมีความสุขมากสินะ

นายยิ้มแบบนั้นได้ยังไง

โกหกหน่อยก็ได้บอกฉันว่านายไม่ได้กำลังเบื่อ

ทุกๆวันก็เป็นแบบนี้

จุนฮเวออกไปเที่ยว  บางวันก็กลับเช้า บางวันก็ไม่กลับ

 

'รักฉันไหม?'

คำตอบคือความเงียบ

ตอนนี้คงไม่จำเป็นต้องรอคำตอบอีกต่อไปแล้วเพราะความจริงมันแสดงให้เห็นชัดเจนแค่ไหน

 

คนรักกันเค้าไม่ทำกันแบบนี้หรอก

 

คนรักกันไม่จำเป็นต้องพูดออกมา  ใช้แค่การกระทำก็สามารถรู้ได้เอง

จะทนได้อีกซักเท่าไรนะ จินฮวาน

คือคำถามที่ผมเฝ้าถามตัวเองอยู่ทุกวัน

แล้วเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปก็เกิดขึ้น

เหตุการณ์ที่ทำให้ผมตัดสินใจเดินออกมา

 

นอล ซารังฮันกอล ชีวอ (ชีวอ) you   นี ชอนฮวาบอนโฮ ชีวอ (ชีวอ) โมรือเ  อูริน อันดเว no no  วอนแร คือรอน ซาอี yeah

เสียงเรียกเข้ามือถือของผมส่งเสียงให้ผมตื่น

22.30น.

035524xxx

หน้าจอแสดงเบอร์แปลกที่ผมไม่ได้เมมไว้

“ฮัลโหล”

“ฮัลโหล   นั่นคิมจินฮวานรึเปล่า ”

เสียงผู้หญิงอีกแล้ว

“ นั่นใคร ”

ถามเองก็เจ็บเองแฮะ

 

“ใครหรอ   ถามจุนฮเวดูสิ  คิก  คิก ~  แต่ตอนนี้จุนฮเวไม่ว่าง เอาไว้ตอนเช้านายก็ค่อยถามเขานะ”

“ต้องการอะไร”

“ ถ้าบอกว่า  อยากได้ จะให้ฉันรึเปล่า ”

“ไม่ให้ ”  ผมตอบสวนกลับไปในทันทีโดยไม่ต้องคิดนาน

 

ตอนนี้เขายังเป็นของผม

 

“งั้นก็ขอยืมชั่วคราวนะ   อยากรู้ไหม ว่าเรามีความสุขกันแค่ไหน  ฮิฮิ  จำเอาไว้นะคิมจินฮวานคนโง่  ”

// รอนานมั้ยครับ  //

ถึงจะเดาไว้อยู่แล้วว่าผู้หญิงคนนี้ไม่โกหกแน่ๆ

แต่พอเอาเข้าจริงๆ

ต้องทำร้ายกันขนาดนี้เลยหรอจุนฮเว

// ไม่นานหรอกค่ะ   สำหรับคุณ นานแค่ไหนฉันก็รอได้ //

// เอาใจจังนะ//

// อ๊ะ  อย่าใจร้อนสิคะ  //

น้ำตาหยดใสไหลอาบแก้มผมได้แต่ยกมือขึ้นปิดปากแน่น

กลัวว่าจะส่งเสียงเข้าไปในโทรศัพท์

เจ็บเกินจะทนแล้ว

ฉันไปทำอะไรให้นายเสียใจกันนะจุน

ทำไมถึงได้ทำร้ายกันขนาดนี้

// คิดถึงคุณนะ อยากกอดคุณจะแย่แล้ว //

//   จุน  อ่าาา //

// อืมมม   ผมต้องการคุณ    ผมรักคุณนะ//

 

แล้วเสียงก็ถูกตัดไป

โทรศัพท์หล่นจากมือพร้อมกับน้ำตาที่พร่างพรูออกมาเต็มแก้มใส

ทั้งๆที่รู้อยู่ว่ามันก็น่าจะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว

ผมได้แต่ปล่อยให้มันผ่านไปวันๆ พยายามไม่คิดมาก และ ทำใจยอมรับ

แต่นี่มันไม่เกินไปหรอจุนฮเว

จริงอยู่ว่าฉันรักนาย

แต่ถึงวันนี้ผมเจ็บมากพอแล้วล่ะ

ความอดทนของผมมันมีขีดจำกัดเหมือนกัน  และวันนี้มันก็หมดลงไปแล้ว

ต่อไปนี้นายจะได้ไปมีคนอื่นได้สะดวกๆ

ผมคงรั้งตัวเองให้อยู่กับเขาไม่ได้แล้ว

 

 

 

แล้วก็ถึงเวลาที่เรื่องทุกอย่างมันควรจบซักที

 

วันนั้นผมโทรบอกให้ดงฮยอกมารับผมกลับบ้าน  ดงฮยอกไม่เอ่ยถามอะไรกับผม

ดีแล้วแหละ

 

“มึงใจร้ายมากนะจุนฮเว กูบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำพี่กูเสียใจ”

ดงฮยอกตะโกนด้วยความโกรธ พร้อมพุ่งตรงมาซัดหมัดใส่จุนฮเวไม่ยั้งมือ

ขอโทษที่ไม่ช่วย

ขอโทษที่ไม่ห้าม

มันคงเป็นความต้องการลึกๆของผมล่ะมั้ง

“กูขอโทษ”

“ไอ้เลว มึงบอกใคร บอกกูหรอ เอาตีนกูไปกินเหอะ”

ไม่พูดเปล่าดงฮยอกระดมตีนใส่หน้าท้องจุนฮเวแบบไม่ยั้งจนตัวงอ

“พอแล้วดงฮยอก  กลับบ้านเถอะ พี่อยากกลับแล้ว”

ผมบอกน้องชายที่กำลังโมโห

ไม่มีน้ำตา

และแววตาไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึก

ผมกับจุนฮเวเราจ้องตากันอยู่ซักพักก่อนที่จะเป็นจุนฮเวที่หลบสายตาผม

ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากหลังจากที่ทั้งสองเดินออกไปแล้ว

จบแล้วนะ

นายไม่ต้องทนอยู่กับคนที่นายไม่รักอีกแล้ว

ฉันปล่อยแล้วนะ  มันไม่ไหวแล้วล่ะ

 

ลาก่อน

 

ผ่านไปอาทิตย์นึงที่ในชีวิตผมไม่มีจุนฮเว

 

ในตอนนั้นต้องขอบคุณเด็กข้างบ้าน  (แฟนผมในปัจจุบัน)

 

คิม ฮันบิน

ที่เข้ามาทำให้ผมคลายเหงา

 

“จินนี่  ไปส่งหน่อยดิ ม๊าโทรตามกลับบ้านแล้ว”

“ทำไมต้องไปส่ง  ไหนบอกไม่เด็กกลับเองดิ บ้านก็ใกล้แค่นี้”

 

เด็กบ้านี่กำลังงอแงให้ผมไปส่งทั้งๆที่บ้านก็อยู่ข้างๆกัน

 

“ไรว้า   ไอ่เราก็แค่ขอแค่นี้  ถ้าไม่ไปส่งงั้นจะถือว่ารับรักผมนะ เอางี้ดีป่ะ”

“มัดมือชก  ลุกดิ จะไปก็ไป”

หลังจากวันที่ผมกลับมาจากคอนโดของจุนฮเว ฮันบินก็มักจะเข้าหาผม

เมื่อวานก็เพิ่งจะสารภาพรัก

เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นฮันบินทำหน้าจริงจังแบบนั้น

แต่ผมก็ปฏิเสธไป

 

ในตอนนั้นผมรู้สึกอยากขอโทษฮันบินเพราะว่าผมยังรักจุนฮเวอยู่

ไม่อยากบอกให้รอ

ไม่อยากให้ความหวัง

 

“ลุกดิจะกลับไหม จะไปส่ง”

“จินนี่ใจดีจัง   แล้วเมื่อไรจะรับรักผมอ่ะ”

“ไม่ชอบเด็ก เกลียดเด็ก”

“เด็กคนนั้นกับฮันบินคนนี้ไม่เหมือนกันนะ ฮันบินคนนี้หลงรักจินนี่มาตั้งแต่ 3ขวบ  ไม่มีทางเลิกรักหรอก”

 

ผมน่าจะรักไอ่เด็กนี่ตั้งแต่ตอนนั้น

คงเพราะความรักมันบังคับไม่ได้กันไม่ได้ไง

ไม่รักก็คือไม่รัก  ..... แค่นั้น

จุนฮเวไม่ได้รักผม

จินฮวานคนโง่ที่ไม่รู้ว่าจุนฮเวไม่เคยรัก

คิดแค่ว่าถ้าเขากลับมา

แค่เขาบอกว่ารักผม

แค่คิดก็อยากให้เขากลับมาแล้ว

รักฉันเถอะนะจุนฮเว

พาฉันออกจากความเจ็บปวดนี้ที

 

“อย่าร้องนะ  ถ้าจินนี่ร้อง ผมเจ็บนะรู้ไหม”

 

ฮันบินพูดพร้อมกับดึงผมไปกอดหลวมๆ

อุ่นจัง  เป็นกอดที่อุ่นจังเลย  ขออยู่อย่างนี้ซักพักนะฮันบิน

ถ้านายเป็นจุนฮเว

…….ก็คงดี

 

“จูบได้ไหมจิน”

 

คงไม่เป็นไรมั้ง

“อื้อ”

 

ผมตอบฮันบินเบาๆ

ตอนนี้ฉันให้นายได้แค่นี้  ขอบคุณนะที่อยู่ข้างๆกัน

พอพูดจบริมฝีปากอุ่นของผมทาบทับลงไปที่กลีบปากร่างสูงอย่างแผ่วเบา

ลิ้นร้อนเลียวนที่ริมฝีปากของร่างสูง  สองร่างผลัดกันรุกอย่างไม่มีใครยอมใคร

ลิ้นร้อนแทรกซึมเข้าไปในโพรงปากเล็กทำให้จินฮวานเผลอเปิดปากให้ความชื้นแฉะจากลิ้นร้อนเข้าไปหยอกล้อกับลิ้นเล็กของตนเอง

อื้อ ออ....อื้มมม” เสียงครางแผ่วดังออกมาจากลำคอของร่างเล็ก

ก่อนจะผละริมฝีปากออกมาช้าๆ ก่อนที่จะประกบลงไปอีกครั้งและอีกครั้ง

โดยที่ผมเป็นคนเริ่ม

อบอุ่น   ร้อนแรง

ยิ่งจูบก็เหมือนยิ่งรับรู้ความรู้สึกของฮันบิน

ขอโทษนะที่ให้นายได้แค่นี้

 

แล้วเรื่องของผมกับจุนฮเวก็มาถึงตอนจบ

จุนฮเวนัดผมออกมาที่หน้าบ้านเพื่อมาคุยกัน  ทำไมผมจะไม่รู้ว่าเขาจะคุยเรื่องอะไรกับผม

 

“ไง  ไม่เจอกันนานเลยนะ”

 

เป็นร่างสูงที่เอ่ยทักผมก่อน

“พูดธุระของนายมา”

ไม่อยากมอง  รู้ไหมว่าการมองหน้านายมันทำให้ฉันเจ็บปวดแค่ไหน

 

 

“ดูเหมือนนายจะมีความสุขดี ”

 

เอาอะไรมาวัดหรอจุนฮเวว่าฉันมีความสุข  นายจะไปรู้อะไร

 

“อืม ธุระมีแค่นี้ใช่ไหม”

 

ไม่ไหวแล้วจุน  ฉันจะอดทนต่อหน้านายไปได้อีกซักกี่นาที

พูดจบผมก็เตรียมจะเปิดประตู

….. ไม่อยากเห็น……

 

“เรื่องของเราหนะ”

“เอาสิ  เรื่องถนัดนายหนิ  พูดออกมาสิ”

 

ถึงจะพอรู้ว่านายคงจะมาทำให้เรื่องมันจบ  แต่หวังได้ไหมแค่ 1%ก็ได้ว่านายอยากกลับมาหาฉัน

ทำไมถึงทำร้ายกันได้ขนาดนี้นะ

แค่นี้เอง  ขอไม่ได้หรอจุนฮเว

ผมพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ  ผมรู้ว่าตอนนี้สายตาของผมคงจะฉายความเจ็บปวดชัดเจน

นายจะไม่ได้เห็นมันอีกแล้วจุนฮเว

ความรักของฉันนายจะไม่มีวันได้สัมผัสมันอีกแล้ว

 

“เลิกกันเถอะ”

“อืม”

ผมตอบสั้นๆ ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วเดินเข้าบ้านไปทันที

 

“ฮึก  ใจร้ายจังนะจุนฮเว ความหวังแค่ 1% นายก็ยังทำลายมัน”

 

น้ำตาเขื่อนใหญ่ค่อยๆทะลักออกมา

ร้องให้พอ   ครั้งสุดท้ายแล้วนะ

 

ลาก่อนความรัก

 

หลังจากนั้นผมก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับพ่อ

วันนั้นเป็นวันที่หนักหน่วงสำหรับผมมากจริงๆ

แม้จะผ่านไปแล้ว

แต่ความรู้สึกเมื่อได้เห็นหน้าคนๆนี้

เหตุการณ์ทุกอย่างมันกลับชัดเจน

ชัดเจนจนเจ็บปวดอีกครั้ง

 

และวันนี้

 

ได้พบอีกครั้ง

 

นอกจากความเจ็บปวด

อีกความรู้สึกที่เข้ามาตอนี้คือ   คิดถึง

 

คิดถึง

 

โดยที่ไม่รู้ว่าทำไม

ยังคงคิดถึงคุณเหลือเกิน

จะลบเลือนความรักที่เคยมีให้คุณ และตัวคุณออกไป

ระหว่างเราไม่มีทางเป็นไปได้

เราไม่มีทางมาบรรจบกันได้ และมันจะเป็นอย่างนี้เสมอ

 

 

END

Special  Erase

Hanbin

 

 

มันคือความรักที่ทำให้ผมยังคงอยู่ตรงนี้

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าท้ายที่สุดจินฮวานจะรักผมหรือไม่

ผมจะไม่มีทางยอมแพ้

 

คำว่าไม่รักจากจินฮวานถึงมันจะทำให้ผมเจ็บปวด

แต่ผมก็ยังไม่ตายหนิครับ

 

สวัสดีครับ  ในที่สุดก็มีพาร์ทผมออกมา

 

คิม ฮันบิน คือชื่อของผม

ถามว่าผมเป็นใคร?

ก็ฮันบินไง 55555

ผมเป็นรุ่นน้องที่อยู่ข้างบ้านของพี่จินฮวานครับ

ก็อย่างที่ทุกคนรู้?

ผมรักจินนี่มาตั้งแต่ 3ขวบ

ที่ผมยอมให้จินนี่คบกับไอ่จุนฮเวอะไรนั่นก็เพราะผมจะได้ทำคะแนนช่วงจินนี่เสียใจไงครับ

ผมรู้อยู่แล้วล่ะว่ายังไง จินนี่ก็ต้องอกหัก

 

ก็จินนี่เป็นของผม

จินนี่ก็ต้องคู่กับผมสิ

 

 

ใช่ไหมล่ะครับ

 

“จินนี่  ผมยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย  ผมให้กินหน่อยดิ”

เป็นอีกวันที่ผมมักจะมาบ้านของจินฮวานแต่เช้าเพื่อมาขอให้อีกคนทำข้าวเช้าให้กิน

“ไม่ว่าง ไปซื้อเอาดิ”

 

ปฏิเสธอีกแล้ว

 

“ก็ถ้าจะซื้อกินจะมาหาจินนี่ทำไม”

“ฮันบินบ้านฉันไม่ใช่โรงทานนะ”

“ก็รู้  แต่ม๊าไม่อยู่  ไม่อยากกินข้าวคนเดียว  จินนี่ทำให้กินหน่อยนะ”

ผมขุดมารยา200เล่มเกวียนของผมออกมาเพื่อให้คนตัวเล็กกว่าเห็นใจ

“เอออ  แม่งรอแป๊ปนึง แล้วก็เลิกทำหน้าหมาหงอยได้แล้ว กูเบื่อ”

“ทำไมจินนี่พูดไม่เพราะ  เอางี้ไหมเรามาทำข้อตกลงกันถ้าจินนี่พูดแบบเมื่อกี้อีก ผมจูบ”

“ข้อตกลงบ้าอะไร  ไม่ตกลงโว้ยยยย  ทำไมถึงเห็นแก่ตัวกับกูจัง  มึงเห็นกูง่ายหรอฮันบิน”

 

อีกแล้วซักวันได้ไหมที่พี่จะไม่คิดถึงมัน

ตั้งแต่ที่จินฮวานย้ายกลับมาอยู่บ้าน  ไม่มีวันไหนที่ผมจะไม่เห็นน้ำตาของจินฮวานเลย

ผมก็เจ็บนะ

ผมมาอยู่ตรงนี้ก็เพื่อพี่

ช่วยมองผมเป็นผมได้ไหม

ผมไม่ใช่มันซักหน่อย

 

“จินนี่  อย่าร้องเลยนะ”

 

ไม่ร้องไม่ได้หรอ

ผมพูดพร้อมกับเข้าไปคว้าร่างบางมากอด

 

“ฮรึกกกก      ทำอะไรผิดหรอ  ฉันทำอะไรผิดฮันบิน  ทำไมต้องทำกับฉันแบบนั้น ฉันดีไม่พอหรอ ฉันมันน่ารำคาญใช่ไหม  ฮือออ ”

 

คนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดผมเพ้อถึงมันอีกแล้ว

“จินนี่ อยากฟังอะไรไหม  เดี๋ยวผมจะเล่าอะไรให้ฟังนะ”

 

ร่างบางไม่ตอบได้แต่พยักหน้าอยู่ที่หน้าอกผม

“จินฮวานพี่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย  เรื่องทุกอย่างมันไม่ได้เกิดที่พี่  ผมไม่รู้หรอกว่าทำไมมันถึงทำแบบนั้น  ถ้าจะให้เดา มันคงไม่ได้รักพี่แล้ว  ความจริงเป็นยังไงมีแค่พี่ที่รู้  อย่าปิดหูปิดตามัวแต่โทษตัวเองเลยนะ  ปล่อยมันไปเถอะนะพี่  รักตัวเองบ้าง  พี่เป็นแบบนี้ ผมเจ็บนะ”

 

ผมไม่รู้ว่าเรากอดกันนานเท่าไร  รู้แค่ว่าร่างบางสั่นมากขนาดไหน ผมรู้ที่ผมพูดมันฟังดูใจร้าย

แต่ผมก็อยากให้จินฮวานรู้ว่าผมก็เจ็บที่เห็นเขาเอาแต่โทษตัวเอง

 

“ฮันบิน ขอบใจ  ยังจะกินข้าวอยู่ไหม?”

“อื้อ  หิวมากอ่ะ  ผมเสียพลังงานไปตั้งเยอะ 5555555555 ”

“กินอะไรง่ายๆก็แล้วกันเนอะ”

“คร๊าบบบบบ”

 

 

“อ๊าาาาาาาาาาาา   อิ่มจัง  ขอบคุณนะจินนี่”

“อื้อ  ไม่เป็นไรหรอก  จะกลับยัง”

“ยัง พี่จินฮวานผมมีเรื่องจะบอก”

ผมรู้ว่าร่างบางรู้ดีว่าผมจะพูดอะไร  ดูจากสีหน้าที่ฉายแววกังวลก็รู้แล้ว

ผมไม่สนหรอก

ถ้าไม่ทำอะไรให้มันชัดเจน

ผมก็คงจะได้เป็นเด็กข้างบ้านตลอดไปแน่ๆ

ซึ่งผมไม่ยอม

 

“ค่อยบอกวันหลังได้ไหม  ง่วงอ่ะ”

จินฮวานพูดแล้วหลบสายตาผม

“ผมรักพี่นะ”

 

ผมพูดแล้วส่งสายตาจริงจังไปให้ร่างบางที่เอาแต่ก้มหน้างุด

ที่พื้นมันมีอะไรน่าสนใจหรอ

 

“ผมรู้ว่าพี่จะพูดอะไร  ขอนะอย่าพูดว่ายังรักมัน   บอกว่าเกลียดผมก็ได้  จะบอกว่าไม่รักผมก็ได้ ”

 

จริงๆไม่ว่าจินฮวานจะพูดอะไรออกมาถ้ามันเป็นคำพูดที่ขัดกับประโยคบอกรักผม ผมก็คงเสียใจ   เหมือนกัน

แต่จะให้พูดว่ารักคนอื่นต่อหน้าผม

ไม่เอาหรอก

ไม่อยากได้ยิน

 

“ฮันบิน  ขอโทษนะ”

 

ร่างบางพูดแค่นั้นก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน

วันนี้ผมจะปล่อยพี่ไป

แค่วันนี้เท่านั้นแหละ

 

“จินนี่  ไปส่งหน่อยดิ ม๊าโทรตามกลับบ้านแล้ว”

 

วันนี้ก็มาอยู่นี่อีกแล้ว

คิมฮันบินเป็นคนชอบทำตามหัวใจครับ

 

“ทำไมต้องไปส่ง  ไหนบอกไม่เด็กกลับเองดิ บ้านก็ใกล้แค่นี้”

ก็ไม่เด็กนะ  จินนี่อยากลองป่ะล่าาาาา

“ไรว้า   ไอ่เราก็แค่ขอแค่นี้  ถ้าไม่ไปส่งงั้นจะถือว่ารับรักผมนะ เอางี้ดีป่ะ”

“มัดมือชก  ลุกดิ จะไปก็ไป”

 

เมื่อวานผมเพิ่งจะสารภาพรักกับจินฮวานไป

ไม่บ่อยหรอกครับที่ผมจะจริงจังขนาดนั้น

แต่จินฮวานก็ปฏิเสธ

เกลียดคำว่าขอโทษจัง

ยังรักเขาอยู่ก็รู้

บอกให้รอก็ได้หนิ ผมรอได้จะกี่ปีก็รอได้ แต่ถ้ารอไม่ไหวก็แค่จับกด ^___^

ผมจะสร้างความหวังขึ้นมาเองไม่ต้องมาให้ผมหรอก

อย่าขอโทษผมเลยนะ  เพราะไม่ว่ายังไงจินฮวานก็ต้องเป็นของผม

 

“ลุกดิจะกลับไหม จะไปส่ง”

“จินนี่ใจดีจัง   แล้วเมื่อไรจะรับรักผมอ่ะ”

“ไม่ชอบเด็ก เกลียดเด็ก”

“เด็กคนนั้นกับฮันบินคนนี้ไม่เหมือนกันนะ ฮันบินคนนี้หลงรักจินนี่มาตั้งแต่ 3ขวบ  ไม่มีทางเลิกรักหรอก”

 

ผมคนนี้มีอีกหลายเรื่องให้จินฮวานแปลกใจนะ

รู้ว่าบังคับให้จินฮวานมารักผมไม่ได้

ก็แล้วยังไงล่ะ  สุดท้ายจินฮวานก็ต้องรักผมอยู่ดี

รู้ว่าไม่รักแต่จะทำให้รัก  ..... แค่นั้น

 

จินฮวานคนโง่ที่ไม่รู้ว่าฮันบินรักมากขนาดไหน

รักผมสิ  รักผม

แล้วผมจะพาพี่ออกจากความเจ็บปวดนี้เอง

 

“อย่าร้องนะ  ถ้าจินนี่ร้อง ผมเจ็บนะรู้ไหม”

 

ผมพูดพร้อมกับดึงจินฮวานไปกอดหลวมๆ

อุ่นไหม    จะอยู่อย่างนี้ตลอดไปก็ได้นะ

อ้อมกอดผม ทุกอย่างของผม  มันมีไว้เพื่อพี่

 

“จูบได้ไหมจิน”

 

“อื้อ”

 

ขอโทษนะจินฮวาน

ผมเหลือบไปเห็นร่างสูงต้นเหตุแห่งความเสียใจ

ช้าไปแล้วมั้ง

จินฮวานกำลังจะเป็นของฉัน

นายไม่มีสิทธิ์แล้วจุนฮเว

เมื่อมีร่างบางอยู่ตรงหน้าแล้วผมก็ไม่สนอะไรทั้งนั้น

เห็นแก่ตัวอะไร

ไม่ใช่ผมหรอก

 

พอพูดจบริมฝีปากอุ่นของร่างบางทาบทับลงไปที่กลีบปากร่างสูงอย่างแผ่วเบา

ลิ้นร้อนเลียวนที่ริมฝีปากของร่างสูง  สองร่างผลัดกันรุกอย่างไม่มีใครยอมใคร

ลิ้นร้อนแทรกซึมเข้าไปในโพรงปากเล็กทำให้จินฮวานเผลอเปิดปากให้ความชื้นแฉะจากลิ้นร้อนเข้าไปหยอกล้อกับลิ้นเล็กของตนเอง

อื้อ ออ....อื้มมม”

เสียงครางแผ่วดังออกมาจากลำคอของร่างเล็ก

ก่อนจะผละริมฝีปากออกมาช้าๆ ก่อนที่จะประกบลงไปอีกครั้งและอีกครั้ง

โดยที่จินฮวานเป็นคนเริ่ม

อบอุ่น   ร้อนแรง

มากกว่านี้สิจินฮวานแล้วพี่จะได้รู้ว่าผมรู้สึกยังไง

ถ้าคำพูดของผมมันยังไม่พอ  ก็รับรู้มันผ่านจูบนี้ซะนะ

 

รู้แล้วก็รีบๆรับรักผมเร็วๆล่ะ

 

 

“จะทำอะไรฮันบิน”

“ก็ไปต่างประเทศกับจินนี่ไง”

 

ผมบอกแล้ว

ไม่ว่ายังไง

จินฮวานก็ต้องรักผมอยู่ดี   ^_____^

 

END

 

TALK TALK TALK

เนื่องจากว่าเนื้อเรื่องอันเก่านั้นเมื่อเค้ากลับไปอ่านแล้วมันแปล่งๆ 5555555

เลยจับมารีไรท์ใหม่  ไม่รู้ว่าจะแปล่งกว่าเดิมหรือป่าวนะ 55555

เรื่องนี้มีอยู่ในเด็กดีด้วยนะจ๊ะ หุหุ

แล้วเราจะกลับมาด้วยฟิคดราม่าดังเดิม  เย่ เย้

ติดตามได้ที่  ทวิตเตอร์ little_faithly นะจ๊ะ

สุดท้าย  ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่าน  ขอบคุณทุกคอมเม้น

หากผิดพลาดประการใด ก็ กราบขออภัยมา  ณ ธันวลัย ด้วยเจ้าค่ะ ^______^

CR : แปลเพลง ERASE https://www.siamzone.com/board/view.php?sid=4057834

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว