เ
สน่ห์รั
ก
ร้
ายบริสุท
ธิ์
By อัยย์ญาณนีน
(ป๋าเจคอป+อีหนูดีเดย์ & ป๋าริชาร์ด+อีหนูนาริ)
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อโคแก่ต้องการจะจับโคนมสาวแสนไร้เดียงสากิน ?!
คำเตือน!!
เรื่องนี้อย่าได้ถามถึงสาระที่จะได้รับ เพราะจะไม่มีอยู่เลย มีแต่ความหื่นของคุณป๋าๆและอีหนูๆเท่านั้น จบข่าว!!
Image...
คุณป๋าของอีหนู...
เจคอป แพททริค วิโรจน์ศศิธร ลูกครึ่งไทย-อเมริกา อายุ 35 ปี
หนุ่มนักรักคาสโนว่า ตัวพ่อ!! นักธุรกิจเจ้าของโรงแรมในเครือ ‘แพททริค’ ซึ่งมีสาขาทั้งในไทย อเมริกาและประเทศอื่นทั่วโลกกว่าหนึ่งพันสาขา เขาหื่น เจ้าเล่ห์ ชอบหลอกเด็ก(เฉพาะกับอีหนูของคุณป๋า) ทุ่มไม่อั้นถ้าได้อีหนูมานอนกอด
ฉายา : โคแก่จอมหื่นชอบดื่มนมโคสาว
อีหนูของคุณป๋า...
ดีเดย์ ดากานดา รัตนวารินทร์ อายุ 22 ปี
คุณหนูใสซื่อบริสุทธิ์ พ่อแม่และคุณย่าผู้ใจดีเลี้ยงมาเหมือนผ้าขาวไร้มลทินปราศจากรอยเปื้อนสีอื่นเจือปน สาวน้อยผู้โชคดีถูกป๋าใจปล้ำ...เอ๊ย...ป๋าใจป้ำลากเข้าถ้ำแล้วโดนขย้ำจับกินโดยไม่เล่นตัวสักแอะ
ฉายา : โคนมสาวหน้าใสๆแต่อกใหญ่เป็นบ้า
ริชาร์ด มอร์แกน อายุ 35 ปี
หนุ่มหล่อเชื้อชาติละตินอเมริกาเสี้ยวไทย นักธุรกิจชื่อดังมาดขรึม เย็นชา ทุกคนต่างก็ยากจะเข้าใจในตัวเขาได้ ชอบเอาแต่ใจตัวเองอยากได้อะไรก็ต้องได้ไม่เว้นแม้กระทั่งแม่สาวน้อยสุดเซ็กซี่น่าขยี้ลงบนเตียงที่กล้าเข้ามายั่ว!! เขา ตั้งแต่คราวแรกที่เห็นหน้ากัน
นาริ นาริกา โพธิ์ศาสตร์ อายุ 22 ปี
สาวน้อยผู้แสนอาภัพกำพร้าพ่อและแม่ ด้วยเหตุนี้จึงทำเธอเป็นคนที่เข้มแข็งพอรู้ทันต่อโลก งานประจำของเธอคือการยั่วผู้ชายกระเป๋าหนักในผับหรู เธอยั่ว!!จนพลาดท่าถูกป๋าหนุ่มผู้แสนเย็นชาจับขยี้แหลกคาเตียงก่อนจะรู้จักชื่อกันด้วยซ้ำ
เจคอบ & ดีเดย์
“ไม่ไปทำงานที่ผับอีกไม่ได้เหรอครับ” ชายหนุ่มช้อนมืองามขึ้นจุมพิตแล้วใช้มันถูไถไปมากับคางสากจนดากานดารู้สึกจักจี้มือจึงดึงมือออกแล้วบอก
“ไม่ได้หรอกค่ะ ดีเดย์เพิ่งเข้าไปทำงานที่นั่นได้วันเดียวเองนะคะ จะลาออกได้ยังไงกัน” ใช่ว่าเธออยากไม่อยากทำตามคำขอร้องของชายหนุ่มที่พยายามพูดคะยั้นคะยอโน้มน้าวใจให้เธอออกจากงานที่ทำอยู่ให้ได้มาตั้งแต่ออกมาจากคอนโดหรูแล้ว ก็เขาไม่อยากให้เธอทำงานแบบนั้นจริงๆ นี่ แต่จะให้เธอไปขอลาออกกับผู้จัดการทั้งๆ ที่เพิ่งทำงานได้วันเดียวแถมเมื่อวานเธอก็แอบหนีออกมากับคุณป๋าหนุ่มโดยที่ยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน แล้วเธอก็ยังอยากจะทำงานอยู่กับนาริกาด้วยเธอจึงขอเลือกไม่ลาออกแล้วจะทำงานที่ผับหรูต่อไป ซึ่งแน่นอนข้อนี้เจคอบขัดเธอไม่ได้เพราะมันเป็นความต้องการของหญิงสาวเอง
“งั้นวันนี้คุณป๋าไปรับนะครับ” เขาบอกพร้อมกับตีหน้าเศร้าๆ อย่างเด็กโดนผู้ใหญ่ขัดใจ ห่อตัวลงปากบึนเล็กน้อยไม่อยากจะนึกสภาพตอนที่อีหนูของเขาโดนผู้ชายคนอื่นลวนลามเลยนึกแล้วใจมันเจ็บจี๊ดๆ ชะมัด
“คุณป๋าไม่เอานะคะ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคะ” ดากานดาคว้าคนตัวโตเข้ามากอดอย่างต้องการปลอบโยน เพราะคิดว่าเขากำลังเศร้าโศกที่เธอไม่ยอมทำตามคำขอแต่หารู้ไหมว่าใบหน้าหล่อที่เธอโน้มลงมาสวมกอดอยู่เหมาะเจาะพอดิบพอดีกับอกอิ่มที่เนินแทบทะลักออกมานั้นกำลังยิ้มร่าแถมยังทำเป็นซุกไซร้ราวกับต้องการเช็คน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาก็ไม่ปาน
“แต่ดีเดย์ต้องสัญญากับคุณป๋านะครับว่าจะไม่ยุ่งกับผู้ชายคนอื่น นอกจากคุณป๋าคนเดียว” แสร้งทำน้ำเสียงเศร้าแต่ก็ต้องการให้เธอทำตามอย่างที่สั่งจริงๆ พลางสูดดมกลิ่นหอมกรุ่นบริเวณเนินอกสาวอย่างชื่นใจ
“ค่ะ ดีเดย์สัญญาค่ะ” สาวน้อยยอมเชื่อฟังคำสั่งของชายหนุ่มเพราะเธอก็ไม่อยากจะยุ่งกับผู้ชายคนอื่นนอกจากคุณป๋าหนุ่มของเธอคนเดียว “งั้นดีเดย์ขอตัวก่อนนะคะ ป่านี้นาริคงเป็นห่วงดีเดย์แทบแย่แล้ว กลัวเขาจะเอาเรื่องที่ดีเดย์ไม่กลับมานอนที่คอนโดทั้งคืนไปบอกคุณพ่อกับคุณแม่น่ะค่ะ ถ้าเป็นอย่างงั้นจริงดีเดย์ตายแน่เลย” เธอพยายามจะผละใบหน้าคมคายที่ซุกไซร้อยู่กับอกอิ่มออกไปแต่เขากลับตวัดแขนโอบกระชับเอวบางราวกับไม่อยากให้เธอจากไปไหน
“จะไม่ได้เจอกันตั้งหลายชั่วโมงแน่ะ คุณป๋าขอกอดดีเดย์ให้หนำใจก่อนไม่ได้เหรอครับ” เจคอบพูดอย่างคนเอาแต่ใจตัวเอง
“คุณป๋าทำตัวไปเด็กไปได้” ดากานดาต่อว่าเด็กตัวโตเท่าหมีควายไม่เต็มเสียงนัก
“ก็อยากกอดเมียนี่ครับ มีเมียก็ต้องกอดเมียสิถ้าไม่ให้กอดเมียแล้วจะให้คุณป๋าไปกอดใครล่ะครับ” คนเอาแต่ใจตัวเองยังคงนิ่งเฉยไม่ยอมปล่อยร่างบางออกจากอ้อมกอด แถมยังซุกใบหน้ากับอกอวบจนอกสาวแทบจะทะลักออกมาแล้วสูดดมกลิ่นหอมเข้าไปจนชุ่มปอด
“คุณป๋าพอแล้วค่ะ ดีเดย์ต้องรีบลงแล้วนะคะ” เสียงใสๆ เรียกสติชายหนุ่มที่กำลังหลงใหลไปกับกลิ่นหอมอ่อนและอกอิ่มกลับมาได้ ชายหนุ่มเงยหน้าช้อนมองใบหน้าเนียนก่อนจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระ จริงใจเขาไม่ผละจะออกห่างจากตัวสาวน้อยเลยด้วยซ้ำ อยากจะกกอยากจะกอดเอาไว้ทั้งวันทั้งคืนไม่ให้ออกจากอ้อมแขนเขาไปไหน
“ไปก่อนนะคะคุณป๋า” ดากานดาเอ่ยบอกลาคนที่นั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ เธอจึงโน้มตัวหอมแก้มสากฟอดใหญ่หนึ่งที เปิดประตูรถโบกมือลาแล้วเดินหายเข้าไปในคอนโดปล่อยชายหนุ่มนั่งทำใจเพราะจะไม่ได้เจอเมียตัวเองตั้งหลายชั่วโมง
************************************
ริชาร์ด & นาริ
“ถ้าคำต่อไปที่พูดออกมาเธอยังด่าฉันอีกล่ะก็...อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะสาวน้อย” น้ำเสียงเยือกยะเย็นกับร่างหนาเปลือยเปล่าที่ก้าวเดินเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ ส่งผลให้นาริกาต้องถอยโล่จนแผ่นหลังบางติดกับผนังคริสตัลสีครีมแวววาว
ริชาร์ดเดินมาหยุดตรงหน้าหญิงสาวใช้แขนแกร่งข้างสองข้างยันผนังเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้นาริกาหนีไปไหนได้ก่อนจะโน้มใบหน้าหล่อลงให้เท่ากับใบหน้าเนียนของเธอ สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ เล็กน้อยอย่างห้ามใจไม่ให้ดมไม่ได้ เขาสบตากับดวงตากลมโตที่พยายามเบนสายตาไปทางอื่น เสียงลมหายใจถี่ของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าหัวใจเธอกำลังเต้นแรง มุมปากหนาได้รูปกระตุกขึ้นพลางจ้องมองสาวน้อยที่ตื่นมาก็ได้แต่บริภาษใส่เขาไม่วางตา
“เธอชื่ออะไร” นานพอสมควรกว่าเขาจะเอ่ยคำถามออกมา นาริกายังคงเมินสายตาใส่เขา สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอดแล้วสวนกลับ
“ไม่บอก!!” น้ำเสียงถึงจะฟังดูแข็งกล้าแต่ก็ยังเจือด้วยเสียงสั่นเล็กน้อย นาริกาพยายามสุดฤทธิ์เพื่อบอกให้หัวใจตัวเองหยุดเต้นรัวเสียทีแต่เมื่อเขาเริ่มขยับตัวเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นจนจมูกโด่งคมสันปัดป่ายไปมากับแก้มนวลสีระเรื่อ ใจมันก็ยิ่งเต้นแรงขึ้นแรงขึ้นจนไม่สามารถควบคุมได้
“จะบอกดีๆ หรือว่าจะให้ฉันเปิดปากเธอด้วยวิธีการจูบแบบแรงๆ ก่อนถึงจะยอมบอก ฮึ!!” เสียงราบเรียบที่แอบฟังดูน่ากลัวอยู่ในทีเอ่ยขู่เล่นๆ หญิงสาวหลับตาลงข่มความเจ็บซ้ำที่มีมากพออยู่แล้ว แล้วกล้ำกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ รับรู้ได้ถึงริมฝีปากหนาที่สัมผัสแตะป่ายจรดริมฝีปากอิ่มของเธอ
“นาริกาฉันชื่อนาริกา” ในที่สุดก็ต้องยอมเปิดปากบอกเขาไปจนได้ จะให้ทำอย่างไรได้ล่ะก็เขาเล่นขู่ซะขนาดนั้นเธอยังไม่อยากจะโดนตะปมจูบตอนนี้นะแค่โดนไปเมื่อคืนปากก็ยังซ้ำไม่หายดีเลย
“ชื่อเล่นล่ะ” ริชาร์ดขยับริมฝีปากใกล้ชิดกับใบหูเนียนทำเอานาริกาต้องย่นคอเพราะรู้สึกจักจี้
“น่ะ...นาริ”
“นี่!! จะตอบผัวทีนึงเนี่ยเอาให้มันมีคะ...มีขา...หน่อยได้ไหม ฉันแก่กว่าเธอตั้งหลายปีนะ”
“จะเอาอะไรกับฉันนักหนาเล่าชื่อก็บอกไปหมดแล้ว ฉันยอมทำตามคุณทุกอย่างก็ปล่อยฉันไปสักทีซิ” นาริกาเริ่มทนไม่ไหวผละตัวชายหนุ่มออกห่างหวังจะสะบัดตัวเปิดประตูก้าวเดินออกจากห้องไปแต่ก็ถูกชายหนุ่มจับเอวบางแล้วกระชากตัวเธอกลับมาจากนั้นจึงจับทุ่มลงกับเตียงนุ่ม
“คิดว่าจะเดินออกไปจากที่นี่ได้ง่ายๆ เหรอไม่มีทางซะหรอก” ชายหนุ่มร่างเปลือยเปล่าเท้าสะเอวมองดูคนที่เริ่มขยับตัวติดกับพนักพิงหัวเตียงเพราะคงกลัวว่าเขาจะทำอะไรกับเธออีกเหมือนเมื่อคืนที่ผ่านมา ไอ้อยากทำมันก็อยากทำอยู่หรอกนะแต่ตอนนี้เขาอยากจะแกล้งเธอมากกว่า
“อ๊าย...ออกไปนะคนบ้า” นาริกาเตะเท้าไปมาเมื่อถูกมือหนาจับข้อเท้าแล้วดึงเธอลงมานอนราบกับพื้นเตียงดังเดิม
“บอกแล้วไงว่าถ้าฉันได้ยินเธอด่าฉันอีกล่ะก็...” ริชาร์ดกระโดดขึ้นมาคร่อมร่างเนียนว่าแล้วละเว้นไว้ในฐานที่หญิงสาวเข้าใจก่อนจะใช้สายตาสำรวจร่างอวบอิ่มในชุดสาวเสิร์ฟที่ยับยู่ยี่จนแทบไม่เหลือชิ้นดีแล้วสภาพแบบนี้น่ะเหรอที่จะออกไปเดินข้างนอก ให้ตายยังไงเขาก็ไม่มีวันให้เธอออกไปในสภาพเหมือนแมวน้อยที่เพิ่งโดนฟัดมาอย่างนี้แน่
“หยุดมองนะคนโรคจะ...” นาริกาชะงักคำพูดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาเคยสั่งว่าอย่างไร เธอเม้มริมฝีปากแนบชิดติดกันนอนอยู่นิ่งปล่อยให้คนตัวโตขึ้นคร่อมบนตัวต่อไป
ริชาร์ดแสยะยิ้มอย่างพอใจที่หญิงสาวเริ่มเชื่อฟังคำสั่งเขา ถึงวิธีมันจะเผด็จการไปหน่อยก็เถอะแต่มันก็ได้ผลชะงัดนัก
“จะลงจากตัวฉันได้หรือยัง”
“คะ!! ไม่เคยมีใครสอนหรือไงว่าเวลาพูดกับผู้ใหญ่ต้องมีคำว่าคะด้วยสิ”
นาริกาสูดหายใจเข้าไปเต็มปอดก่อนจะกัดฟันพูดด้วยความเต็มใจพูดคำนี้ออกมาเป็นอย่างยิ่ง
“จะลงจากตัวฉันได้หรือยังคะคุณ…”
“คุณผัว อ้อ...ไม่สิต้องบอกว่า ‘คุณผัวขา’ ” คนเผด็จการยังคงตั้งหน้าตั้งตากลั่นแกล้งสาวน้อยใต้ร่างต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดหย่อน
“ค่ะคุณ...ขา” คำว่า ‘ผัว’ เธอพูดเบาจนเขาไม่ได้ยิน ริชาร์ดจึงสั่งให้นาริกาพูดใหม่อีกรอบ อีกรอบและอีกรอบไปเรื่อยๆ อยู่อย่างนี้จนหญิงสาวรู้สึกรำคาญเลยตะโกนสุดเสียงออกมาว่า
“ค่ะคุณผัวขา!!”
ฝากติดตามนิยายเรื่อง ‘เสน่ห์รัก ร้ายบริสุทธิ์’ ด้วยนะคะ เรื่องนี้เน้นหื่นเยอะๆ หวานมากๆ ดร่าม่ากระจึ๋งนึง มีอีกชื่อหนึ่งด้วยนะเออ >>> (คุณป๋าจอมหื่นกับอีหนูจอมซน) ชื่อนี้ชื่อแรกที่ไรเตอร์คิดได้ตอนพล็อตเรื่องผุดขึ้นมาในหัวค่ะ อิอิ
สามารถติดตามข่าวสารและพูดคุยกันได้ที่เพจค่ะ