หลังจากที่มาร์คบอกป๊า มาร์คกับแบมยังไม่ได้คบกันทันทีหรอกนะ ป๊าไม่ยอม แบมไม่ยอม สรุปคือทุกคนไม่ยอม ถึงมาร์คจะถึงขั้นกลิ้งไปนอนที่พื้นของโรงพยาบาลกอดขาป๊าแบมก็เหอะ นี้ไม่ได้อะไรนะ ก็แค่สะใจเอาะ
“พ่อแม่ดีๆ ที่ไหนจะยอมปล่อยลูกสาวให้คนที่ปฏิเสธหมั้นมาขนาดนั้น ” ป๊าบอกแค่นั้น ก่อนเอาเท้าอีกข้างเขี่ยมาร์คออกไป มาร์คได้แค่ทำหน้าหมาง่อย ลุกขึ้นปัดฝุ่นที่เสื้อกับกางเกง เดินถอยหลังไปชิดประตู
“ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คนนะป๊า มาร์คจะทำให้ป๊ารู้ว่ามาร์คร้อยแรงม้า จนแบมอ่อนแรงเลย ไปละ หวัดดีครับ” มาร์คพูดจบก็มันก็วิ่งออกไปเลย ป๊าอึ้ง ม๊าอึ้ง แบมอาย อิห่ามาร์คจังไร
วันแรกที่แบมกลับไปเรียนหลังจากขาดมาสองวัน มาร์คก็ทำตัวเหมือนเดิม ดูแลแบมเหมือนเดิม ไปรับส่งทุกเช้าเย็น ป๊าไม่ได้อนุญาตมันหรอก ตอนไหนป๊าเผลอมันก็วิ่งมาอุ้มแบมขึ้นรถมันเฉยเลย แต่ที่ต่างไปจากเดิมคือมาร์คเลิกพูดหยาบคาย แล้วมันก็ขยันหยอด
“แบมแบมเหนื่อยไหม?”
“กูไม่ได้วิ่งในหัวใจมึงมาร์ค”
“ไม่วิ่งก็ได้ ซั่มกันในความฝันเราเหนื่อยไหม?”
“อิเหี้ย!!!!!!!”
มุขของมัน จังไรทุกวัน ................ ควย
#ทอมแบม
#ทอมแบม
#ทอมแบม
#ทอมแบม
ต่อ
มาร์คกับแบมเข้ามหาลัยได้คณะเดียวกัน สาขาเดียวกันและมหาลัยเดียวกัน เรียนด้วยกัน
อีกแล้ว
แต่เราก็ยังไม่ได้คบกัน จนเราขึ้นปี 2 ป๊าถึงยอมใจอ่อนให้มาร์คเข้าใกล้แบมได้ หมายถึง ต่อหน้าป๊า อยู่ที่ม. ทีไรมันก็เนียนทุกที เอะอะเป็นจับ เอะอะเป็นกอด ผู้ชายเข้าใกล้ไม่ได้ ผู้หญิงยิ่งแล้วใหญ่ นี้ไว้ผมยาวแล้วมันยังกลัวอะไร
ถึงจะผ่านด่านป๊าก็ใช้จะผ่านด่านแบม ขนาดยังไม่ได้คบมันยังเอากำไรเช้าเย็น ถ้าคบมันเลยแบมกลัวมาร์คมันจับแบมซั่มเช้าเย็น
กูกลัว
จนขึ้นปี 3 นั้นแหละแบมถึงยอมคบ ผิดคาดแฮะ มาร์คให้เกียรติแบมทุกอย่าง ตอนแรกที่ยอมคบก็กลัวว่ามาร์คจะเปลี่ยนไป แต่ไม่เลยมาร์คน่ารักขึ้น จากเดิมที่ดูแลแบมดียังไง ยิ่งมากเป็นสองเท่า มาร์คแวะมาช่วยทำอาหารที่บ้านแบมทุกวัน ก็แบมทำไม่เป็นอะ รอกินอย่างเดียว จนม๊าแทบจะยกลูกสาวให้ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบอยู่ละ เราดูรักกันดี แต่ก็นั้นแหละเราก็ทะเลาะกันบ่อยเหมือนกัน แต่ส่วนมากเป็นเรื่องไร้สาระ
“มาร์คแบมไม่ชอบไข่เป็ด”
“แต่ไข่เป็ดมันถูกนะแบม”
“มันคาว”
“ใบมันใหญ่กว่านะแบม”
“ก็แบมไม่ชอบอะ!”
“แต่ซื้อไปมันคุ้มนะ นี้มีลดราคา 10% แผงนึงแค่ 90 บาทเอง”
“แต่เงินอยู่กับแบม”
“จ๊ะ ไข่ไก่ก็ไข่จ๊ะที่รัก”
ก็นะ ให้รู้ซะมั้งใครใหญ่กว่า
4 ปีแล้วจากวันที่มาร์คสารภาพรักกับแบม เราอยู่ด้วยกันมานาน แต่กว่าจะรักกันได้ ต่างคนต่างมึนกันอยู่นาน เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก เป็นแฟนกันแค่ 2 ปี ชีวิตดีแท้ =..=
วันนี้เป็นวันรับปริญญาของเราทั้งคู่แล้ว เรียนจบ เตรียมตัวออกไปใช้ชีวิตในโลกความจริง ครอบครัวของเราทั้งสองนัดกันไปฉลองวันรับปริญญากัน แต่มาร์คไม่ได้บอกแบมว่าที่ไหนบอกแค่ร้านอาหารหรู 5 ดาว จนมาร์คมาจอดรถหน้าร้านอาหารที่คุนเคย เป็นที่ประจำของเราสอง ร้านอาหารที่มีป้ายสีแดงประดับด้วยตัวอักษร M สีเหลืองตรงกลาง
หึ Mc Donald
แบมใส่เดรส มาร์คใส่สูท มาแดกแมค เจริญละ................
“ไหนภัตราคารหรูของแก”
“ที่รักนี้ก็หรูนะ มีพรมแดงบนหลังคาด้วย”
“นั้นมันป้ายไอ้มาร์ค”
“เอ้า ที่รักเข้าไปก่อนพ่อแม่เรารออยู่นะ”
“เออ!!”
รอบนี้โมโห ไม่ได้เสียดายภัตตาคารหรูหรอก แบมอายคนเนี้ยเดรสยาวจีวองชี่จัดเต็มเลย มาแดกแมค แบมกระแทกสนเท้าเข้าร้าน ว่าแต่ร้านมือดจังวะ เปิดจริงปะเนี้ย เอ่อช่างแม่งหิว
Will You Marry Me
ที่รัก...แต่งงานกันนะคนดี
มันถึงเวลาต้องพอสักที
อีกครึ่งชีวิตนี้จะขอดูแลเธอ
ทันทีผลักประตูร้าน เสียงเพลงดังขึ้น ไฟทุกดวงสว่าง พร้อมแสงไฟทุกดวงสาดมาที่แบม ป้า
“แบมแต่งงานกับมาร์คนะ” มาร์คสวมกอดแบมจากด้านหลัง หกคำนั้นยังคงก้องกังวานในหัวแบม
มาร์คผละออกจากแบม ก่อนนั่งคุกเข้า หยิบกล่องกำมะยี่สีแดงเปิดออก ภายในบรรจุแหวนทองคำขาวประดับเพรชเม็ดเล็กๆ หยิบออกจากล่อง ก่อนยื่นมาไว้ตรงหน้าแบม
“ให้มาร์คได้ดูแลแบมตลอดชีวิตได้ไหม”
“อะ อือ” ตอบได้เพียงเท่า เสียงของแบมมันสั่นไปหมด นัยต์ตาร้อนพราว พลางยืนมือซ้ายให้ มาร์คลุกขึ้น บรรจงสวมแหวนวงเล็กพอดีนิ้วนางข้างซ้าย ทันทีที่สวมเสร็จเราทั้งสองต่างโผเข้ากอดกัน แบมได้ยินเสียงหัวใจของมาร์คที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เช่นเดียวกับแบมในตอนนี้
มาร์ค ผละออกก่อนกดจูบที่ริมฝีปากแผ่วเบา แบมหลับตาพริ้มรับสัมผัสจากคนรัก ราวกับโลกนี้มีเพียงเราสองคน
“อะ แฮ่ม พอได้แล้วมั้ง” ป๊ากะแอ่มไอ แบมผละออกจากมาร์ค แต่แขนแกร่งยังรั้งเอวไว้ แบมมุดเข้ากับอกมาร์คมันซะเลย ทั้งพ่อมแม่มาร์ค ทั้งป๊าม๊ามาร์ค นี้ไม่ร่วมพนังงานที่ยืนเป็นสักขีพยายาน
เขินเว้ย!
“ทำไมมาขอร้านนี้อะมาร์ค มีแต่คนรู้จักเต็มเลย”
“ก็เหมาร้านถูกดี”
“อิมาร์ค!!!”
“ก็แบมกับมาร์คมากินร้านนี้ทุกวัน ทุกครั้งที่แบมมาแบมจะได้คิดถึงวันที่มาร์คขอแบมแต่งงาน”
รู้สึกเหมือนเอาหน้าไปแนบกับที่ทอดแฮมเบอร์เกอร์ อิบ้ามาร์ค -///////////- เกลียดดด
Together Part
2 พฤษาคม 2558
ภายในห้องเล็กสีขาวคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นสเปย์ ฉีดผม เจ้าสาวแก้มยุ้ยยู่จมูก โบกมือไปมาไล่ละอองสีขาว
“ม๊า เหม็นอะ”
“เหม็นก็ทน จะได้สวยๆ”
“เข้าห้องมันก็ไม่อยู่ทรงละปะ”
“ว๊ายย!! ยัยลูกคนนี้ ดูพูดจาเข้า ใครสอนแกเนี้ย” เสียงของม๊าดังเอาซะแบมแบมเทบจะปิดหูไม่ทัน ก็นี้มันเรื่องจริงนี้นา แบมแบมพูดอะไรผิดกัน
“พอเลยนะแก เดี๋ยวม๊าเติมปากให้ ปากซีดไป ไม่สวยเดี๋ยวผัวแกหมดอารมณ์”
“ม๊า!!!!!!! ว่าแต่แบมอะ ยองแจดูม๊าเราดิ” แบมแบมเลื่อนสายตาขอความเห็นใจ ไปยังเพื่อนสนิทที่สวมชุดเพื่อนเจ้าสาวสีม่วงลาเวนเดอร์ ขัดกับผมสีดำสั้นกุดและท่าทางทะมัดทะแม่งแบบผู้ชาย
“ฉันเข้าข้างม๊าอะ โทษทีนะแบม “
“อ้าวไงงั้นอะ เพื่อนเลว”
“แกสิเลว ถ้าน้องฮานิมาเห็นฉันสภาพนี้ไม่บอกเลิกเลยอ่อวะ” แบมแบมกับม๊าไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่มองกันอย่างเข้าใจหัวเราะกันเพียงสองคน ก็ยองแจอะสวยจะตาย แต่เสียดายเป็นทอม หมายถึงทอมจริงๆ ไม่ใช่แบบแบมแบมที่ตัดผมประชดมาร์คนะ
แต่ว่าวันนี้เพื่อนเจ้าบ่าวของมาร์คก็หล่อ น่ารักหลายคนนะ โดยเฉพาะแจ็คสัน ที่ไม่รู้ไปสนิทกันอิท่าไหน แต่แบมแบมแอบเห็นว่าแจ็คสันมองเพื่อนเขาไม่วางตา ก็ปล่าวอะไร แต่ก็อยากให้เพื่อนใส่ชุดเจ้าสาวไม่ใช่ไปเป็นเจ้าบ่าวให้คนอื่น
“แกมองไรวะแบมแบม”
“ป่าว วันนี้แกสวยดีนะยองแจ”
“หุบปากไปเลย นี้พี่ยองแจเดือนสตรีฮวาซอง อย่าชมสวยมันจะผิดผี”
“โอเคจ๊ะ ยัยชะนี ความชะนีของแกมันหลบฉันไม่พ้นหรอก แบมรู้แบมเห็นบอกไว้เลย” เงียบ ไร้เสียงต่อขาน ยองแจหมดคำจะเถียงได้แต่จัดชุดเจ้าสาวให้แบมแบม จะให้ตอบอะไรเถียงไปเข้าตัวตลอด แบบยองแจนี้แมนเตะบอลนะ
ตาเรียวเล็กเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง สะกิดเจ้าสาวเป็นเชิงบอกว่าถึงเวลาแล้ว แบมแบมลุกจากเก้าอี้แต่งตัวจับมือยองแจกับม๊าไว้คนละข้าง ทั้งสองบีบมือเบาเป็นการให้กำลัง ทั้งม๊าและยองส่งยิ้มอ่อนให้
“โอ๊ะ เดี๋ยวแบมแบม ม๊าลืม แปบนะลูก” ม๊ายกมือห้ามเจ้าสาวออกนอกห้อง วิ่งไปหยิบกล่องกำยี่สีขาว ก่อนยื่นให้แบมแบม
“อะไรอะม๊า”
“เปิดดูสิ” แบมแบมขมวดคิ้วงุนงง ก่อนเปิดกล่องในมือ
“ม๊า” ทันทีที่เห็นของในกล่อง ตากลมเอ่อไปด้วยน้ำตาเม็ดหากแต่พยายามกั้นไว้ไม่ให้ไหลออกมา ปากอิ่มคลี่ยิ้มกว้าง
“สร้อยของยายแก สร้อยประจำตระกูลเรา ยายให้แม่ตอนแต่งงาน” สร้อยเพชรประดับไพลินของม๊าโชว์เด่น ม๊าเคยเอาให้แบมแบมดูบอกเป็นของขวัญที่ยายให้วันที่ม๊าแต่งงานกับป๊า ม๊าบอกว่าถ้าแบมแต่งงานเมื่อไร ม๊าก็จะให้เช่นกัน ทุกครั้งที่ม๊าเอาให้แบมแบมดูใบหน้าม๊าเปื้อนยิ้ม ป๊าก็เคยชมให้วฟังว่าวันที่ม๊าสวมสร้อยเส้นนี้ม๊าสวยมาก สวยยจนป๊าตกหลุมรักป๊าอีกครั้ง ม๊าเคยใส่แค่ครั้งเดียวตอนแต่งงาน มันสวยมากแบมแบมก็อยากลองสวมสักครั้งแต่ม๊าบอกให้รอ รอวันที่แบมแบมแต่งงานกับคนที่แบมรัก
“แม่จะให้แกวันแต่งงานเหมือนกัน หันหลังมาสิม๊าจะใส่ให้” ม๊าหยิบสร้อยก่อนสวมให้ แบมแบมย่อตัวเพื่อให้ม๊าสวมได้สะดวก
“อ๊ะ เสร็จแล้ว ไหนหันมาให้ม๊าดูสิ” แบมแบมหันหน้า ม๊ายิ้มให้แบมแบม สายตาบอกว่าวันนี้ลูกเธอสวยกว่าใคร
“ขอบคุณนะม๊า ขอบคุณที่เลี้ยงแบมมา ขอบคุณที่ให้ความรักแบมนะ แบมรักม๊านะ รักม๊าที่สุด” แบมแบมกอดม๊าไว้แน่น วันนี้ลูกนกตัวน้อยของม๊ากำลังจะบินออกจากรังเพื่อไปสร้างรังใหม่ สร้างครอบครัวกับมาร์ค เห็นแบมแบมได้อยู่กับคนที่ลูกรักและคนที่รักลูก ม๊าก็มีความสุข
“ม๊าก็รักแบมแบมนะลูก” กระชับอ้อมกอดแน่น ลูบหลังเจ้าสาวคนสวยพยาพยามกลั้นน้ำตา เดี๋ยวลูกสาวเห็นจะร้องไห้ตาม๊า
“ ไม่เอาไม่ร้องนะ ตาเลอะหมดแล้ว” ม๊าถอนกอด ยองแจส่งทิชชู่ให้ม๊าซับน้ำตาให้แบมแบม ดูสองแม่ลูกบอกรักกันยองแจก็พลอยยิ้มไปด้วย
“ปะคนสวยของแม่ ไปได้แล้ว เจ้าบ่าวรออยู่” แบมแบมยิ้มรับ พยักหัวเล็กน้อย ก่อนทั้งสามจะจูงมือกันก้าวออกจากห้องแต่งตัว
ทางด้านเจ้าบ่าวก็ใช่จะชุลมุนน้อยเสียเมื่อไร มาร์คเอาแต่สั่น ทั้งกังวลทั้งตื่นเต้น จินตนาการถึงแบมแบมในชุดเจ้าสาว อยากรู้จะสวยขนาดไหน มาร์คยังไม่เห็นแบมแบมในชุดเจ้าสาว วันลองชุดก็ไม่ยอมให้ดูเพราะเจ้าสาวตัวดีอยากให้เป็นเซอร์ไพร เมื่อเจ้าสาวขอเจ้าบ่าวอย่างเขาก็ขัดอะไรไม่ได้
หัดรู้จักยอมเมียแล้วจะเจริญ
พ่อว่ามางั้น แต่ไม่ต้องรอให้พ่อสอนมาร์คก็ขัดอะไรแบมแบมไม่เคยได้อยู่แล้วละ
“เห้ย ไอ้เจ้าบ่าวถึงเวลาละโว้ย” แจ็คสันเปิดก่อนชะโงกหน้าเข้ามาพูดกับคนในห้อง
“โอ้ยไร้วะมาร์ค ยื่นสั่นเชียวมึง ตื่นเต้นหรอวะ”
“เออดิวะ แต่อย่าว่างั้นงี้เลย ทั้งตื่นเต้นทั้งกลัววะ”
แจ็คสันก้าวเข้ามาให้ห้อง ปิดประตูเบามือ ก่อนเดินมาตบบ่ามาร์คเป็นเชิงปลอบใจ
“กลัวไรวะ ไหนเล่าดิ๊”
“กลัวดิ กลัวว่าจะดูแลแบมไม่ได้ กลัวจะทำแบมเสียใจ กลัวว่าจะไปกันไม่รอด กลัววะ กลัวไปหมด”
“เชี้ย นึกว่าอะไร ฮ่าๆ” แจ็คสันหัวเราะ
“อ้าวหัวเราะอีกห่า กูเครียดนะเว้ย!”
“ตอนเป็นเพื่อนกันมึงก็อยู่กันได้นี้หว่า ตอนมึงคบกันมึงก็อยู่กันดี มึงกังวลไรวะ”
“แต่นี้มันทั้งชีวิตนะมึง มันคนละจุดกับตรงนั้นละเว้ย เราต้องแขร์ชีวิตกับอีกคน ดีไม่ดีอาจจะสอง สาม สี่คน กูไม่รู้วะ บ้างทีก็สงสัยว่าตัวเองดีพอรึยัง” เจ้าบ่าวถอนหายใจแรง แบมแบมคือคนที่มาร์คอยากจะใช้ชีวิตด้วย แต่บางทีก็อดที่จะกังวล ว่าตัวเองดีพอรึยังไม่ได้จริงๆ
“กูว่ามึงเลิกกังวลถึงอนาคตเถอะวะ แค่ทำวันนี้ให้มีความสุขก็พอแล้วมาร์ค ทุกวันมึงเคยอยู่กันยังไง มึงก็อยู่กันแบบนั้นแหละ มึงมีคู่ชีวิตนะไม่ได้มีภาระ ไม่ใช่แค่มึงต้องดูแลแบม แต่แบมก็ต้องดูแลมึงเหมือนกัน”
“แต่มึง...”
“กูถามคำเดียวแบมใช่คนที่มึงอยากจะตื่นมาเจอเป็นแรกทุกเช้ารึปล่าว?” แจ็คสันกอดอกถาม มองมาร์คด้วยสายตาจริงจัง คนตรงหน้าไม่ได้ตอบอะไร เอาแต่ก้มหน้า มือหนานวดขมับไปพลาง
มาร์คง่ายหน้ามองแจ็คสัน ก่อนตอบคำถามเมื่อครู่ “แล้วถ้ากูตื่นบ่ายละ”
“ไอ้ห่า!!! แม่งกวนตีนกูได้งี้ ดีแล้วไง สัสเอ๋ยกูไม่น่าปลอบมึงเลย” เจ้าบ่าวตัวแสบไม่พูดอะไร เอาแต่หัวเราะชอบใจ ได้กวนตีนคนก่อนแต่งมันก็สบายใจนะเออ
“โอ้ย ไปๆ จะได้เวลาแล้ว ไปรอที่แท่นพิธีได้แล้ว คุณพ่อให้มาตาม แม่งเอ้ย” แจ็คสันไม่วายสบถ ตบหัวเจ้าบ่าวแรง ก่อนลากมาร์คออกจากห้อง มันก็จริงที่แจ็คสันพูดทำไมมาร์คต้องกังวลวะ นอกจากพ่อแม่ก็มีแบมนี้แหละที่รู้จักมาร์คดี รู้ดียันไซต์กางเกงในนั้นแหละ
สวนเล็กของตระต้วนถูกดัดแปลงเป็นสถานที่จัดพิธีมงคลในวันนี้ เก้าอี้ไม้สีขาวถูกจัดเรียงเพื่อให้บรรดาแขกเหรื่อในงานนั่งตอนทำพิธี เค้กแต่งงานถูกวางไว้อีกด้าน บนยอดมีตุ๊กตาเจ้าสาวขี่หลังเจ้าบ่าว สองบ่าวสาวไม่อยากให้ต้องแยกจากันตอนตัดเค้ก ถ้าจะต้องแยกคงต้องผ่าเป็นสองซีกไปเลย จะได้มีกันและกันตลอดไป
แขกทั้งหมดนั่งประจำที่กันหมดแล้ว ส่วนเจ้าบ่าวของก็ยืนอยู่ไม่สุขในศาลาไม้สีขาวที่ถูกเนรมิตให้เป็นแท่นพิธี ตาคมค่อยถอดไปยังทางที่เจ้าต้องเดินมา
“แหวนพร้อมนะเว้ย” มาร์คถามแจ็คสันเพื่อความแน่ใจ
“เอ่อ อยู่นี้แหละ มึงอะหยุดหรุกหริกได้แล้ว”
“ให้โอกาสกูตื่นเต้นมั้งดิ”
“พ่อก็ว่าลูกควรหยุดสั่นนะ พ่อเวียนหัว ลูกควรไปยืนรอรับจ้าสาวตรงไปหน้าศาลาได้แล้วนะ” ทั้งเพื่อนเจ้าบ่าว ทั้งบาทหลวงยังต้องออกปากห้าม มาร์คตื่นเต้นจนสั่นไปหมดแล้วจริงๆ ก็นึกว่าเจ้าเข้าหรือไร ลองถามใจตัวเองดู ถ้าสั่นแรงกว่านี้คงตรงจุดธูปขอหวยกันแทน
ป๊ารอรับเจ้าสาวหลังประตู เมื่อเห็นลูกสาวในชุดเจ้าแล้วอดจะยิ้มไม่ได้ วันนี้ลูกสาวป๊าสวยจริงๆ แอบเห็นนะ คนเป็นแม่ยืนซับน้ำอยู่ด้านหลัง สูดน้ำมูกเสียงเบา ม๊าแบมนี้น่ารักเสมอในสายตาป๊า แบมแบมเห็นสายตาป๊าที่มองม๊าทำไรก็พาลจะเขินแทนม๊า
“พร้อมนะลูก” ยกแขนตั้งฉาก รอเจ้าสาวมาคล้องแขน
“คะ” แบมแบมตอบฉีกยิ้มกว้าง ก่อนเดินไปคล้องแขนพ่อ ป๊าชะโงกหน้าออกจากหลังม่านกั้นส่งสัญญาณให้คนบรรเลงเปียโน
ทันทีที่โน้ตตัวแรกกังวาน แขกยืนขึ้นเพื่อให้กียรติการมาของเจ้าสาว มาร์คละจากการสนทนาทุกอย่าง มองตรงไปยังเจ้าสาว ร่างเล็กในชุดเจ้าสาวเกาะอกสีขาว ผมยาวทุกเกล้าจัดเป็นทรง ใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเฉดสีอ่อน วันนี้เจ้าสาวของเขาดูสวยจริง สวยมาก มาร์ครู้สึกอยากจะหยุดหายใจ
แบมแบมเกาะแขนป๊าไว้แน่นทั้งกลัวล้ม เขินอาย ตื่นเต้นมันประสมปนเปกันไปหมดหลังย่างเท้าออกจากม่านกั้น
“แบมแบมโอเคนะลูก” ป๊าถามลูกสาวเสียงเบา
“คะ หนูแค่ตื่นเต้น” แบมแบมพยักหน้าตอบกระชับวงแขนป๊าแน่น
“มองเจ้าบ่าวของลูกไว้สิ” แบมเงยหน้าตามที่ป๊าบอก
ทันทีที่เห็นมาร์คยิ้มกว้างให้ แบมแบมรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกขาเรียวก้าวย่างอย่างมั่นคง สองสายประสานกันบรรดาแขกเหรื่อในงานหายไปฉับพลัน ราวที่ตรงนี้มีเพียงมาร์คและแบมแบมเท่านั้น
ป๊ากอดแบมแบม ก่อนส่งมือให้เจ้าบ่าวอย่างมาร์คดูแลแบมแบมต่อ เจ้าบ่าวยื่นมือรับเจ้าสาว เพื่อขึ้นมาบนแท่นพิธี มือทั้งสองข้างยังกุมกันไว้แน่น บาทหลวงมองไปรอบก่อนส่งสัญญาณให้แขกนั่งลง
“ท่านทั้งหลายที่เรามาชุมนุมกันในวันนี้เพื่อเป็นพยานสมรสของนาย ต้วน อี้เอิ้น และ นางสาวปิ่นมุกต์ ภูวกุล พูดตามพ่อนะ”
“ข้าพเจ้านายต้วน อี้เอิ้น / ข้าพเจ้านางสาวปิ่นมุกต์ ภูวกุล”
“จะรับนางสาวปิ่นมุกต์ ภูวกุล / จะรับนายต้วน อี้เอิ้น”
“เป็นคู่ชีวิต”
“จะร่วมทุกข์ร่วมสุข”
“ทั้งยามมีและยามจน”
“ยามเจ็บป่วย
“และยามแข็งแรง”
“จะครองรัก
“และเชิดชู”
“จนกว่าชีวิตจะหาไม่”
“ท่าทั้งสองจะรับกันเป็นสามีและภรรยาหรือไม่”
“รับครับ / รับคะ”
“เชิญท่านทั้งสองสวมแหวนให้กันและกันได้”
เมื่อกล่าวปฏิญาณทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างแลกแหวนซึ่งกันและกัน ก่อนโน้มตัวจูบต่อหน้าธารกำนัล เพื่อเป็นการประกาศว่าทั้งสองนั้นได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์
มาร์คจับมือเล็กไว้แน่น ทั้งสองสบสายตากันก่อนยิ้มออก มาร์คก้มลงกระซิบข้างหูคนตัวเล็ก ทำเอาคนตัวเล็กอดจะเขินไม่ได้ หยิกแขนแกร่งไปเสียหนึ่งที นิ้วเรียวกระดิกเรียกให้คนตัวสูงรับฟังสิ่งที่ตนอยากพูดเช่นเดียวกัน ทันทีที่ฟังจบมาร์คจูบเจ้าสาวอีกครั้ง เรียกเสียงหัวเราะให้แขกไม่ใช่น้อย ไม่ใครรู้ว่าทั้งสองพูดอะไรกัน แต่การกระทำนั้นอดที่จะเรียกความเอ็นดูจากแขกในงานไม่ได้
วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้
ตอนนี้มีเพียงมาร์คและแบมแบม
อาจไม่ได้อยู่รวมกันตลอดไป
แต่จะรักกันตลอด
END
Special Part คืนส่งตัว
การส่งตัวแบมแบมกับมาร์คตัดสินใจให้เป็นแบบไทย พ่อแม่ ของทั้งคู่และเพื่อนบ่าวสาวคนสนิทอย่างแจ็คสันและยองแจก็ร่วมกันมาส่งทั้งคู่ด้วย
“เป็นคู่ผัวตัวเมียแล้วนะลูก มีอะไรก็ค่อยๆพูด ค่อยๆจา” ม๊าลูบหัวแบมแบม เจ้าสาวพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย
“ส่วนเรื่องๆเงินทองๆ แกก็ให้หนูแบมดูแลนะเจ้ามาร์ค เก็บเงินไว้กับเมียแล้วจะเจริญ” แม่มาร์คบอกเจ้าลูกชายตัวแสบ
“แต่เมียมาร์คขาช้อปนะม๊า โอ้ยยย แบมมาร์คเจ็บ” แบมแบมบิดเข้าที่หูมาร์คเข้าให้ เจ้าบ่าวแบมนี้มันกวนตีนได้ทุกเวลาจริงๆ
“เชื่อแม่สิมาร์ค” แบมแบม ดีดหูอีกคนทิ้งท้าย
“มาร์คยอมแล้วจ๊ะเมียจ้า TT” คนเป็นพ่อเป็นแม่ได้แต่หัวเราะ คู่นี้รักกันรุนแรงจริงๆ
“เอ่อๆ ป๊าว่าป๊าไม่มีอะไรแล้วละลูก” ดูท่ามาร์คมันจะยอมเมีย แบบไม่ต้องสอน ป๊าแบมก็หมดห่วง
“แล้วคุณละคะ” แม่มาร์คหันไปถามพ่อ
“เห็นมาร์คมันยอมเมียละพ่อก็ไม่มีอะไรจะสอน พ่อเราปล่อยเด็กๆ เขาอยู่กันเถอะคุณ” ผู้ใหญ่ทั้ง 4 พยักหน้าเห็นด้วย กอดลาลูกๆ
กล่าวอบรมเรื่องใช้ชีวิตคู่เรียบร้อยก็ปล่อยให้บ่าวสาวได้อยู่ในห้องกันสองคน ส่วนหน้าประตูก็มีเพื่อนสนิทยืนเฝ้าหน้าห้องเพื่อกันคนรบกวน ผู้ใหญ่ว่างั้น ยองแจลอบถอนหายใจ ก็อิตาแจ็คสันบ้าบออะไรมันไล่จีบยองแจตั้งแต่เจอหน้ากันตอนไปช่วยเตรียมงานแต่งแล้ว
“น้องยองแจจ้า เมื่อไรน้องยองแจจะให้เบอร์พี่แจ็คอะ” พูดไม่ทันขาดคำ
“ไปไกลๆเลย เราไม่ชอบผู้ชาย”
“แต่พี่แจ็คชอบทอมนะ ฮริ๊งๆ” ฮริ๊งพร่องสิ
“โอ้ย ไอ้บ้า” ยองแจสะบัดตูดจะเดินหนี แต่ไปได้ไกลก็นึกขึ้นได้ว่าผู้ใหญ่มอบหมายหน้าที่อะไรให้ จำใจต้องกลับมานั่งโซฟาเยื้องห้องนอนบ่าวสาว แจ็คสันรีบวิ่งมานั่งประกบ สงสัยคืนนี้จะอีกยาวไกล
ยองแจละปวดหัว เฮ้อ
ทางด้านห้องหอ
แบมแบมนอนด้านซ้าย ส่วนมาร์คนอนด้านขวาติดกับประตูตามเคล็ดที่คนไทยถือ ว่าเมื่อมีอันตรายสามีจะได้ปกป้องภรรยาของตน
มาร์คหันตะแคงข้างมองหน้าแบมแบม “วันนี้เจ้าสาวของมาร์คสวยจัง” มาร์คพูด
“บ้า” ตบไหล่เจ้าบ่าวไปทีนึงด้วยความเขิน แบมแบมอมยิ้มแก้มแทบปริ สามีหมาดๆ ของแบมนี้ก็ขยันหยอดจริง ไม่คิดว่าแบมจะเขินรึไง
“แบมที่พูดที่แท่นพิธีอะ มาร์คเอาจริงนะ” มาร์คยิ้มกริ่ม พลิกตัวขึ้นคร่อมแบมแบม ร่างเล็กใช้มือยันอกอีกคนไว้ หน้าแบมตอนนี้ถ้าแตกได้มันคงแตกไปแล้ว เขินจะบ้า
“เออๆ งั้นแบมแบมไปอาบน้ำก่อนได้ไหมอะ” แบมแบมท่าจะลุกออกไปอาบน้ำ
“ไม่เอาอะ มาร์คจะเอาตอนนี้” มาร์ครั้งตัวแบมแบมกันมาทีเดิม แอบเห็นหน้าเจ้าสาวแดงกล่ำเป็นลูกมะเขือเทศสุกเชียว ทีตอนแท่นพิธีนี้พูดไม่เขินเลยนะ
“แบมเหนียวตัวอะมาร์คน้า แบมตัวเหม็นหมดละด้วย”
“ไหนมาร์คลองดมซิ” มาร์คทำท่าสูดกลิ่นจากซอกคอแบมแบม ทำเอาเจ้าตัวเอียงคอหนีแทบไม่ก็มันจั๊กจี๊นี้
“ไม่เห็นเหม็นเลย เมียมาร์คตัวหอมจะตาย แต่เดี๋ยวไม่ชัวร์ขอมาร์คพิสูจน์อีกที”
Special Part คืนส่งตัว
การส่งตัวแบมแบมกับมาร์คตัดสินใจให้เป็นแบบไทย พ่อแม่ ของทั้งคู่และเพื่อนบ่าวสาวคนสนิทอย่างแจ็คสันและยองแจก็ร่วมกันมาส่งทั้งคู่ด้วย
“เป็นคู่ผัวตัวเมียแล้วนะลูก มีอะไรก็ค่อยๆพูด ค่อยๆจา” ม๊าลูบหัวแบมแบม เจ้าสาวพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย
“ส่วนเรื่องๆเงินทองๆ แกก็ให้หนูแบมดูแลนะเจ้ามาร์ค เก็บเงินไว้กับเมียแล้วจะเจริญ” แม่มาร์คบอกเจ้าลูกชายตัวแสบ
“แต่เมียมาร์คขาช้อปนะม๊า โอ้ยยย แบมมาร์คเจ็บ” แบมแบมบิดเข้าที่หูมาร์คเข้าให้ เจ้าบ่าวแบมนี้มันกวนตีนได้ทุกเวลาจริงๆ
“เชื่อแม่สิมาร์ค” แบมแบม ดีดหูอีกคนทิ้งท้าย
“มาร์คยอมแล้วจ๊ะเมียจ้า TT” คนเป็นพ่อเป็นแม่ได้แต่หัวเราะ คู่นี้รักกันรุนแรงจริงๆ
“เอ่อๆ ป๊าว่าป๊าไม่มีอะไรแล้วละลูก” ดูท่ามาร์คมันจะยอมเมีย แบบไม่ต้องสอน ป๊าแบมก็หมดห่วง
“แล้วคุณละคะ” แม่มาร์คหันไปถามพ่อ
“เห็นมาร์คมันยอมเมียละพ่อก็ไม่มีอะไรจะสอน พ่อเราปล่อยเด็กๆ เขาอยู่กันเถอะคุณ” ผู้ใหญ่ทั้ง 4 พยักหน้าเห็นด้วย กอดลาลูกๆ
กล่าวอบรมเรื่องใช้ชีวิตคู่เรียบร้อยก็ปล่อยให้บ่าวสาวได้อยู่ในห้องกันสองคน ส่วนหน้าประตูก็มีเพื่อนสนิทยืนเฝ้าหน้าห้องเพื่อกันคนรบกวน ผู้ใหญ่ว่างั้น ยองแจลอบถอนหายใจ ก็อิตาแจ็คสันบ้าบออะไรมันไล่จีบยองแจตั้งแต่เจอหน้ากันตอนไปช่วยเตรียมงานแต่งแล้ว
“น้องยองแจจ้า เมื่อไรน้องยองแจจะให้เบอร์พี่แจ็คอะ” พูดไม่ทันขาดคำ
“ไปไกลๆเลย เราไม่ชอบผู้ชาย”
“แต่พี่แจ็คชอบทอมนะ ฮริ๊งๆ” ฮริ๊งพร่องสิ
“โอ้ย ไอ้บ้า” ยองแจสะบัดตูดจะเดินหนี แต่ไปได้ไกลก็นึกขึ้นได้ว่าผู้ใหญ่มอบหมายหน้าที่อะไรให้ จำใจต้องกลับมานั่งโซฟาเยื้องห้องนอนบ่าวสาว แจ็คสันรีบวิ่งมานั่งประกบ สงสัยคืนนี้จะอีกยาวไกล
ยองแจละปวดหัว เฮ้อ
ทางด้านห้องหอ
แบมแบมนอนด้านซ้าย ส่วนมาร์คนอนด้านขวาติดกับประตูตามเคล็ดที่คนไทยถือ ว่าเมื่อมีอันตรายสามีจะได้ปกป้องภรรยาของตน
มาร์คหันตะแคงข้างมองหน้าแบมแบม “วันนี้เจ้าสาวของมาร์คสวยจัง” มาร์คพูด
“บ้า” ตบไหล่เจ้าบ่าวไปทีนึงด้วยความเขิน แบมแบมอมยิ้มแก้มแทบปริ สามีหมาดๆ ของแบมนี้ก็ขยันหยอดจริง ไม่คิดว่าแบมจะเขินรึไง
“แบมที่พูดที่แท่นพิธีอะ มาร์คเอาจริงนะ” มาร์คยิ้มกริ่ม พลิกตัวขึ้นคร่อมแบมแบม ร่างเล็กใช้มือยันอกอีกคนไว้ หน้าแบมตอนนี้ถ้าแตกได้มันคงแตกไปแล้ว เขินจะบ้า
“เออๆ งั้นแบมแบมไปอาบน้ำก่อนได้ไหมอะ” แบมแบมท่าจะลุกออกไปอาบน้ำ
“ไม่เอาอะ มาร์คจะเอาตอนนี้” มาร์ครั้งตัวแบมแบมกันมาทีเดิม แอบเห็นหน้าเจ้าสาวแดงกล่ำเป็นลูกมะเขือเทศสุกเชียว ทีตอนแท่นพิธีนี้พูดไม่เขินเลยนะ
“แบมเหนียวตัวอะมาร์คน้า แบมตัวเหม็นหมดละด้วย”
“ไหนมาร์คลองดมซิ” มาร์คทำท่าสูดกลิ่นจากซอกคอแบมแบม ทำเอาเจ้าตัวเอียงคอหนีแทบไม่ก็มันจั๊กจี๊นี้
“ไม่เห็นเหม็นเลย เมียมาร์คตัวหอมจะตาย แต่เดี๋ยวไม่ชัวร์ขอมาร์คพิสูจน์อีกที”
มาร์คโน้มตัวหาซอกคอแบมหากแต่คราวนี้ไม่ได้ทำเพียงแค่สูดกลิ่นตามที่บอก เจ้าตัวระดมจูบซอกคอแผ่วเบา ไล่จนมาถึงเนินอกขาวที่โผล่พ้นชุดแต่งงาน
“มาร์คค” แบมแบมครางเสียงแผ่ว ก็อายนี้เป็นครั้งแรกของแบมแบม คบกันมาถึงมาร์คจะทะลึ่งขนาดไหนเราก็ไม่เคยเกินเลยไปกว่าจูบเลยสักครั้ง
“ครับ” มาร์คขานรับ ผละออกมาเล็กน้อย แบมแบมรั้งคออีกขึ้นมาประกบจูบ มือหนาเอือมไปด้านหลังพยุงตัวแบมแบมลุกขึ้นนั่ง เพื่อความสะดวกในรูดซิปชุดแต่งงาน ส่วนแบมแบมก็สอดมือดันชุดสูทสีดำออกไปให้พ้นร่างแกร่ง
“แบมช่วยนะ” มือเล็กเอื้อมมือไล่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตทีละเม็ด จนเผยให้เห็นกล้ามเนื้อแน่น แบมแบมอดจะเขินไม่ได้.... ก็พึ่งเห็นครั้งแรก ไม่รู้ว่ามาร์คมีกล้ามด้วย โอ้ยแบมแบมจะบ้าตายสามีแบมแบมล้ำจัง
มาร์คมองการกระทำของแบมแบมแล้วอดจะยิ้มไม่ได้ ยิ่งเจ้าสาวเขินยิ่งน่ารักน่ากอด จนกระดุมเม็ดสุดท้ายถูกปลด มาร์คไม่รอช้า กดจูบเจ้าสาวอีกรอบ มือหนาจัดการลอกคราบแบมแบม ส่วนคนตัวเล็กก็จัดการเสื้อเชิ้ตออกไปให้ตัวอีกคนแต่ริมฝีปากก็ไม่ละจากกัน
ตอนนี้แบมแบมมีเพียงชั้นในเท่านั้นที่ปกปิดเรือนร่าง มาร์คลอบกลืนน้ำ...เมียมาร์คทั้งขาวทั้งซ่อนรูปเลย
“เมียจ้าอยากอาบน้ำใช่ไหม เดี๋ยวมาร์คพาไป” มาร์คช้อนร่างเล็กมาไว้ในอ้อมกอด ก่อนเดินมุ่งไปยังห้องน้ำ น้ำอุ่นถูกเต็มไว้เรียบร้อย กลีบกุหลาบสีแดงถูกโรยไว้เต็มอ่างมีสีชมพูแซมให้เห็นบ้าง วางคนตัวเล็กลงในอ่างเบามือ
“ในอ่างเร้าใจดีนะ” มาร์คพูด ย่อตัวลงขอบอ่าง เอามือเท้าคางก่อนพูดกับเมียตัวเอง
“พูดมากๆ รีบลงมาเลย” ว่าพลางกวักน้ำใส่อีกคน
“เรียกมาร์คแบบน่ารักๆ ก่อนสิ”
แบมแบมยื่นหน้าไปใกล้มาร์ค จุ๊บปากหนึ่งที “ผัวจ้ารีบลงมาสิเมียจ้ารอนะ” ....
มาร์คจะรอห่าอะไรครับ เมียอ้อนขนาดนี้
มาร์คลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จัดการปลดกางเกงออกไปพ้นตัว รีบลงอ่างอาบน้ำขนาดกว้างก่อนกดจูบอีกครั้ง มือหนาลูบไล้ตามสะโพนมน จนมาถึงแผ่นหลังบางปลดตะขอบราเกาะอกสีครีม วางไว้ขอบ กอบกุมทรวงอกไว้ นวดคลึ้ง มืออีกข้างก็รูดรั้งชั้นในตัวจิ๋วออกไป
ร่างกายของแบบเปลือยเปล่าอย่างสมบูรณ์ มาร์คผละจูบ เปลี่ยนเป้าหมายที่ซอกคอขาวอีกครั้ง ไล่ดูดดุ้นไปทั่วจนขึ้นรอยสีแดงอ่อนไปทั่ว ก่อนลองชิมยอดปทุมถันสีอ่อนแลบลิ้นหยอกล้อ ส่วนข้างก็สะกิดพลางสลับนวด ทำเอาร่างเล็กเสียวจิกเท้าเกร็ง มือขยุ้มกุมผมดำระบายความอารมณ์
“อือออ มาร์ค” เสียงครางแหบพล่า เมื่อมาร์คลุกหนักขึ้นเรื่อยๆ
ได้ยินเสียงร่างบางคราง มาร์คอารมณ์แทบพุ่ง แก่นกายคลับตึงไปหมด ผละออกจากทรวงอีกนุ่ม กดจูบร่างเล็กอีกครั้งเพื่อเบนความสนใจ ก่อนจะส่งนิ้วเข้าไปเพื่อช่วยเบิกทางแบมแบม
“อ๊ะ อืออ” เสียงเล็กร้อง สะดุ้งเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมกำลังเข้ามาในร่างกาย มาร์คเบนความสนใจแบมด้วยการจูบเช่นเดิมหากแต่คราวนี้ร้อนแรงขึ้นจนร่างเล็กลืมความเจ็บ นิ้วยาวขยับเข้าออก จนทางรักเริ่มปริ่มน้ำ
“มาร์คเข้ามาเถอะ” แบมแบมพูดเสียงแหบพล่าแทบจะเหมือนเสียงครางซะมากกว่า
“แบมพร้อมนะ เจ็บบอกมาร์คนะครับ” บอกพลางกดแก่นเข้าช่องทางรัก นิ้วเล็กจิกแผ่นหลังแกร่งระบายความเจ็บ คิ้วเรียวขมวด จนมาร์คไม่กล้าจะเข้าไปต่อ
“เข้ามาให้สุดเลยมาร์ค” แบมแบมบอกเมื่อเห็นอีกคนชะงัก......เมียบรรชามาร์คก็ทำตามครับดันแก่นกายจนสุด ทิ้งไว้สักพัก ก่อนถอนออกมาเล็กน้อยก่อนกระแทกกลับเข้าไป
“อ๊ะ..มาร์ค” สะโพกมนแอ่นรับสัมผัสจากอีกคน ภายในตอดรัดทำเอามาร์คแทบคลั่ง ขยับสะโพกตามแรงอารมณ์จนร่างสั่นคลอน
“ซี้ดด เมียจ้าของมาร์คน่ารักที่สุด”
“อื้อออ มาร์ค แบมเสียวว” คนด้านบนซุกอกนุ่ม ด้านหลังยังขยับเข้าออกตามพายุอารมณ์
“แบมเรียกมาร์คแบบเมื่อกี้หน่อยได้ไหม”
“อ๊ะ อือ อะไรอะ อ๊ะ อ่ะ” แบมแบมพยายามตอบ แทบจะคุ้มเสียงตัวเองไม่อยู่
“ตอนที่แบมอ้อน มะ มาร์คไง”
“อื้อ ผะ ผัวจ้า ระ เร็วอีกได้ไหม อะ อื้อ มะ เมียจ้า ทนไม่ไหวแล้ว” ใบหน้าเล็กเชิดขึ้น ทันที่มาร์คกระแทกเข้ามาทั้งแรงทั้งเร็ว เผลข่วนหลังแกร่งจนเป็นริ้วยาว มือหนายกขาเรียวพาดบ่าเพื่อแก่นกายเข้าไปได้ลึกอีก
“อื้ออ เร็วอีกสิ ผัวจ้าาาาาา” แบมครางลั่น คุ้มตัวเองแทบไม่อยู่ มีแต่ความเสียวซ่านมาแทนที่
มาร์คกำขอบอ่างแน่น จนมันแทบละเอียดคามือ แบมแบมเวอร์ชั่นนี้ทำเอามาร์คสติกระเจิงไปหม
“เมียมาร์คขี้ยั่วจัง”ยิ่งร่างเล็กอ้อนมาร์คก็ยิ่งขยับรัวแรง สะโพกบางก็แอ่นรับอย่างไม่ยอมแพ้ น้ำกระเพื่อมออกมานอกอ่างน้ำจนทั้งอ่างแทบจะไม่หลงเหลือน้ำ
“อ๊าาาา มาร์คใกล้แล้ว อื้ออ” เสียงครางหวานคลอเสียงเนื้อกระทบกัน เหงื่อเม็ดพุดที่ขมับ แบมแบมเชิดหน้าสูงเมื่อรู้สึกใกล้จะแตะทางสวรรค์ มาร์คจัดการอุ้มคนตัวเล็กมาไว้ด้านบน จับสะโพกขยับขึ้นลงด้วยตัวเอง อกอิ่มเด้งไปมาจนมาร์คอดที่จะชิมไม่ได้ ลิ้นชื้นเลียหยอกล้อกับยอดอก เพิ่มความเสียวซ่านให้ร่างเล็ก
“อื้อออ มะ มาร์คมัน สะเสียว”
“ซี๊ดดด แบม” ร่างเล็กขยับขึ้นลงแรง จนมาร์คปลดปล่อย น้ำขาวขุ่นถูกฉีดเข้าไปจนหมด ร่างซบลงบนอกแกร่ง หอบหายใจถี่ด้วยความเหนื่อย มาร์คกอดอีกคนไว้แน่น กดจูบบนหัว
“เหนื่อยแล้วหรอคะ คนดีของมาร์ค” กระซิบถามคนในอ้อมกอด
“อืออ” แบมแบมครางรับ เสียงหวานอ่อนแรง
“ไหนใครบอกมาร์คว่าไม่ได้ลูกแฝดห้ามหยุดไง” มาร์คทวนความจำให้ ยังจำคำพูดที่แบมแบมพูดตรงแท่นพิธีได้เลย
‘แบมแบมวันนี้อยากได้ลูกชายลูกผู้หญิง’
‘ไม่เอา จะเอาทั้งคู่ ไม่ได้แฝดห้ามหยุดนะ’
“ไอ้บ้ามาร์ค” ผละออกจากอ้อมกอด ตบลงที่อกแกร่งแรงหนึ่งที ใครใช้ให้พูดให้แบมเขิน
“แบมอย่าขยับแรงดิ มาร์คยังไม่เอาออกเลย” มาร์คพูด แบมแบมที่เพิ่งรู้ตัว ตากลมมองด้วยความตกใจ ทำท่าจะดันตัวออก แต่ไม่ทัน อีกคนจับแบมกลับมาที่เดิม
“ลุกไม่ทันแล้วแบม มันมาแล้ว ต่อที่เตียงละกันเนาะ ^^” ว่าจบก็ลุกจากอ่างอุ้มคนตัวเล็กไว้ทั้งที่ส่วนนั้นยังเชื่อมกัน เดินตรงไปที่เตียง ไม่ถงไม่ถามสุขภาพคนตัวเล็กสักคำ
“มาร์คคคคคคคคคคคค พออ บอกว่า พะ พะ อ๊ะ อ่าาาาาาาาาาาาาาาา”
คืนนี้ยังอีกยาวไกล หรืออาจจะยาวไปอีกวัน
END
จบจริงๆละจ้า
http://writer.dek-d.com/konnatepkam/writer/view.php?id=1266462