=br=

“คุยกับใครอ่ะวิน” เสียงใสปนหงุดหงิดของเนยแฟนผมดังมาจากด้านข้าง ผมเก็บโทรศัพท์มือถือลงหลังจากที่เห็นอาจารย์ประจำเซคเรียนเดินเข้ามาในห้องแล้ว
“เจนิสแฟนไอ้ภีม” ผมตอบแบบห้วนๆแบบขอไปทีก่อนจะหยิบเอาชีทเรียนขึ้นมา
“จะคุยไรนักหนา ไม่เกรงใจแฟนชาวบ้านชาวช่องรึไง”
“เรื่องแค่นี้เองนะไม่ได้มีอะไรมากหรอ” ผมตอบก่อนจะมองดูไอ้ตัวปัญหาทีทำให้เจนิสต้องมาปรึกษาผมในไลน์
“เชอะ” เนยอุทานออกมาก่อนจะเก็บชีทกับอุปกรณ์การเรียนลุกหนีเดินไปนั่งกับกลุ่มเพื่อนของเธอแถวหน้าของผม
“เมียงอนอ่อวะ” ภีมถามผมทันทีที่มันนั่งลง
“อือ มึงอ่ะไปไหนมา”
“ไปหาน้องมา” ภีมตอบก่อนจะหยิบชีทเรียนของตัวเองขึ้นมาเหมือนกัน
“ไอ้ภูมิหรอ?”
“ไม่เว้ย เลิกเสือกก่อนครับ มึงจะเรียนมั้ยครับไอ้เพื่อน” ภีมตบไหล่ผมก่อนจะบังคับให้ผมมองหน้าห้องที่อาจารย์กำลังอธิบายสไลด์อยู่
“มึงมีน้องคนเดียวนะไอ้ภีม ใครจะมาเป็นน้องมึงอีกนอกจากไอ้ภูมิ” ผมถามไอ้ภีมแบบไม่ลดละ ก็จริงนี่นา บ้านมันมีแต่ลูกชายคนแรกก็เฮียพีทรุ่นพี่คณะที่เรียนจบไปแล้ว ภีมก็เป็นลูกคนที่สอง ส่วนน้องชายมันก็ไอ้ภูมิเรียนอยู่ปี 2 คณะเดียวกันกับพวกผม
“เรียนก่อนได้มั้ยวะ” ภีมตัดบทก่อนจะสะกิดผมให้มองดูอาจารย์ที่จ้องพวกผมตาเขียวอยู่หน้าห้อง ผมได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้รอเวลาเลิกเรียน
3.50 PM
“เห้ยพวกมึงกูไปก่อนนะเว้ย เจอกันที่สนามบอลเลยละกัน” ไอ้ภีมรีบเก็บของทั้งหมดลงกระเป๋ามันก่อนจะหิ้วแล้วรีบวิ่งลงไป ผมส่งสัญญาณให้ไอ้ตะวัน กับไอ้มิคตามลงไปดูพร้อมกัน ผมก็อยากรู้เหมือนกันที่มันรีบนักรีบหนามันรีบเพราะใคร
ทันทีที่พวกผมเดินลงมาใต้ตึกคณะผมเห็นไอ้ภีมคว้าแขนผู้หญิงที่มองจากดาวอังคารก็ดูออกมาเป็นเด็กปี 1 เพราะใส่ชุดนักศึกษามหาลัยพร้อมกับรองเท้าผ้าใบสีขาวล้วนอันเป็นสัญลักษณ์ของปี1 ไปขึ้นรถมันที่จอดอยู่ลานจอดรถ
“เชร้ดดดด ไอ้ภีมแม่งมีของดีก็ไม่บอก” ตะวันอุทานขึ้นมาทันทีที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดพร้อมกับพวกผม
“มึงว่าแฟนมันจะรู้เรื่องนี้มั้ยวะ” มิคถามพวกผมที่ยืนอยู่ด้วยทั้งหมด
“รู้ แฟนมันสงสัยอยู่เหมือนกัน พึ่งทักมาถามกูก่อนเข้าเรียนเนี่ย” ผมบอกเพื่อนไปตามตรง
“เอาไงดีวะพวกมึง”
“เย็นนี้ตอนไปซ้อมบอลค่อยคุยกับมันให้รู้เรื่องละกันยังไงก็เพื่อนเราทั้งเจนิสทั้งไอ้ภีมอ่ะ” ตะวันให้เหตุผลก่อนที่พวกผมจะแยกย้ายกันกลับ
“วินเย็นนี้ไปกินข้าวกันมั้ย พ่อแม่เนยมาหาพอดีเลย” เนยที่พึ่งเดินลงมาถามผมที่พึ่งจะแยกตัวออกมาจากเพื่อนทั้งสอง
“เย็นนี้วินมีซ้อมบอล”
“อีกแล้วนะจะซ้อมอะไรนักหนา” เสียงใสดังขึ้นเรื่อยๆจนคนที่เดินไปเดินมาเริ่มหันมามอง
“ก็เคยบอกไปแล้วว่าซ้อมทุกวันพุธ – ศุกร์ ลืมรึเปล่าเนี่ย” ผมตอบในขณะที่คว้าแขนเนยให้เดินตามผมไปที่รถ
“ปล่อยเลยนะ ลาสักวันไม่ได้เลยรึไง”
“เนยแต่ก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้หนิ”
“แล้วจะให้เนยทนรอแฟนซ้อมบอล แฟนซ้อมนู่นนี่นั่น แฟนทำกิจกรรมไปถึงไหนอ่ะ ลาสักวันก็ไม่ได้เลยหรอ วันนี้พ่อกับแม่เนยมาหานะ” คนตัวเล็กพยายามเกลี้ยกล่อมผมอยู่ในขณะที่เธอก็พยายามสะบัดมือออกเหมือนกัน
“วันอื่นก็มีนะเนย เสาร์ – อังคารวินก็ว่างเราค่อยไปก็ได้ ส่วนพ่อแม่เนยก็มาหาเนยทุกเดือนอยู่แล้ว ครั้งก่อนวินก็ไปกับเนยแล้ว ไม่เจอครั้งเดียวเอง” ผมตอบอย่างหัวเสีย
“ได้จะเอาแบบนี้ใช่มั้ย งั้นเราเลิกกันดีกว่ามั้ย ทำแบบนี้เหมือนเนยอยู่คนเดียวเลย” เนยบ่นอย่างหงุดหงิด
“เอาอีกแล้วนะ เป็นแบบนี้ทีไรก็ท้าเลิกตลอด”
“ก็เป็นแบบนี้แหละไม่พอใจก็เลิกกันจบ” เนยพูดจบก็สะบัดมืออกมาผมแล้วรีบวิ่งหายไปอีกฝั่งของตึกคณะ ผมเข้าไปนั่งในรถยนต์ของผมก่อนจะถอนหายใจแบบยาวๆ ตอนแรกเนยเข้าใจผมทุกอย่างไม่เคยมีปัญหากับกิจกรรมที่ผมทำเลย แต่ทำไมพักหลังมาเธอถึงเรียกร้องอยากได้เวลาจากผมนักหนาทั้งๆที่ ผมก็ยังยกวันว่างวันอื่นๆให้กับเนยเหมือนตลอด 2 ปีกว่าๆที่คบกันมา
6.00 PM
“ไงวินได้ข่าวว่าทะเลาะกับแฟนมาหรอ” เจนิสที่นั่งอยู่ม้านั่งของสนามบอลทักผมที่เดินทำหน้าหงุดหงิดเข้ามาในสนาม ผมพยักหน้าให้เจนิสแบบขอไปทีก่อนจะมองดูร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆเจนิส
“นี่พราว น้องสาวภีมที่เราเข้าใจผิดคิดว่าเป็นกิ๊กภีมอ่ะ” เจนิสแนะนำคนที่นั่งข้างๆ ก่อนน้องจะเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์แล้วยกมือไหว้ผม
“หวัดดีค่า”
“หวัดดีน้องพราว แล้วนี่หายงอนภีมมันแล้วหรอ” ผมถามเจนิสต่อทันที
“อืมเกือบโกรธภีมละ ดีนะที่ตอนเลิกเรียนภีมพาน้องพราวมาแนะนำให้รู้จักก่อน น้องพึ่งเข้ามาเรียนปี 1 ปีนี้แหละ”
เจนิสยังแนะนำคนข้างๆต่อโดยที่เจ้าตัวไม่ได้พูดอะไรกับผมสักคำมีแค่รอยยิ้มกว้างๆที่ค้างอยู่บนหน้าน้องมาพักใหญ่ๆ
“พี่ชื่อกวินนะพราว เป็นพี่ปกครองเดี๋ยวช่วงรับน้องเราจะเจอกันในคลาสเชียร์ อย่าไปบอกใครล่ะว่ารู้จักพวกพี่ ในสนามนู่นก็ฝ่ายปกครองทั้งนั้น” ผมแนะนำตัวเองกับคนตัวเล็กที่พึ่งจะหุบยิ้มตอนที่ผมบอกว่าผมเป็นพี่ปกครองหรือที่น้องปี 1 มันเรียกกันว่าพี่ว้ากนั่นแหละ
“อ่อค่ะ” คนตัวเล็กพยักหน้ารับคำก่อนจะก้มหน้าก้มตาเล่นเกมในโทรศัพท์ต่อ
“แล้วนี่จะพาน้องนั่งรอไอ้ภีมซ้อมบอลแบบนี้เนี่ยนะ” ผมถามเจนิสเพื่อความแน่ใจเพราะปกติกว่าจะเลิกซ้อมก็เกือบ 3 ทุ่มทุกวัน
“ไม่อ่ะ เดี๋ยวสักพักเราจะพาน้องไปคณะแล้ว น้องต้องไปซ้อมหลีด” เจนิสตอบผม ผมพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะไปวอร์มกับเพื่อนที่รออยู่ในสนามอยู่แล้ว
“ไงวะ เมียงอนรึไง” ไอ้ภีมที่วอร์มรออยู่ก่อนหน้าถามผมทันทีที่ผมเดินลงไปหาพวกมันที่สนาม
“ข่าวไวจังนะพวกมึง”
“ก็เนยเล่นดราม่าเต็มเฟสซะขนาดนั้น แถมขึ้นตัสว่าโสดแล้วนะมึง หนุ่มๆเมนต์จีบกันเพียบ” ไอ้มิคเสริมทันที
“เดี๋ยวใจเย็นค่อยง้อละกัน มึงอ่ะภีม ไปมีน้องสาวงานพรีเมียมขนาดนี้ตอนไหนวะ” ผมถามไอ้ภีมคืนมั่ง คนโดนถามหุบยิ้มทันทีก่อนจะเตะบอลอัดเข้ากลางตัวผม
“น้องคนละแม่โว้ย ไม่ต้องมาจ้องเขมือบน้องกูเลยนะ พวกมึงอ่ะ ตัวไหนก็ตาม คนละแม่แต่กู เฮียพีท และไอ้ภูมิหวงนะครับ หวง”
ไอ้ภีมบ่นอย่างหงุดหงิดก่อนจะชี้หน้าเพื่อนกับรุ่นน้องที่กำลังที่ยืนทำสายตาวิบวับไปให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆเจนิสอยู่ขอบสนาม ก็น่ารักดี