“อเล็ก แม่นทางไปบ้านน้องซึ้มอีหลีเบาะ” ตลอดสองเส้นทางที่เราปั่นจักยานมา มันมืดมิดและช่างน่ากลัวมาก มีแต่แสงแฟลชจากมือถือของผมที่ค่อยส่องแสงสว่างพอให้เห็นรำไร
“พี่ก๊อตย่านติ?”
“ย่าน”
“ย่านเฮ็ดหยัง กะพี่ก๊อตบอกผมว่าอยากเห็นบ้านอ้ายปซึ้มผมกะพามาแล้วนิเด้ บ่ต้องย่านดอก เดี๋ยวกะเห็นหน้าอ้ายซึ้มแล้วรับลองคุ้ม” ผมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อนึกถึงหน้าน้องซึ้ม อีกใจหนึ่งก็กล้าๆกลัวๆ เพราะเป็นครั้งแรกที่มาถ้ำมองผู้ชายถึงบ้าน
“เอ่อๆ ฟ้าวๆ ถีบไปเลย”
ผมกับอเล็กก็ค่อยๆปั่นจักยานตามทางมาเรื่อยๆ ไม่นานก็มาหยุดและแอบอยู่พุ่มไม้ตรงหน้าบ้านที่อเล็กบอกว่าเป็นบ้านซึ้ม
“คือเงียบแท้หน้อ..” ผมด่อมๆมองๆกวาดสายตาผ่านพุ่มไม้เข้าไปในบ้าน
“สงสัยตอนนี้อ้ายซึ้ม กำลังอาบน้ำอยู่พี่ก๊อตอยากเห็นเบาะ”
“บักนิ..มึงคือจัญไรแท้เห็นกูเป็นคนแบบนั้นติ” ผมเอ็ดแล้วชี้หน้ามัน และหันมองเข้าไปในบ้านอีกครั้ง “ตรงได ห้องน้ำบ้านน้องซึ้มอยู่ตรงได พากูไป”
“พี่ก๊อตต้องปีนข้ามรั้วเข้าไป” มันทำหน้าจริงจัง
“หืม?”
“บ่เป็นหยังดอก ผมสิเบิ่งต้นทางให้พี่ก๊อต บ่ต้องย่าน คิดถึงหน้าอ้ายปอนไว้..” ผมหลับตาแล้วถอนหายใจเบาๆ
“เพื่อน้องปอน..!!”
ผมค่อยๆเลือนจักยานเข้ามาประชิดกำแพงรั้วและก้าวขาขึ้นที่ละสเต็ปโดยมีอเล็กช่วยประคองไม่ให้ล้ม ก่อนที่จะกระโดดเข้าไป
ตุบ.!!
และวิ่งไปหลบตรงมุมมืดทันที
“ห้องน้ำอยู่หลังบ้าน..” มันกระซิบพร้อมกับชี้นิ้วบอก
“โอเค”
ตอนนี้ใจผมเต้นสั่นเทา แขนขาเริ่มอ่อนแรง เม็ดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามไรผม เพราะกลัวคนจะมาเห็น และหาว่าผมเป็นโรคจิตร
“เพื่อน้องซึ้ม เพื่อน้องซึ้ม เพื่อน้องซึ้ม เพื่อน้องซึ้ม” เป็นคำพูดปลอบใจตัวเองตลอดการเดินทางมาหลังบ้าน
ซ่าๆ..ซ่า..ๆ
เสียงน้ำตกกระทบกับพื้นกระเบื้องบ่งบอกว่าคนข้างในกำลังทำกิจกรรมส่วนตัวอยู่ โดยมีผมแอบฟังอยู่ข้างนอก
ผมค่อยๆเดินไปหยิบขอนไม่แถวๆนั้นมาวางเพิ่มความสูงก่อนจะเขย่งเท้าขึ้นไปยืดตัวให้สูงที่สุดและใช้ดวงตาเล็กๆของตัวเองมองลอดช่องเข้าไป
“โอ้ว..แม่จ้าวหุ่นซึ้มน่ากินจัง..” ร่างกายที่กำยำของเขาอยู่ในผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เผยให้เห็นแผงอกสีขาวนวล กล้ามเนื้อท้องที่มีพอประมาณ ดูแล้วมันน่าลูบไล้เสียจริงๆ ยิ่งตอนที่เขาเช็ดผมและสะบัดเบาๆ ยิ่งดูเท่ห์
“พี่ก๊อต..พี่ก๊อต..พี่ก๊อต” เสียงอเล็กเรียกเข้ามาทางทางด้านนอก
“อีหยัง..!”
“เช็ดน้ำลายแหน่” ผมคลำดู พบว่ามุมปากของผมเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายของตัวเองไม่รู้ว่าไหลออกมาได้ยังไง ผมเช็ดมันออกลวกๆ และมองเข้าไปในรูอีกครั้ง
“ไผนะ..” เสียงคนข้างในถามออกมาเสียงดัง
ตายกูตายแน่ๆ ผมตกใจมาก กระวนกระวายกลัวโดนจับได้ ถ้าโดนจับมีหวังโดนกระถืบแน่กู.!! ผมยื่นสั่นเทาตกใจกลัว ทำให้ขอนไม้เจ้ากรรมพลิกคว่ำลง
ตุบ..
โครม
ร่างผมลงไปกองกับพื้น จุกก็จุก กลัวก็กลัว ได้แต่ร้องโอดครวญอยู่ในลำคอเบาๆ
“ผู้ไดนะ..” ซึ้มตะโกนถามออกมาอีกครั้ง
โฮ่งๆ โฮ่งๆ
ห่ะ มีหมาด้วยหรอ..
หมาดำวิ่งมาแต่หน้าบ้าน ตามสัญชาตญาณการเฝ้าบ้านของมันพร้อมกับเสียงเห่าดังสนั่นท่วมบ้าน พอมาถึงมันก็แยกเคี้ยวใส่ผมอย่างก้าวร้าว
“บักเล็ก..!! มึงคือบ่บอกกูว่ามีหมา” ไม่มีเสียงตอบรับ “บักเล็ก..!! บักเล็ก..!!” ผมตะโกนสุดเสียง มองดูมันอีกทีก็เห็นมันวิ่งใส่ตีนมาเผ่นหนีหายเข้าไปในความมืด ปล่อยให้ผมนั่งเผชิญหน้ากับภัยอันตรายอยู่คนเดียว “บักห่านิ”
“ซึ้มมึงออกไปเบิ่งสิ หมามันเห่าไผ”
“ครับ”
ตายกูตาย..!!
ตึก..ตึก..ตึก..ตึก
เสียงสาวเท้าของซึ้มดังมาจากหน้าบ้านตรงเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ ผมไม่รู้จะหนีไปทางไหนข้างหลังก็ทางตันด้านหน้าก็มีหมายืนแยกเคี้ยวข่มขู่ ถ้าซึ้มเห็นผมตอนนี้คงจะมองผมเป็นคนไม่ดีแน่ๆ สมองผมเริ่มเบลอ หัวใจเริ่มเต้นถี่รัว ฮอร์โมนพลุ่งพล่านทั่วร่างกาย ทันใดนั้นพละกำลังของผมก็พุ่งเข้าขันสูงสุด ผมรีบลุกขึ้นเกาะรั้วและกระโดดดีดตัวข้ามไปอีกฝั่งอย่างกับหนัง แอคชั่น แม้แต่หมายังอึ้ง
“กูเฮ็ดได้จังไดว่ะ..!!”
ผมรีบวิ่งไปปั่นจักรยานไม่ทีเวลามาอึ้งกับความเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ของตัวเอง แต่ความซวยดันบังเกิดอีกรอบ โซ่จักรยานตก
โฮ่ง โฮ่ง
อีหมาบ้ายังวิ่งไล่ตามตูดมาติดๆ ผมต้องวิ่งหนีพร้อมกับเข็นจักรยานอย่างทุลักทุเล
“พี่ก๊อตทางนี้”
“บักเล็ก.!! มึงหนีกู” ผมทั้งวิ่งทั้งชี้หน้าด่ามันพร้อมกับอาการหอบเหนื่อย
“หนีก่อนอย่ามั่วแต่ด่า หมาสิกัดก้นแล้ว โยนเกิบให้มัน” ผมรีบสะบัดข้อเท้าตัวเองอย่างแรง ปล่อยรองเท้าแตะคู่โปรดปลิวลอยไปตกต่อหน้าหมาดำ เมื่อมันเห็นมันก็หยุดวิ่งและคาบรองเท้าผมสะบัดเล่นไปมา
เป็นทางลงเนินพอดีได้โอกาส ผมเลยกระโดดขึ้นจักรยานพร้อมกับอเล็ก หวังว่าจะให้มันถลาลงตามทาง แต่โชคไม่เข้าข้าง ล้อจักรยานมันดันล๊อกเข้ากับโซ่ ทำให้ผมเสียหลัก
อร้าย...เสียงผมกรีดร้องอย่างโหยหวน
ซ่อยข่อยแหน่..
โครม..!!
จักรยานพุ่งชนเข้ากับต้นมะพร้าวข้างทางอย่างจังทำให้พวกเรากระเด็นออกจากรถตกลงไปกองอยู่ในคลองข้างถนน
“ โดโด้ลูกพ่อ โจรมันไปทางไดแล้ว”น้องซึ้มวิ่งมาคุกเข่าลงลูบหัวหมา (ขนาดลูบหัวหมายังเท่ห์) ผมกับอเล็กได้แต่นอนนิ่งๆอย่างเงียบที่สุดอยู่ในคลอง “มันคงนี้ไปแล้วกลับบ้านกันเถอะ”
เมื่อเห็นว่าทางสะดวก เราทั้งสองต่างพากันคลานขึ้นมาอยากทุลักทุเล มองดูสภาพตอนนี้ดูไม่ไดเลย เนื้อตัวเปื้อนไปด้วยเศษใบไม้
“บักเล็ก..!! มึงบอกกูว่าบ่ต้องย่าน แล้วเป็นหยังมึงคือแลนหนีกู บักควย.!!” ผมใส่มันเป็นชุดพร้อมกับหลุดขำให้กับตัวเอง
“พี่ก๊อตบ่ต้องด้าผมเลย พี่ก๊อตเองที่อยากเห็นหน้าอ้ายซึ้ม ผมกะพามาแล้วเด้”
“มื้ออื่น มึงต้องพากูไปโรงเรียน ไปเบิ่งหน้าน้องซึ้ม แล้วเอาจักรยานไปซ่อมให้กูนำ”
“ครับๆ เมียอ้ายซึ้ม” ได้ยินแบบนี้ผมถึงกับหลุดยิ้มมีความสุข และเดินขากระเพลกใส่ร้องเท้าข้างเดียวจูงจักรยานกลับบ้าน