..........................................................
.........................................................
ณ ร้านเหล้าบ้านนอก กลางทุ่งนา...............
“กูกลับก่อนนะ’’
“ไปไหวมั้ยวะ ให้พวกกูไปส่งมั้ย”
“ไม่เป็นไรๆ ไปเองได้โชดดี” เดินเซ
“เฮ้อ หมอนี้คออ่อนแล้วดื่มเยอะ จะไหวมั้ย”
“มันมากับเพื่อนก็ปล่อยๆมันเถอะ คงขับรถกันไหวแหละเราเองก็รีบๆไปกันเถอะจะตี1แล้ว”
บรื่นนนน ............... เสียงเร่งเครื่อง รถกระบะสีดำเก่า
3หนุ่มในรถกระบะที่เมาหนักมากๆกำลังจะมุ่งตรงกลับบ้านในทางที่มืดมิดโดยที่ไม่มีสติเต็ม100เท่าไรล้อเริ่มหมุนออกจากกลางทุ่งนาใหญ่เพื่อกลับบ้าน เด็กวัยรุ่นทั้ง 3ที่ทำหน้ามึนพร้อมเริ่มง่วงแทบไม่ไหวแล้วฝ่ายที่ขับรถเองก็สัปหงกหัวอยู่ สะดุ้งเป็นบางที่ เมื่อคอเริ่มตก รถกระบะส่ายไป-มาดูน่ากลัวกับถนนโล่งๆไม่มีเสาร์ไฟฟ้าชักต้น......... จนกระทั้ง........
บรื่นนนนนนนนนน เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!
“เฮ้ยเอ็งหยุดรถ ทำไมไม่บอกวะ” เพื่อนคนที่ 1 บ่น
“โทษ โทษ ปวดฉี่ ไปฉี่แปป” คนขับรถลงไปฉี่
พรื่ดดดดด รูดชิบกางเกงลง
ชายหนุ่มลงไปยืนฉี่ที่ขอบถนนหารู้มั้ยว่าที่นั่นเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์แต่เขาแทบจะลืมตาไม่ได้แล้วในตอนนี้ก่อนจะรีบรูดชิบขึ้นพร้อมเดินกลับไปที่รถแบบครึ่งตื่น ครึ่งหลับ ออกรถไปต่อ ตามทางนั่นมืดมากๆ ไฟหน้ารถเก่ามีเพียงข้างขวาที่ส่องอยู่อีกข้างพังไปแล้ว..............
............... มอ........... มอ......... มอ
“เฮ้ยๆๆๆๆๆๆ “ เพื่อนคนที่ 1 เริ่มสะกิดไหล่คนขับ
“อื่อ ไรวะ”
“วัวน่ะ วัวอยู่ข้างหน้า เบาๆเบรดๆ เบรดดิ!!!”
“หา อะไร นะ!!!!”
เอียดดดดดดดดดดด โครมมมมมมมมม!!!!!
เสียงดังโคมได้เกิดขึ้นเมื่อ3วัยรุ่นขับรถขน วัวตัวขนาดใหญ่สีดำจนหน้ารถพัง ทั้ง 3 คนได้รับบาดเจ็บพร้อมวัวที่เดินเต็มถนนไปหมด คนที่ขับรถยกหัวขึ้นเพราะหน้าผากกระแทกกับพวงมาลัยจนหน้าผากแตกเลือดออก อีก 2คน กระเด็นออกนอกรถไปคนละทิศละทาง วัวไม่เป็นอะไร คนขับรีบเซตัวเองลงจากรถ เพื่อนๆของเขาได้รับบาดเจ็บ โดนกีบเท้าเหยียบช้ำเกือบจะตาย
“ โว๊ยยยย ออกไปนะ!!!! ออกไป๊!!!” ไล่ฝูงวัว
“โอ๊ยยยยยย เจ็บบบบ ช่วยด้วย” นอนอยู่ในฝูงวัว โดนกีบเท้าขย่ำ
“อย่าทำเพื่อนกูนะ!!!! อ๊ากกก” รีบคว้าแขนเพื่อนแล้วดึงออกมา
เสียงโหยหวนดังขึ้นมาตลอดเวลาปะปนกับเสียงวัวนับ 10 ตัวที่เดินเหยียบย่ำเพื่อนของเขาจนหน้าบวมตาทะลัก ไม่รู้เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นจู่ๆก็มีวัวที่ไหนไม่รู้มาเดินเพ่นพานแถวนี้และพยายามจะทำร้ายพวกเขาให้ตาย แต่คนขับรถได้ช่วยเพื่อนออกมาได้ 1คน อีกคนโดนกีบเท้านับ10เหยียบจนตายคาที่ ทั้ง2 ที่หายเมารีบวิ่งหนีไม่เอาอะไรชักอย่างบนถนนที่กว้างและเงียบมากไม่มีรถผ่านชักคัน
“เอาไงวะ แฮ่ก แฮ่ก “
“ไม่รู้ ไม่มีใครอยู่ที่นี้เลยวะ ถนนโล่งมันเรื่องบ้าอะไรเนี้ย”
“.........โทร....จริงดิโทรหาใครก็ได้ “
“เออ วะ “ ล่วงมือถือออกมา
“.......ซวยแล้ว ไม่มีสัญญาณอะไรเลย ของเอ็งละ”
“ของกูแบตหมด...........”
..............มอ......มอออออ......อออออ
“เฮ้ย มะ...มันมาตามเรามาวะ”
“อย่าไปยุ่งกับมัน หนีไปเร็ว หนี”
ทันใด คนที่ขับจู่ๆก็วิ่งจนหกล้มเพื่อนของเขารีบหยุดสะงั่กหันกลับไปมองพร้อมวิ่งมาช่วยเพื่อนแต่ทว่าร่างกายของเพื่อนเขาเปลี่ยน ตัวขยายใหญ่ขึ้นสูงขึ้นแถมน่ากลัวเสียงร้องโหยหวนจนน่าขนลุกดังขึ้นมา สัตว์ดุร้ายในร่างมนุษย์กำลังหิวโหยมือใหญ่มากๆคว้าร่างของเพื่อนของตัวเอง เขมือบเข้าไปปากหน้าตาเฉยกินทั้งร่างฉีกทั้งตัว เพื่อนของตาค้างตายเลือดตกลงพื้นร่างของสัตว์ใหญ่เริ่มหิวตากวาดมองวัวที่ร้อง มอ มอ ก่อนจะเอือมมือไปจับร่างนั่นกินไปอีกตัว.....................
.
.
.
.
.
.
.
.
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!
“คุณหมอค่ะ มาช่วยตรงหน่อยค่ะ!!!!”
“พาไปที่ห้องฉุกเฉินเดี๋ยวนี้เลย อาการหนักมากๆ
“โอ๊ยยย เจ็บๆๆๆ ไม่ไหว อ๊ากก”
“ใจเย็นๆไว้ไอ้หนู เธอปลอดภัยแล้ว”
ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใกล้ๆหมู่บ้านของบ้านนอก กำลังเข็นเตียงผู้ป่วยมีเด็กวัยรุ่นนอนร้องครวญครางบนเตียงหัวมีแต่เลือด มีบาดแผลที่ตัวเล็กน้อยพวกคุณหมอรีบนำร่างที่เจ็บสาหัสเข้าห้อง ไอ.ชี.ยูแบบเร่งด่วน สอบหาประวัติและเรียกพ่อแม่ของเด็กให้มาที่นี้..........
กลับมาทางเดิมของอีกวัน..............
“ผู้กองครับเมื่อวานผมพึ่งสอบปากคำคนละแวกนี้มาครับ เขาบอกไม่เห็นรถของเด็กวัยรุ่นนี้ขับผ่านมาเลยครับ”
“.................. ทำไมกัน แต่ศพเน่าติดถนนขนาดนี้ยังคิดว่าไม่มีรถแล่นผ่านมาอีกเหรอ”
“พยานที่ให้ปากคำก็พอแบบเดียวกันครับ”
“....คนอื่นๆละไม่ใครในหมู่บ้านนี้รู้เรื่องพวกนี้เลยเหรอ”
“ไม่มีเลยครับ”
“..................”
ตำรวจหน้าคม ยศสูง นาม ผู้หมวด ไผ่ ยืนมองศพที่เน่าเละติดถนนแถมส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว ชาวที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีรถของเด็กวัยรุ่นผ่านเข้ามาในถนนโล่งนี้เลย รถกระบะหน้ารถพังยุบจอดเอียงอยู่อีกฝั่งของเกาะถนน ไผ่ ส่ายหัวเบาๆถอนหายใจออกมาก่อนจะทำคดีต่อไปสืบเรื่องให้ได้ว่ามันคืออะไรกันแน่
“เด็กวัยรุ่นที่เราสอบปากคำ วันนี้ยังไม่ค่อยพร้อมเลยครับผู้หมวด”
“.... แต่เด็กหายดีแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ครับ แต่เขายังมีอาการผวาอยู่ครับ ถามคำตอบคำ”
“ถอยไป ผมจะไปถามเอง”
ตึก ตึก...........
“อึก.......” เด็กตกใจ
“สวัสดี ฉันผู้หมวดไผ่ .........พอจะไหวให้ปากคำมั้ย”
“.....เรื่องอะไรครับ”
“เรื่องที่เธอขับรถล้ม.......ฉันเห็นศพของเพื่อเธอเละอยู่กลางถนน....”
“.....ผม.....จำไม่ได้”
ไผ่จ้องมองไปที่ข้อมืออีกฝ่ายที่มีสายศิลสีขาวสะอาดมัดติดอยู่ที่ข้อมือเด็ก แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร ก่อนจะถอดหมวกตำรวจออกเพราะร้อนเขามัดผมไว้เพราะจริงๆการเป็นตำรวจต้องตัดผมแต่เขาไม่อยากตัดเลยต้องมัดไว้แบบนี้เหมือนอะไรชักอย่างที่ทำให้เขาไม่อยากตัดมันออก
“ที่นี้พอจะตอบอะไรได้มั้ย สิ่งที่นายเห็น”
“ผมรู้แต่ผมเมามากๆ แล้วหลังจากนั่น..............”
...................วูบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
จู่ๆภาพหลายๆอย่างก็โผล่พรวดเข้ามาในหัวของเขาและใบหน้าก็นิ่งไปจดจำแต่สิ่งที่เขาพบเจอ มือเริ่มสั่นเท่าเหงื่อเริ่มออกเป็นเม็ดๆดวงตาเริ่มพร่ามัวปากไม่ขยับสั่นมากก่อนจะใช้มือกุมหัวไว้แน่น
“เฮือก!!!!!!!”
“เฮ้ นายเป็นอะไรไปน่ะ”
“แฮ่ก อ๊ากกกกกกก ออกไป!!!!!!”
“นี้!!!!!” ไผ่แตะโดนสายศิล
“อึก!!!!!!” มองไผ่เขม็ง
“.!!!!!”
ตึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
“เกิดอะไรขึ้นครับ!!!!” คุณหมอพังประตูเข้ามา
“จู่ๆเขาก็เป็นอะไรไม่รู้ ร้องโวยวายเสียงดัง”
“ผู้หมวด ออกมาครับให้ผมจัดการเอง พยายามไปอุปกรณ์การแพทย์”
“ค่ะ!!!!!”
“...........ผู้หมวดครับ ออกไปก่อนเถอะ”
ไผ่มองเด็กวัยรุ่นคนนั่นดิ้นพรวดพรานเหมือนโดนไฟลวกทั้งตัว ตำรวจใบหน้าคมรีบหันตัวเดินหนีออกไปเบาๆก่อนจะหยุดที่หน้าประตู แต่ยังคงแอบดูที่หน้าประตูอยู่ เด็กวัยรุ่นคนนั่นโดนมัดแขนและขาไว้ติดกับเตียง มีหมอกับพยาบาลช่วยกันจับเขาไว้ .......................
“...............หรือว่า...............หมอนั่น.................”
.
.
.
.
.
.
.