อีบุ๊ควางแผงแล้วนะจ๊ะ กดตรงที่รูปได้เลยจ้า
ไรท์ได้ลงนิยายเรื่องนี้ในธัญวลัยจนจบสมบูรณ์แล้วนะจ๊ะ ดังนั้นจึงขอกดซ่อนตอนบางส่วนจ้ะ
ขอบคุณที่ตามอ่านกันมาจนจบนะจ๊ะ ขอบคุณจ้ะ
--------------------------------------------------------------------
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองในซีรีย์ นิยายรักนานาชาติ นะจ๊ะ
หลังจากเรื่องแรกคือ เกาหลีที่รัก (love love Korea) จบลง
ชีวิตของแทฮากับวายุก็มีความสุขตามอัตภาพตามประสาไอดอล และเซเลบชื่อดังก้องเกาหลี
ครานี้ก็ถึงคราวของ ปารณ นักศึกษาปริญญาเอกเพื่อนรักของวายุ ที่ชะตาพัดพาให้เขาไปใช้ชีวิตที่เกียวโตถึงแปดเดือนด้วยกัน เรื่องราวของพระเอกคนที่สองของซีรีย์จะเป็นเช่นไร เขาจะพบกับอะไรบ้าง ติดตามอ่านกันได้ใน ญี่ปุ่นลุ้นรัก (Nippon Love Rooting) กันได้เลยจ้า
ปารณ นักศึกษาระดับปริญญาเอกอายุ 29 ปี จากประเทศไทย เดินทางไปทำวิจัยที่เมืองหลวงเก่าแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัยเป็นเวลาแปดเดือน ถึงจะหล่อสุโก้ย แต่แต่งตัวได้เชยสะบัด ... ฤาเขาจะเป็นผู้นำแฟชั่นคนใหม่ของญี่ปุ่นกันนะ แล้วคนญี่ปุ่นจะมองหนุ่มไทยคนนี้อย่างไร
ซายูริซัง นักศึกษาหญิงคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเกียวโต วัย 25 ปี หน้าตาสะสวยผิวขาวหมดจด งดงามราวซากุระแรกแย้มในฤดูใบไม้ผลิ ครั้งพบปารณเป็นหนแรกก็หลุดขำชาเขียวพุ่งเพราะขำการแต่งตัวของเขา เมื่อชะตาพาให้เธอมาพบเจอกับเขาแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปเมื่อเธอทราบว่าชายหนุ่มเองมีแฟนอยู่แล้วที่ประเทศไทย
พราวฟ้า นักศึกษาปริญญาเอกรุ่นน้องคนละภาควิชากับปารณ เธออายุน้อยกว่าเขาหนึ่งปี พราวฟ้าคบกับปารณได้ 3 เดือนก่อนที่เขาจะไปญี่ปุ่น ทั้ง ๆ ที่ได้สัญญากันไว้แล้วว่าจะกลับไปหากัน แต่เมื่อแฟนเก่าของเธอกลับเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้ง เธอจะตัดสินใจอย่างไร
โปรดติดตามใน ญี่ปุ่นลุ้นรัก Nippon Love Rooting
Cr. Mario Maurer / © Kapookdotcom/ CC BY-SA 3.0 ; huweijie07170-public domain
--------------------------------------------------------------------------------
ปารณได้ฟังคำถามจากหญิงสาวแล้วก็รู้สึกตัว รีบแนะนำตนเองไป
“อ๊ะ...ขอโทษที่เสียมารยาทครับ ผมชื่อปารณ เป็นนักศึกษาปริญญาเอกจากประเทศไทยมาทำวิจัยที่นี่จนถึงสิ้นปีนี้ครับ”
ซายุริครั้นทราบว่าชายหนุ่มมาจากประเทศอะไรก็ยกมือสองข้างขึ้นมากุมกันไว้ทำท่าเหมือนอ้อนวอนพระเจ้า ดวงตาเป็นประกาย โพล่งขึ้น
“ประเทศไทยเหรอคะ!? ว้าว...ฉันเคยไปประเทศไทยครั้งหนึ่งนะ...มันยอดมาก สนุกมาก และอาหารก็อร่อยมาก...แต่ ก็ร้อนมากเช่นกัน...จะบอกให้ ว่าฉันพูดภาษาไทยได้ด้วยนะ”
ปารณได้ฟังที่หญิงสาวแห่งดินแดนซากุระโม้ตาเป็นประกายแล้วก็อยากรู้ว่าเธอพูดอะไรได้บ้าง เขาจิบน้ำชาเลิกคิ้วขึ้นรอฟัง
“ไอ่ซั้ส...ไอ่เหี้ย...ไอ่เบื๊อก”
ซายูริพูดคำเหล่านี้ออกมาด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ ตรงข้ามกับปารณถึงกับสำลักน้ำชาแทบพุ่ง ไอแค่ก ๆ จนคนหันมามองกันใหญ่
ซายูริรีบเข้าไปดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง เห็นเขายังคงไออยู่ จึงช่วยลูบหลัง
ปารณเริ่มดีขึ้น เอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดปาก พลางเอ่ย
“แค่ก...โอย...น้ำชายังอยู่ในจมูกผมอยู่เลย...ซายูริซัง! คุณไปเอาคำเหล่านี้มาจากไหนกัน”
ซายูริเห็นสีหน้าปารณไม่ค่อยดี รู้สึกไม่แน่ใจกับภาษาไทยของตนเองอีกแล้ว ขมวดคิ้วเอ่ยถามหน้าหงอย
“ฉัน...ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ?”
“คุณรู้ไหม คำพวกนี้มีความหมายว่าอย่างไรบ้าง?”
ซายูริซังส่ายหน้า เริ่มรู้แล้วว่าภาษาไทยของเธอมันไม่น่าใช่
“คือ ฉันเรียนมาจากเด็กคนหนึ่งตอนฉันไปแบงค็อกค่ะ เขาถือถาดผลไม้มาเดินขาย ฉันเลยช่วยซื้อ เขาเลยสอนฉันมาแบบนี้” ซายูริกล่าวพลางคิดถึงตอนคุยกับเด็กคนนั้น...
... “นี่พี่สาว...ไอ่ซั้ส คือบิ้วตี้ฟูน...ไอ่เหี้ยแปลว่าแฮนด์ซั่ม...เวรี่กู้ดคือไอ่เบื๊อก”...
...ซายูริเล่าให้ชายหนุ่มฟัง ปารณรู้ทันทีว่าเธอโดนแกล้งเข้าให้แล้ว